xs
xsm
sm
md
lg

“โอภาส” โผล่ชิง ผอ.ขสมก.อีก จับตาเกมสกัดคนนอกเข้ามาล้างทุจริต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ปิดรับสมัคร ผอ.ขสมก.รอบ 2 ช่วงขยายเวลาเพิ่ม “โอภาส เพชรมุณี” โผล่ร่วมวงอีก หลังไม่ผ่านเกณฑ์คะแนนแสดงวิสัยทัศน์รอบแรก วงในจับตางานนี้อาจเป็นเกมที่กลุ่มอำนาจกต้องการสกัดคนนอกเข้ามารื้อ ล้างบางทุจริต โดยให้ “โอภาส” นั่ง ผอ.อีกสมัย

รายงานข่าวแจ้งว่า ตามที่คณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการ (ผอ.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่มี นายวันชาติ สันติกุญชร กรรมการ (บอร์ด) ขสมก. เป็นประธานได้เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้ารับตำแหน่ง ผอ.ขสมก.ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 16-27 กุมภาพันธ์ 2558 หลังจากที่ต้องล้มการสรรหาครั้งแรก เนื่องจากไม่มีผู้สมัครรายใดผ่านเกณฑ์คะแนนการแสดงวิสัยทัศน์ที่ 70% โดยมีผู้สมัคร 5 ราย โดยเป็นผู้ที่เคยสมัครในครั้งแรก 3 ราย ประกอบด้วย นายวีรศักดิ์ พรหมภักดี นายวิญญา มกรพงศ์ นายณัฐศิลป์ จงสงวน และผู้สมัครใหม่ 2 ราย คือ นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล อดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์ พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) และ นายเพ็ชร ชินบุตร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร บริษัท ธนารักษ์ พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) 

โดยคณะกรรมการสรรหาฯ เห็นว่า จำนวนผู้สมัคร 5 รายน้อยไป จึงขยายเวลาการรับสมัครระหว่างวันที่ 5-13 มีนาคม 2558 ปรากฏว่า มีผู้สมัครเพิ่มอีก 2 คน ได้แก่ 1.นายโอภาส เพชรมุณี อดีตผอ.ขสมก. ซึ่งเคยสมัครในครั้งที่ 1 แต่ไม่ผ่านเกณฑ์คะแนนการแสดงวิสัยทัศน์ที่ 70% และ 2.นายอภิสิทธิ์  ชื่นชมภู อดีตผู้บริหารบริษัท อีลิทการ์ด ทำให้มีผู้สมัครรวม 7 ราย 

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ขสมก.เป็นองค์กรที่มีการทุจริตคอร์รัปชันมาก และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ขาดทุน และมีหนี้สินสะสมจำนวนมาก ในขณะที่ได้รับการอุดหนุนงบประมาณเพื่อชดเชย เป็นภาระของรัฐบาลมายาวนาน ดังนั้น รัฐบาลปัจจุบันจึงต้องการ ผอ.ขสมก.คนใหม่ เป็นคนภายนอกที่มีความรู้ความสามารถในการพัฒนา และเพิ่มศักยภาพในการให้บริการสาธารณะเพื่อขจัดกลุ่มอำนาจเก่าที่ฝั่งรากลึกหาผลประโยชน์จาก ขสมก. และนำพา ขสมก.ก้าวสู่การแข่งขัน และสร้างรายได้เลี้ยงตัวเองได้

การสรรหาครั้งที่ 1 มีผู้สมัครที่ผ่านเกณฑ์คะแนนแสดงวิสัยทัศน์ 1 ราย โดยมีกรรมการ 1 คน จากทั้งหมด 4 คน (กรรมการสรรหามี 5 คน วันแสดงวิสัยทัศน์ ลา 1 คน) ให้คะแนนเกิน 70% ซึ่งกรณีที่มีผ่านเกณฑ์จากกรรมการ 1 คนนั้น ผู้สมัครรายนั้นจะได้คัดเลือกหรือไม่ อยู่ที่กรรมการสรรหาจะพิจารณา ซึ่งครั้งนี้สรุปว่าไม่มึใครผ่านการแสดงวิสัยทัศน์ ทำให้ต้องเปิดรับสมัครครั้งที่ 2 และขยายเวลาเพิ่มเติม

แหล่งข่าวกล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า การที่ นายโอภาส กลับมาสมัครอีกครั้งในช่วงมีการขยายเวลาเพิ่มน่าจับตามองไม่น้อยว่าอาจจะมีการเจรจาต่อรองกับผู้มีอำนาจหรือไม่ ซึ่งหาก นายโอภาส ได้รับการคัดเลือกเป็น ผอ.ขสมก.ครั้งนี้ เป็นเรื่องน่าคิดว่าอนาคต ขสมก.จะเป็นอย่างไรเนื่องจากช่วงที่ นายโอภาส บริหาร ขสมก. 4 ปี มีข้อท้วงติงถึงความไม่เหมาะสมในหลายเรื่อง ทั้งกรณีที่ นายโอภาส ถูกบัตรสนเท่ห์วิจารณ์การทำงานที่ไม่โปร่งใสจำนวนมาก และมีเรื่องถูกร้องเรียนอีกด้วย อีกทั้ง นายโอภาส ไม่สามารถแก้ปัญหาองค์กรได้ โดยอ้างปัญหาขาดทุนเกิดจากรถ ขสมก.มีสภาพเก่า และมุ่งเรื่องการซื้อรถใหม่อย่างเดียว แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ได้เป็นอย่างดี ในขณะที่อนาคตนโยบายต้องการแยกบทบาทของ ขสมก. จากที่ทำหน้าที่ทั้งกำกับดูแล (Regulator) ให้ใบอนุญาตรถร่วมเอกชน และเดินรถด้วย เหลือเดินรถเหมิอนเอกชนรายหนึ่งอย่างเดียว จะเป็นภาระสำคัญของ ผอ.ขสมก.ว่าจะสามรถแข่งขันกับเอกชนได้โดยรัฐไม่ต้องอุดหนุนงบประมาณได้หรือไม่ 

ขณะที่ยังมีผู้สมัครในส่วนที่เป็นคนนอก และมีคุณสมบัติสอดคล้องต่อฝ่ายนโยบายเป็นตัวเลือกอยู่แล้ว จึงต้องติดตามต่อไปว่า ผลสรรหา ผอ.ขสมก.ในครั้งนี้จะออกมาอย่างไร ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ชี้ชะตาอนาคต ขสมก.ได้ไม่น้อย
กำลังโหลดความคิดเห็น