วัดใจบอร์ด ขสมก.ตัดสินผลสรรหา ผอ.ขสมก. หลังมีการร้องเรียนให้ทบทวนผลสรรหา ชี้คุณสมบัติ “เพ็ชร ชินบุตร” ซึ่งได้รับคัดเลือกไม่ถูกต้อง ใช้ประสบการณ์ผลงานบริหารมูลนิธิ ขณะที่ ขสมก.มีหนี้มาก ต้องการมืออาชีพมาบริหาร ด้านกรรมการสรรหาฯ ยกคำวินิจฉัยศาลปกครองสูงสุดยืนยันผลสรรหาตามมติเดิม
นายวันชาติ สันติกุญชร ประธานคณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีผู้สมัครเข้ารับการสรรหา ผอ.ขสมก.บางรายทำหนังสือถึง พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) ขสมก.ถึงคุณสมบัติของนายเพ็ชร ชินบุตร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเข้ารับตำแหน่งเป็น ผอ.ขสมก. และบอร์ด ขสมก.เห็นชอบแล้วนั้น เรื่องนี้ คณะกรรมการสรรหาฯ ได้เรียกประชุมหารือเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมาแล้ว และยืนยันผลการพิจารณาคัดเลือก ผอ.ขสมก.ที่สรุปไปแล้ว โดยจะเสนอผลการพิจารณาข้อร้องเรียนต่อที่ประชุมบอร์ด ขสมก.พิจารณาในปลายเดือน เม.ย.นี้ ส่วนจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างไรขึ้นอยู่กับที่ประชุมบอร์ด ขสมก.
ทั้งนี้ ข้อร้องเรียนกรณีนายเพ็ชร ชินบุตรนั้น ระบุว่ามีคุณสมบัติไม่ถูกต้องตามเงื่อนไขที่กำหนดในประกาศการรับสมัคร โดยขอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและทบทวนการพิจารณาผลการคัดเลือกใหม่อีกครั้ง
นายวันชาติกล่าวว่า ข้อร้องเรียนที่ให้ตรวจสอบมี 2 ประเด็น คือ 1. สถาบันอาหาร เป็นหน่วยงานรัฐหรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้ตรวจสอบประเด็นดังกล่าว พบว่า เมื่อปี 2553 ศาลปกครองสูงสุดได้วินิจฉัยว่าสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานของรัฐอีกรูปแบบหนึ่ง ดังนั้นคำวินิจฉัยของศาลถือว่าเป็นที่สิ้นสุดและอ้างอิงได้
2. เรื่องการกำหนดคุณสมบัติด้านความรู้ความสามารถของผู้สมัครไม่ชัดเจนนั้น ซึ่งตามปกติเงื่อนไขการรับสมัครเป็นการวางกรอบของผู้สมัครไว้เท่านั้น ถ้ามีคุณสมบัติครบก็มีสิทธิ์สมัคร ส่วนจะมีความรู้ความสามารถมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับการเข้ารับสัมภาษณ์และแสดงวิสัยทัศน์ต่อคณะกรรมการสรรหาฯ สำหรับผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือก คณะกรรมการคัดเลือกฯ พิจารณาแล้วว่าเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ เหมาะสมมากที่สุดที่จะรับตำแหน่ง ผอ.ขสมก.
รายงานข่าวแจ้งว่า ข้อสังเกตคุณสมบัติของนายเพ็ชร ชินบุตร ที่ถูกร้องเรียน เนื่องจาก 1. ยื่นสมัคร โดยใช้ใบรับรองการทำงานที่เป็นผู้บริหารจากภาครัฐ สถาบันอาหารภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งสถาบันอาหารจัดตั้งขึ้นโดยมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปี 2539 โดยให้อยู่ในความควบคุมดูแลของมูลนิธิกระทรวงอุตสาหกรรม 2. ยื่นสมัครโดยใช้งบดุลของสถาบันอาหารซึ่งเป็นหน่วยงานที่ได้รับงบประมาณจากมูลนิธิกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อดำเนินการเผยแพร่หรือสนับสนุนอาหารไทยโดยมิได้หวังผลกำไร
3. ข้อสังเกตงบประกอบการของมูลนิธิกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งตามประกาศสรรหา ผอ.ขสมก.ระบุว่า หากในภาคเอกชนจะต้องมีรายได้ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาทต่อปี ซึ่งสถาบันอาหารไม่ได้ดำเนินธุรกิจ ไม่ได้บริหารรายได้ 500 ล้านบาทต่อปี โดยได้รับการอุดหนุนการเงินจากมูลนิธิกระทรวงอุตสาหกรรมตามที่นำเสนอเป็นครั้งคราว
4. เจตนาหรือข้อบังคับ ข้อกฎหมายที่กระทรวงการคลังกำหนดให้ผู้เข้ารับการสรรหาเป็นผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ ถ้ามาจากหน่วยงานรัฐจะต้องดำรงตำแน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดขององค์กร กรณีมาจากภาคเอกชน ต้องดำรงตำแน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดขององค์กรเช่นกัน และต้องบริหารงบประมาณประจำและบริหารธุรกิจอย่างจริงจัง 5. ซึ่งสถาบันอาหารเป็นองค์กรที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร
6. จะเป็นมาตรฐานในอนาคต หากเป็นนิติบุคคล จัดตั้งในรูปแบบสมาคมหรือมูลนิธิ จะสามารถใช้เป็นผลงานอ้างอิงเข้ามาเป็นผู้บริหารรัฐวิสาหกิจได้ ซึ่ง ขสมก.นั้นมีปัญหาหนี้สินสูง มีการบริหารการเงินปีละกว่าหมื่นล้านบาท ผู้บริหารควรมีทักษะ ความรู้ในการบริหารการเงิน บุคลากร และเป็นมืออาชีพ
