“พาณิชย์” จนมุมแก้ปัญหาปาล์มราคาตกต่ำ ทำได้แค่ขอความร่วมมือเอกชนรับซื้อจากเกษตรกรในราคาที่สู้ไหว และให้เน้นรายย่อย ยันไม่เข้าไปแทรกแซงราคา พร้อมเดินหน้าปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมในระยะยาว เผยพ่อค้าปุ๋ยยอมลดราคาขายปุ๋ยปาล์มไม่ต่ำกว่า 5% นาน 6 เดือน เริ่ม 16 เม.ย.นี้ เอกชนยันพร้อมช่วย แต่จะซื้อตามราคาโลก ด้าน ธพ.เพิ่มสัดส่วนไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลเป็น 7% เริ่ม 16 เม.ย.เช่นเดียวกัน
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน โรงสกัดและโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม โรงงานไบโอดีเซล และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วันนี้ (9 เม.ย.) ว่า เป็นการหารือเพื่อแก้ไขปัญหาราคาผลปาล์มสด หรืผลปาล์มทะลายตกต่ำ โดยในระยะสั้น ในช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ได้ขอความร่วมมือภาคเอกชนให้รับซื้อผลปาล์มสดจากเกษตรกรรายย่อย เพื่อให้เกษตรกรมีเงินจับจ่ายใช้สอย หรือหากซื้อไม่ได้ต้องทำความเข้าใจกับเกษตรกรด้วย ซึ่งภาคเอกชนก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ แต่กระทรวงฯ จะไม่ใช้วิธีการเข้าไปแทรกแซงราคา
ทั้งนี้ ไม่ได้มีการกำหนดราคาให้ภาคเอกชนต้องรับซื้อ แต่ภาคเอกชนจะรับซื้อในราคาที่สู้ได้ โดยจะเน้นการรับซื้อจากเกษตรกรรายย่อยที่มีพื้นที่เพาะปลูกไม่เกิน 50 ไร่
ส่วนในระยะยาว จะเร่งหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันให้เหมาะสม และไม่เกิดปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำอีก เพราะปัจจุบันมีการเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกมากขึ้นจนทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น โดยจะดูแลตั้งแต่พื้นที่เพาะปลูกเหมาะสมหรือไม่ จำนวนโรงสกัด โรงกลั่น มีเพียงพอแค่ไหน ความต้องการใช้ผลิตเป็นพลังงานทดแทนเป็นอย่างไร เป็นต้น ซึ่งเมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะเร่งนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการน้ำมันปาล์มแห่งชาติ (กนป.) ต่อไป
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการขายปุ๋ยสำหรับปาล์มน้ำมันให้ลดราคาขายลงไม่ต่ำกว่า 5% และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยจะเริ่มลดราคาขายได้ตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.-16 ต.ค.นี้ รวม 6 เดือน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในการลดต้นทุนการผลิต
นางวิวรรณ บุณยประทีปรัตน์ เลขาธิการสมาคมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้ราคาผลปาล์มสดแบบคละ (ปริมาณน้ำมัน 13-16%) เฉลี่ยกิโลกรัม (กก.) ละ 3.60-3.90 บาท ถ้าปริมาณน้ำมัน 17% ตามมาตรฐานจะ กก.ละ 4.40-4.50 บาท ลดลงจาก กก.ละ 5 บาทในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. 2558 ที่กระทรวงพาณิชย์ขอความร่วมมือภาคเอกชนให้ช่วยรับซื้อไม่ต่ำกว่า กก.ละ 5 บาท ซึ่งจากนี้ไปเอกชนจะพยายามช่วยรับซื้อจากเกษตรกร โดยเน้นรายย่อย ส่วนจะให้ซื้อแบบคละที่ กก.ละ 4.50 บาท คงไม่ได้ เพราะปาล์มมาตรฐานเปอร์เซ็นต์น้ำมัน 17% ก็แค่ กก.ละ 4.50 บาท ถ้าเปอร์เซ็นต์น้ำมันลดลง ราคาก็จะลดหลั่นกันลงไป
สาเหตุที่ราคาลดลงเพราะขณะนี้ผลผลิตออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก คาดว่าปีนี้จะมีผลผลิตเกือบ 13 ล้านตัน เพิ่มจากปี 2557 ที่มี 11 ล้านตัน ประกอบกับเศรษฐกิจโลกไม่ดี ความต้องการใช้ลดลง อีกทั้งอินโดนีเซีย และมาเลเซีย ได้เร่งระบายน้ำมันดิบที่มีในสต๊อกออกมา ส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบตลาดโลกอยู่ที่เพียง กก.ละ 22-23 บาทเท่านั้น แต่ของไทย กก.ละ 26-27 บาท เพราะภาคเอกชนช่วยกันพยุงไม่ให้ราคาตกลงมากกว่านี้
ส่วนการเพิ่มการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล จากบี 3 เป็น บี 7 จะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.นี้เป็นต้นไป ขณะที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีความพยายามช่วยเหลือด้วยเช่นกัน โดยพร้อมที่จะรับซื้อน้ำมันดิบไปเก็บไว้จากเดือนละ 3,000 ตัน เป็น 12,000 ตัน ซึ่งจะช่วยดูดซับผลผลิตส่วนเกินออกไปได้ส่วนหนึ่ง