“ฉัตรชัย” กล่อมโรงงานสกัดรับซื้อผลปาล์มสดไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 5 บาท ตั้งแต่เดือน มี.ค.เป็นต้นไปเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร พร้อมยืนยันไม่มีการนำเข้าเพิ่มหลังผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาด สต๊อกน้ำมันปาล์มดิบเข้าสู่ภาวะปกติ
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาด ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการโรงสกัดให้ไปรับซื้อผลปาล์มทะลายคุณภาพดีจากเกษตรกรในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัม (กก.) ละ 5 บาท ตั้งแต่เดือน มี.ค.เป็นต้นไป ซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาด ซึ่งผู้ประกอบการได้ยืนยันแล้วว่าจะรับซื้อในราคาดังกล่าว แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องเป็นผลปาล์มทะลายที่ตัดสุกเต็มที่ในช่วงเวลาที่เหมาะสม และไม่ใช่ผลปาล์มร่วง
“ระหว่างที่ขอความร่วมมือให้โรงสกัดรับซื้อผลปาล์ม กก.ละ 5 บาท คณะอนุกรรมการฯ จะมีการตั้งคณะทำงานร่วมกันขึ้นมา ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากเกษตรกร โรงสกัด โรงกลั่น ผู้บริโภค และภาครัฐ และจะทำการหารือเพื่อกำหนดมาตรการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และเกิดการสร้างความสมดุลให้แก่ทุกฝ่าย” พล.อ.ฉัตรชัยกล่าว
ทั้งนี้ การขอความร่วมมือโรงสกัดให้รับซื้อผลปาล์มไม่ต่ำกว่า 5 บาท/กก. เนื่องจากกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันได้ยื่นหนังสือมายังกระทรวงพาณิชย์ขอให้ดูแลราคาผลปาล์มไม่ต่ำกว่า กก.ละ 5 บาท เนื่องจากเกรงว่าราคาผลปาล์มจะลดลง หลังจากที่ผลผลิตปาล์มจะทยอยออกมามากในช่วงเดือน เม.ย.-มิ.ย. 2558
พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า การนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ 5 หมื่นตัน ขณะนี้มีการนำเข้าครบถ้วนแล้ว โดยที่ประชุมมีมติไม่ต้องนำเข้ามาเพิ่มอีก เนื่องจากสถานการณ์ปาล์มน้ำมันได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยคาดว่าเดือน มี.ค.ผลผลิตปาล์มจะออกสู่ตลาด 8.89 แสนตัน สูงขึ้นจากเดือน ม.ค. ซึ่งอยู่ที่ 6.14 แสนตัน ขณะที่ปริมาณน้ำมันปาล์มดิบในเดือน มี.ค.คาดว่าจะอยู่ที่ 1.51 แสนตัน เพิ่มขึ้นจากเดือน ม.ค.ซึ่งอยู่ที่ 1.4 แสนตัน ส่วนสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบในเดือน มี.ค.คาดว่าจะอยู่ที่ 1.55 แสนตัน และในเดือน เม.ย.คาดว่าปริมาณสต๊อกจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติที่ประมาณ 2.1 แสนตัน ถือเป็นปริมาณที่เพียงพอต่อการบริโภคและภาคอุตสาหกรรม
สำหรับน้ำมันปาล์ม 5 หมื่นตันที่นำเข้ามาสามารถผลิตน้ำมันปาล์มบรรจุขวดได้ทั้งหมด 32.65 ล้านลิตร และได้มีการนำออกจำหน่ายสู่ท้องตลาดแล้ว
