xs
xsm
sm
md
lg

จับทุจริตเจ้าหน้าที่ขนส่งฯ รื้อระบบเก่า ติดตั้งไอทีสแกนบริการทุกขั้นตอน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กรมการขนส่งฯ ทุ่มใช้ระบบไอทีรีเช็กการให้บริการทุกขั้นตอน ปิดช่องทางเจ้าหน้าที่ทุจริต ยกระดับบริการ สะดวก รวดเร็ว โปร่งใส “อธิบดี” เผยจับมือ CAT เสียภาษีรถประจำปีผ่านตู้คีออสก์ เริ่ม พ.ค.นี้ พร้อมเชื่อมข้อมูลจาก “ตรอ.” ออนไลน์ตรง แก้ปัญหาซื้อใบตรวจสภาพต่อภาษี ก้าวสู่กรมขนส่งยุคดิจิตอล

ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันจากเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะหน่วยงานที่ให้บริการประชาชนโดยตรงอย่าง กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) นั้น เป็นความคุ้นชินมายาวนาน ซึ่งเจ้าหน้าที่มักจะฉวยโอกาสจากการที่ต้องให้บริการประชาชนเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน เป็นช่องทางในการทุจริต โดยกรมการขนส่งฯ มีหน้าที่ในการจัดระเบียบการขนส่งทางบก โดยการกำกับ ดูแล ตรวจสอบ ตรวจตราให้มีการปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ ประสานและวางแผนให้มีการเชื่อมต่อกับระบบการขนส่งอื่นๆ เพื่อให้ระบบการขนส่งทางบกเกิดความคล่องตัว สะดวก รวดเร็ว ทั่วถึง และปลอดภัย รวมถึงการให้บริการด้านจดทะเบียนและต่อภาษีรถนั้นถือเป็นหน้าที่สำคัญ เนื่องจากปัจจุบันรถยนต์มีจำนวนกว่า 35 ล้านคัน แบ่งเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล 12 ล้านคัน รถบรรทุก รถบัสขนาดใหญ่ 3 ล้านคัน และรถจักรยานยนต์ประมาณ 20 ล้านคัน

นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมฯ ได้นำระบบเทคโนโลยีมาใช้ในการให้บริการทุกๆ ส่วนเพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็วในการบริการประชาชน ในขณะเดียวกัน ระบบไอทีที่ทันสมัยจะเป็นเครื่องมืออย่างดีที่ช่วยป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งมีผลออกมาเป็นระยะๆ เช่น

ตรวจพบเจ้าหน้าที่รับจดทะเบียนและชำระภาษีทุจริต โดยกรมฯ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน และแจ้งความเพื่อดำเนินคดี ทั้งวินัย อาญา และแพ่ง กรณีนี้ตรวจเจอเพราะได้นำระบบไอทีเข้ามาช่วยตรวจสอบถึง 3 ชั้น คือ ใบเสร็จที่ออกให้ประชาชน ใบเสร็จต้นขั้ว และใบเสร็จส่งกองคลัง ซึ่งพบว่าใบเสร็จต้นขั้วและใบเสร็จกองคลังระบุ 0 บาท ในขณะที่ใบเสร็จที่ออกให้ประชาชนจะระบุตัวเลขตามจำนวนที่ได้ชำระ

“ประชาชนชำระเงินค่าภาษีรถ แต่เงินนั้นไม่เข้ากรมการขนส่งฯ เพราะไปตกอยู่ที่เจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์ ซึ่งพบว่าจะทำในลักษณะนี้ปีละ 4 วัน คิดเป็นเงินที่สูญหายวันละ 5 แสนบาท โดยจะเลือกวันที่ปิดรอบชำระภาษีเพราะจะมีประชาชนเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ได้ปรับปรุงหน้าเคาน์เตอร์รับชำระภาษีให้โล่ง และติดตั้งกล้อง CCTV เพื่อดูการทำงานของเจ้าหน้าที่แต่ละคนด้วย ดังนั้น ยุคนี้รับประกันต่อภาษีไม่มีใต้โต๊ะ”

นายธีระพงษ์กล่าวว่า ยุคแรกกรมการขนส่งฯ ให้บริการรับชำระภาษีรถประจำปีเฉพาะหน้าเคาน์เตอร์สำนักงานขนส่งพื้นที่ต่างๆ เท่านั้น ต่อมาในยุคที่สองได้เพิ่มช่องทางการเสียภาษีเพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกมากขึ้น โดยเพิ่มการรับชำระภาษีแบบเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) ต่อภาษีได้โดยไม่ต้องลงจากรถ ที่สำนักงานขนส่ง และชำระผ่านที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ ห้างสรรพสินค้า และเคาน์เตอร์เซอร์วิส

และล่าสุดกรมการขนส่งฯ ได้ร่วมมือกับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT ในการเปิดให้บริการรับชำระภาษีในรูปแบบใหม่ผ่านตู้คีออสก์ (Kiosk) ซึ่งจะสามารถชำระภาษีได้โดยใช้เงินสด หรือบัตรเครดิต โดยตู้คีออสก์จะพิมพ์ป้ายวงกลมพร้อมใบเสร็จออกมาให้ทันที ซึ่งต่างจากการชำระผ่านช่องทางอื่นๆ ที่หลังชำระเงินแล้วจะต้องรอให้กรมการขนส่งฯ ตรวจสอบข้อมูลก่อนแล้วจึงจะจัดส่งป้ายวงกลมทางไปรษณีย์ให้ โดยตามแผน CAT จะติดตั้งตู้คีออสก์ให้บริการชำระทั้งภาษีรถ ค่าไฟฟ้า ประปา สาธารณูปโภคต่างๆ โดยนำร่องที่รับชำระภาษีรถก่อน โดยจะติดตั้งตู้คีออสก์ทั้งหมด 5,000 ตู้ทั่วประเทศ ตู้แรกจะเริ่มติดตั้งปลายเดือน เม.ย.นี้ จากนั้นจะติดตั้ง 500 ตู้ให้ได้ภายใน 5 เดือน เน้นที่ห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก โดยผู้ใช้บริการจะต้องสมัครเป็นสมาชิกและชำระค่าธรรมเนียมให้ CAT ปีละ 100 บาท

นอกจากนี้ ยังได้นำระบบไอทีเข้ามาร่วมในเรื่องตรวจสภาพรถยนต์เพื่อนำไปยื่นชำระภาษีสำหรับรถอายุเกิน 7 ปี โดยเชื่อมโยงข้อมูลจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ออนไลน์ตรงเข้าสู่สำนักงานขนส่ง เพื่อแก้ปัญหาใบตรวจสภาพปลอม หรือ การซื้อใบตรวจสภาพโดยไม่นำรถเข้ารับการตรวจสภาพจริง

นายธีระพงษ์กล่าวว่า ต่อจากนี้การดำเนินงานและการให้บริการต่างๆ ของกรมการขนส่งฯ จะมีการเชื่อมข้อมูลผ่านถึงกัน สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งจะสร้างความมั่นใจเรื่องความโปร่งใส สะดวก รวดเร็ว อย่างแท้จริง และเป็นการก้าวเข้าสู่ยุคที่ 3 หรือ กรมขนส่งยุคดิจิตอล เต็มตัว อย่างไรก็ตาม การที่ผู้บริหารลงไปล้วงลึกรายละเอียดการทำงานในทุกๆ ส่วนย่อมสร้างความไม่พอใจให้หลายกลุ่ม แต่เชื่อว่าระบบไอทีที่วางไว้จะช่วยอุดช่องทางในการทุจริตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นแม้ตนจะเกษียณอายุไปแล้ว ยังมั่นใจได้ว่าการทุจริตจะกระทำได้ยากขึ้นแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น