นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติงานรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน รวม 4 วัน ระหว่างวันที่ 9-12 เมษายน ซึ่งเป็นการรณรงค์ฯเข้มข้นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ภายใต้แนวความคิด "ช้าลงอีกนิด ชีวิตปลอดภัย" ( SLOW DOWN SAVE YOUR LIFE ) โดยระบุว่า จากการที่กรมการขนส่งทางบกได้จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจจับความเร็วของรถโดยสารสาธารณะทั้งบนเส้นทางสายหลักและสายรอง โดยครอบคลุมทั่วประเทศนั้น ผลการตรวจจับรวม 4 วัน (9-12 เม.ย.) พบการกระทำผิด จำนวน 1,550 คัน จากรถที่เรียกรถเข้าตรวจจำนวนทั้งสิ้น 23,013 คัน โดยเป็นรถตู้โดยสารมากสุดถึง 515 คัน รองลงมาเป็นรถโดยสารขนาดใหญ่ 415 คัน และรถบรรทุกจำนวน 409 คัน ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินการลงโทษหนักทั้งในส่วนของพนักงานขับรถที่ฝ่าฝืนใช้ความเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ปรับสูงสุดครั้งละ 5,000 บาท รวมทั้งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ รวมถึงบริษัทผู้ประกอบการต้นสังกัดที่ไม่สามารถควบคุมดูแลพนักงานขับรถให้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัย มีโทษถึงระงับการต่ออายุสัญญาเดินรถคันนั้นๆ
สำหรับอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์รวม 4 วัน มีจำนวนทั้งสิ้น 16 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะแล้ว 14 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตที่มากับรถโดยสารสาธารณะ 2 ราย และผู้เสียชีวิตที่มากับรถคู่กรณี 12 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวน 55 ราย โดยสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากขับรถด้วยความเร็ว ขับรถตามหลังและตัดหน้าอย่างกระชั้นชิด
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้อุบัติเหตุเกิดขึ้นจากทั้งตัวรถและพนักงานขับรถอย่างเข็มข้นจริงจัง ได้กำชับให้มีการตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถที่สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดรถที่มีผู้โดยสารทั่วประเทศ โดยรวม 4 วันที่ผ่านมา ตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะแล้วจำนวนทั้งสิ้น 56,707 คัน พบข้อบกพร่องทั้งหมด 192 คัน ส่วนใหญ่เป็นกระจกข้าง/กระจกหน้าและระบบไฟ ซึ่งได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามข้อหาความผิด และได้มีการตรวจความพร้อมพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะจำนวน 58,321 ราย พบการกระทำผิด 128 ราย ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับระยะเวลาในการขับรถ โดยขับรถติดต่อกันเกิน 4 ชั่วโมง จำนวน 23 ราย ซึ่งได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับและออกคำสั่งผู้ตรวจการให้เข้ารายงานตัวเพื่อเปรียบเทียบปรับต่อไป
นอกจากการตรวจสอบความพร้อมที่สถานีขนส่งผู้โดยสารหรือจุดจอดรถต้นทางและตั้งจุดตรวจความเร็วเคลื่อนที่บนถนนสายหลักและสายรองแล้ว กรมการขนส่งทางบกยังได้ตั้งจุดตรวจความพร้อมบนเส้นทางสายหลักทั่วประเทศอีก 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดบุรีรัมย์ นครราชสีมา ขอนแก่น กำแพงเพชร พิษณุโลก ลำปาง ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา และระยอง โดย 4 วันแรกของการรณรงค์ฯ เข้มข้นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้ดำเนินการตรวจรถโดยสาร จำนวน 14,813 คัน พบความบกพร่องทั้งหมด 178 คัน ส่วนใหญ่เป็นความผิดเกี่ยวกับการติดไฟเรืองแสง ไฟผิดสี หรือติดสปอตไลท์ และกระจกแตกร้าว และตรวจพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะจำนวน 14,813 ราย พบกระทำความผิดทั้งหมด 150 ราย คือไม่มีสมุดประจำรถ และนำรถออกนอกเส้นทางโดยไม่ได้รับอนุญาต
นายธีระพงษ์ กล่าวด้วยว่า ตลอด 4 วันของการรณรงค์ฯเข้มข้นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้รับเรื่องร้องเรียนรถโดยสารขนาดใหญ่ผ่านศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 จำนวนทั้งสิ้น 219 ราย ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการขับรถประมาทหวาดเสียว ไม่แสดงเครื่องหมายเสียภาษี แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ ทิ้งผู้โดยสาร และเก็บค่าโดยสารเกินราคาเป็นต้น
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 ได้ให้การช่วยเหลือผู้โดยสาร โดยให้คำแนะนำเกี่ยวกับเส้นทางเดินรถ ค่าโดยสาร ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว รวมทั้งรับฝากสิ่งของสัมภาระและให้บริการอื่นๆ จำนวนทั้งสิ้น 12,289 ราย สำหรับผู้โดยสารหากพบเห็นรถโดยสารสาธารณะใช้ความเร็วสูง ขับขี่ไม่ปลอดภัย บรรทุกผู้โดยสารเกินที่นั่ง เรียกเก็บค่าโดยสารเกินราคาที่กำหนด สามารถร้องเรียนได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์รวม 4 วัน มีจำนวนทั้งสิ้น 16 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะแล้ว 14 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตที่มากับรถโดยสารสาธารณะ 2 ราย และผู้เสียชีวิตที่มากับรถคู่กรณี 12 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวน 55 ราย โดยสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากขับรถด้วยความเร็ว ขับรถตามหลังและตัดหน้าอย่างกระชั้นชิด
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้อุบัติเหตุเกิดขึ้นจากทั้งตัวรถและพนักงานขับรถอย่างเข็มข้นจริงจัง ได้กำชับให้มีการตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถที่สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดรถที่มีผู้โดยสารทั่วประเทศ โดยรวม 4 วันที่ผ่านมา ตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะแล้วจำนวนทั้งสิ้น 56,707 คัน พบข้อบกพร่องทั้งหมด 192 คัน ส่วนใหญ่เป็นกระจกข้าง/กระจกหน้าและระบบไฟ ซึ่งได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามข้อหาความผิด และได้มีการตรวจความพร้อมพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะจำนวน 58,321 ราย พบการกระทำผิด 128 ราย ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับระยะเวลาในการขับรถ โดยขับรถติดต่อกันเกิน 4 ชั่วโมง จำนวน 23 ราย ซึ่งได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับและออกคำสั่งผู้ตรวจการให้เข้ารายงานตัวเพื่อเปรียบเทียบปรับต่อไป
นอกจากการตรวจสอบความพร้อมที่สถานีขนส่งผู้โดยสารหรือจุดจอดรถต้นทางและตั้งจุดตรวจความเร็วเคลื่อนที่บนถนนสายหลักและสายรองแล้ว กรมการขนส่งทางบกยังได้ตั้งจุดตรวจความพร้อมบนเส้นทางสายหลักทั่วประเทศอีก 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดบุรีรัมย์ นครราชสีมา ขอนแก่น กำแพงเพชร พิษณุโลก ลำปาง ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา และระยอง โดย 4 วันแรกของการรณรงค์ฯ เข้มข้นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้ดำเนินการตรวจรถโดยสาร จำนวน 14,813 คัน พบความบกพร่องทั้งหมด 178 คัน ส่วนใหญ่เป็นความผิดเกี่ยวกับการติดไฟเรืองแสง ไฟผิดสี หรือติดสปอตไลท์ และกระจกแตกร้าว และตรวจพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะจำนวน 14,813 ราย พบกระทำความผิดทั้งหมด 150 ราย คือไม่มีสมุดประจำรถ และนำรถออกนอกเส้นทางโดยไม่ได้รับอนุญาต
นายธีระพงษ์ กล่าวด้วยว่า ตลอด 4 วันของการรณรงค์ฯเข้มข้นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้รับเรื่องร้องเรียนรถโดยสารขนาดใหญ่ผ่านศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 จำนวนทั้งสิ้น 219 ราย ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการขับรถประมาทหวาดเสียว ไม่แสดงเครื่องหมายเสียภาษี แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ ทิ้งผู้โดยสาร และเก็บค่าโดยสารเกินราคาเป็นต้น
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 ได้ให้การช่วยเหลือผู้โดยสาร โดยให้คำแนะนำเกี่ยวกับเส้นทางเดินรถ ค่าโดยสาร ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว รวมทั้งรับฝากสิ่งของสัมภาระและให้บริการอื่นๆ จำนวนทั้งสิ้น 12,289 ราย สำหรับผู้โดยสารหากพบเห็นรถโดยสารสาธารณะใช้ความเร็วสูง ขับขี่ไม่ปลอดภัย บรรทุกผู้โดยสารเกินที่นั่ง เรียกเก็บค่าโดยสารเกินราคาที่กำหนด สามารถร้องเรียนได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง
