“พี-มาร์ท” ทุ่ม 5,000 ล้านบาท สร้างแกร่งก่อนเข้าตลาดหุ้น แตกไลน์จากอาหารแช่แข็ง ลุยขายผักและอุปกรณ์เครื่องครัว ผุดคลังสินค้าเพิ่มควบคู่ขยายสาขาให้ครบ 30 สาขาภายในปี 58 เพื่อรองรับการขยายตัวจ่อลุยเออีซี พร้อมแผนลงทุนอีก 5,000 ล้านบาทหลังเข้าตลาดหุ้นแล้ว เตรียมเปิดตัวแบรนด์แอมบาสซาเดอร์คนแรกเดือนกรกฎาคม 58 เพื่อสร้างอิมเมจ
นายพลภัทร สุขหน้าไม้ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท พี-มาร์ท ซุปเปอร์สโตร์ จำกัด ผู้ประกอบการด้านค้าส่งอาหารแช่แข็ง เปิดเผยว่า แผนการนำบริษัทฯ เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างการดำเนินการซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยล่าสุดได้แต่งตั้งให้ บรัษัท เอเซียพลัส เป็นที่ปรึกษาทางด้านการเงิน บริษัท เอิท แอนด์ ยัง เข้ามาดูแลระบบภายในองค์กร และบริษัท PWC เข้ามาเป็นผู้ตรวจสอบทางบัญชี อีกทั้งมีที่ปรึกษาทางด้านกฎหมายในการเข้าตลาดหุ้นด้วยซึ่งคาดว่าจะสามารถเข้าระดมทุนในตลาดฯ ได้ภายในปี 2560
ทั้งนี้ หลังจากเข้าตลาดหุ้นแล้วมีแผนจะระดมทุนอีก 5,000 ล้านบาทเพื่อใช้ในการขยายธุรกิจพี-มาร์ทให้ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมทั้งตลาดกรุงเทพฯ ด้วย ซึ่งเป็นตลาดที่แข่งขันสูงและรุนแรงจากผู้ประกอบการรายใหญ่ แต่ก็เป็นตลาดที่ใหญ่และเติบโตดี ดังนั้นบริษัทฯ จึงต้องสร้างความพร้อมไว้ก่อนที่จะรุกตลาดกรุงเทพฯ จริงจัง เพื่อรองรับตลาดอาหารแช่แข็งในเมืองไทยที่มีมูลค่ามากกว่า 24,000 ล้านบาท เติบโตไม่ต่ำกว่า 25% ต่อปี รวมทั้งการขยายธุรกิจไปต่างประเทศหลังจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนด้วยซึ่งในเบื้องต้นมองไว้ที่ประเทศลาวและเวียดนาม เพราะมีพฤติกรรมการบริโภคเหมือนคนไทยและคงไปในลักษณะของการร่วมทุน
อย่างไรก็ตาม แผนงานก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนรวมไว้ที่ 5,000 ล้านบาทใน 2 ปีจากนี้คือปี 2559-2560 ที่จะขยายสาขาปีละ 10 สาขา เพื่อให้มีสาขาครบ 30 สาขาก่อนเข้าตลาดหุ้นซึ่งปีนี้ที่มองไว้ เช่น มุกดาหาร ร้อยเอ็ด เป็นต้น ขณะที่ปีนี้จะลงทุนประมาณ 1,000-1,500 ล้านบาท ขยายเพิ่มอีก 4 สาขาคือ หนองคาย โคราช บุรีรัมย์ และเชียงราย เพื่อให้ครบ 10 สาขาในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันที่มี 6 สาขาแล้วคือ เชียงใหม่ ขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี สกลนคร และสุรินทร์
นอกจากนั้น ยังพิจารณาในจังหวัดเดิมที่มีสาขาแล้วและอาจจะมีการเปิดสาขาที่สองเพิ่มในจังหวัดเดิม ส่วนสาขาเดิมนั้นมีแผนที่จะต่อยอดเช่นเดียวกับการเปิดสาขาใหม่ที่จะมีบริการอื่นเพิ่มคือ การจำหน่ายผัก ผลไม้ และเครื่องครัว จากเดิมที่เน้นการขายอาหารแช่แข็งเท่านั้น อีกทั้งสาขาใหม่ที่โคราชที่จะเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดเพราะมีคลังสินค้าด้วย พื้นที่รวม 4,000 ตารางเมตร คาดก่อสร้างเสร็จปลายปีนี้ซึ่งจะสามารถเก็บสินค้าได้ประมาณ 2,000 ตัน และยังพิจารณาพื้นที่ก่อสร้างคลังสินค้า หรือดีซีเพิ่มเติมอีกเช่นที่นครสวรรค์ หรือพิษณุโลก
ส่วนความพร้อมด้านอื่น เช่น กำลังผลิตและดีซีนั้นอยู่ระหว่างการขยายพื้นที่เพิ่มอีก 40 ไร่จากโรงานเดิมที่ ถ.บ้านกล้วย-ไทรน้อย 14 ไร่ ซึ่งจะขยายพื้นที่คลังสินค้าอีก สามารถเก็บได้ 50,000 ตันจากเดิมไม่กี่พันตัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการถมดินและจะต้องเพิ่มรถบรรทุกขนส่งอีกกว่า 50 คัน จากขณะนี้มี 6 คัน
สำหรับปีที่แล้วมีรายได้รวม 1,000 ล้านบาท ส่วนปีนี้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 2,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วงไตรมาสแรกทำรายได้ 500 ล้านบาท และเป้าหมาย 3 ปีจะมีรายได้รวมประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยปีนี้จะใช้งบการตลาด 50 ล้านบาท จัดแคมเปญส่งเสริมการขาย โดยจัดแคมเปญแจกรถ รวยทอง รางวัลรถกระบะ 20 คัน มอเตอร์ไซค์ 50 คัน ทองคำ 100 บาท รวมมูลค่ารางวัลกว่า 5 ล้านบาทให้แก่ลูกค้าที่ทำยอดขายได้เกินเป้าหมาย อีกทั้งเดือนกรกฎาคมนี้จะมีการเปิดตัวแบรนด์แอมบาสซาเดอร์คนแรกของพี-มาร์ท