xs
xsm
sm
md
lg

หวั่นปมค่าซ่อมรถ NGV ทำประมูลล่ม ขสมก.โยนหน่วยงานกลางช่วยเคลียร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เปิดปมปัญหาประมูลรถเมล์ NGV ล็อต 489 คัน ขสมก.ไม่กล้าสรุป หลังกลุ่ม ช.ทวีฯ เคาะราคาอี-ออกชันต่ำที่สุด เผยกรมบัญชีกลางติงต้องรวมค่าซ่อม 10 ปีด้วยเพื่อเลือกราคาต่ำที่สุดรับงาน ด้าน ขสมก.หวั่นเปิดซองค่าซ่อม “เบสท์รินกรุ๊ป” ผิดทีโออาร์ จ่อโยนหน่วยงานกลางช่วยหาทางออก

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า การประกวดราคาโครงการจัดซื้อรถโดยสารใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (NGV) จำนวน 489 คัน วงเงิน 1,784.85 ล้านบาท ซึ่งมีเอกชน 2 รายผ่านคุณสมบัติ คือ กลุ่มบริษัทร่วมค้า JVCC ซึ่งมีบริษัท ช.ทวี ดอลลาเซียน จำกัด (มหาชน) เป็นแกนนำ และ บริษัท เบสท์รินกรุ๊ป จำกัด ซึ่งปรากฏว่ากลุ่ม JVCC เป็นผู้ที่เสนอราคาอี-ออกชันต่ำที่สุดนั้น ยังไม่สามารถสรุปผลได้เนื่องจากในทีโออาร์กำหนดให้เจรจาต่อรองค่าซ่อมบำรุงปีที่ 6-10 ก่อน และผู้ที่ได้รับคัดเลือกและลงนามสัญญาคือผู้ที่เสนอราคารวมต่ำสุด โดยหมายถึงเสนอราคาตัวรถ รวมค่าซ่อมบำรุงปีที่ 1-5 และค่าซ่อมปีที่ 6-10 โดยคณะกรรมการเจรจาต่อรองค่าซ่อมบำรุงจะมีการประชุมในวันที่ 7พ.ค.นี้เพื่อเปิดซองข้อเสนอของกลุ่ม JVCC และเจรจาต่อรอง จากนั้นจะสรุปให้ นางปราณี ศุกระศร ในฐานะรักษาการ ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ตามขั้นตอนต่อไป

ทั้งนี้ กรรมการเจรจาฯ ยังมีข้อกังวลในประเด็นข้อเสนอการซ่อมบำรุงของกลุ่ม JVCC ที่อาจจะยังไม่สมบูรณ์ และส่งผลให้เกิดความไม่แน่ใจในศักยภาพ รวมถึงแผนการผลิตเพื่อส่งมอบรถให้ทันตามกำหนด เนื่องจากยื่นข้อเสนอประกอบในประเทศไม่ได้นำเข้าสำเร็จรูปทั้งคัน ขณะที่ทีโออาร์กำหนดระยะเวลาส่งมอบภายใน 90 วันหลังลงนามสัญญา ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบ ทั้งแผนการผลิต แผนการส่งมอบ อู่ซ่อมบำรุง ว่าดำเนินการได้จริงหรือไม่

แหล่งข่าวกล่าวว่า มาถึงจุดนี้ ขสมก.คงต้องเดินหน้าและสรุปผลประมูลตามที่กำหนดไว้ในทีโออาร์ เพราะเอกชนที่เสนอราคาอี-ออกชันต่ำสุดอาจจะฟ้องร้องได้ แต่มีข้อท้วงติงจากหน่วยงานกลาง เช่น กรมบัญชีกลาง ประเด็นที่กำหนดให้ผู้ได้รับคัดเลือกคือรายที่เสนอราคาต่ำสุดตลอดอายุสัญญา 10 ปี หมายถึงต้องรวมค่าซ่อมบำรุงปีที่ 6-10 ด้วย ซึ่งต้องเปิดซองข้อเสนอของเบสท์รินกรุ๊ปจึงจะทราบว่าราคารวมของรายใดต่ำที่สุด ในขณะที่ ขสมก.ไม่กล้าตัดสินใจเปิดซองข้อเสนอค่าซ่อมบำรุงของกลุ่มเบสท์รินเนื่องจากกลัวไม่ถูกต้อง เพราะทีโออาร์กำหนดให้เจรจาค่าซ่อมปีที่ 6-10 กับรายที่เคาะราคาต่ำที่สุด จึงเป็นไปได้ที่ ขสมก.อาจจะต้องส่งให้หน่วยงานกลางช่วยตรวจสอบราคารวมแทน

อย่างไรก็ตาม จากที่ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) ขสมก.ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ชนะเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางประมาณ 1 แสนบาทต่อคัน หรือเท่ากับลดลงจากราคากลางที่คันละ 3.65 ล้านบาทเหลือ 3.55 ล้านบาท หรือลดจากราคากลาง 1.78 พันล้านบาทเหลือประมาณ 1.73 พันล้านบาท ซึ่งรายงานข่าวแจ้งว่าราคาดังกล่าวต่่ำกว่าราคาของกลุ่มเบสท์รินกรุ๊ปไม่มากนัก ทำให้ไม่แน่ใจว่าหากนำค่าซ่อมบำรุงในปีที่ 6-10 ของเบสท์รินกรุ๊ปมารวมแล้ว ราคารวมของกลุ่ม JVCC จะยังคงต่ำกว่าหรือไม่ และทำให้รัฐจะเสียหายได้ หากเลือกผู้ที่ไม่ได้เสนอราคาต่ำที่สุดจริงๆ ซึ่งสาเหตุหนึ่งเนื่องจากในช่วงกว่า 10 ปี ขสมก.ไม่เคยประมูลงานขนาดใหญ่ ทำให้ขาดเจ้าหน้าที่ที่มีศักยภาพและประสบการณ์ในการกำหนดทีโออาร์ที่รอบคอบ และครอบคลุมในประเด็นที่สำคัญนั่นเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น