“พาณิชย์” ทำแผนขายผลไม้ช่วยเกษตรกร เพิ่มช่องทางออนไลน์ ดึงห้างระบายผลผลิต

“พาณิชย์” ปิ๊งไอเดีย เร่งระบายผลไม้ช่วงผลผลิตออกสู่ตลาด ผลักดันซื้อขายผ่านทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น หลังคนรวยจากยุโรปและประเทศอื่นๆ นิยมสั่งซื้อ เหตุได้ของสดจากไร่ไม่เกิน 3 วัน และรสชาติไม่เปลี่ยน เผยมะม่วง ส้มโอ มะขามหวาน สับปะรด ลิ้นจี่ยอดฮิต ส่วนในประเทศเตรียมจับมือห้าง หน่วยราชการ นำผลไม้ไปขาย

นางดวงกมล เจียมบุตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะโฆษกประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงฯ มีแผนที่จะส่งเสริมการระบายผลไม้ผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากลูกค้าในยุโรปหรือผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงจากต่างประเทศให้ความสำคัญในการสั่งสินค้ามายังเกษตรกรหรือตัวแทนจำหน่ายในไทยโดยตรง เนื่องจากขั้นตอนการสั่งผ่านระบบออนไลน์สามารถรับผลไม้สดจากไร่ได้ทันทีไม่เกิน 3 วัน ซึ่งทำให้รสชาติไม่เปลี่ยนจากเดิมมากนัก โดยผลไม้ที่ได้รับความนิยม คือ มะม่วง ส้มโอ มะขามหวาน สับปะรดภูแล และลิ้นจี่ เป็นต้น

“การขายผ่านช่องทางออนไลน์ตอนนี้ขายดีมาก เกษตรกรมีรายได้กว่าการจำหน่ายช่องทางอื่นเพิ่มอีก 10-20% เพราะลูกค้าเป็นคนรวย พร้อมที่จะจ่ายเพื่อให้ได้สินค้าที่สดจากไร่ และสินค้าที่ซื้อทางออนไลน์สดกว่าที่ซื้อในห้างประเทศนั้นๆ และยังเป็นสินค้าเกรดเอ มีการบรรจุหีบห่อที่สวยงาม และส่งทางเครื่องบิน ออกจากไร่ก็ส่งตรงถึงผู้ซื้อได้เลย”

นอกจากนี้ ลูกค้าต่างประเทศยังต้องการสั่งซื้อมะพร้าวผ่านทางออนไลน์ด้วย เพราะหากส่งปกติหรือเป็นกล่องที่ขายในปัจจุบันน้ำมะพร้าวไม่อร่อยเหมือนกับรับประทานสดหรือนำออกจากไร่ไม่เกิน 3 วัน แต่ก็ยังมีข้อจำกัด เพราะผู้ประกอบการไทยไม่พร้อมที่จะดำเนินการ เนื่องจากการส่งมะพร้าวผ่านทางเครื่องบินไม่คุ้มค่า เนื่องจากมะพร้าวมีน้ำหนักมาก และต้นทุนค่าขนส่งสูง

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการสั่งซื้อผลไม้ผ่านทางออนไลน์ลูกค้าในเอเชียยังไม่เป็นที่นิยม เพราะส่วนใหญ่สามารถที่จะหาซื้อผลไม้ได้ตามห้างสรรพสินค้าในประเทศนั้นๆ เนื่องจากการขนส่งที่ใกล้ และผลไม้ยังสดอยู่

นางดวงกมลกล่าวว่า สำหรับการบริหารจัดการผลไม้ในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก กระทรวงฯ ได้เตรียมแผนการระบายผลผลิตเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรไว้พร้อมแล้วในหลายช่องทาง โดยในระดับพื้นที่ได้ประสานกับผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้ให้รับซื้อผลไม้จากเกษตรกรในราคานำตลาด ในกรณีที่อาจมีผลผลิตกระจุกตัว ที่ทำให้ราคาตกต่ำก็จะกระจายผลผลิตให้ไปสู่ภูมิภาคต่างๆ ให้ได้โดยเร็วที่สุด โดยได้ประสานความร่วมมือกับห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ห้างสรรพสินค้า หน่วยงานราชการ เพื่อจัดให้มีพื้นที่ในการจำหน่ายผลผลิต รวมทั้งมีแผนจะกระจายผลผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์ได้มีโครงการส่งเสริมการค้าชายแดน มีการจัดงานแสดงสินค้าเป็นประจำอยู่แล้ว

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการระบายผลไม้ทุกชนิดในลักษณะเดียวกัน ทั้งลองกอง ลำไย เงาะ ทุเรียน มังคุด และได้เสนอแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรต่อคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (บอร์ดผลไม้) ที่มี รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานแล้ว และในระหว่างนี้หน่วยงานของกระทรวงพาณิชย์ได้เริ่มดำเนินการไปบ้างแล้ว เพราะต้องดำเนินการเชิงรุก ไม่รอให้ปัญหาเกิดขึ้นก่อนแล้วค่อยมาแก้ไขภายหลัง ซึ่งจะล่าช้าและไม่ทันต่อความต้องการของเกษตรกร