xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” สั่งสอบขายข้าวรัฐย้อนหลัง เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์มีหนาว หลังพบมีมูลทำรัฐเสียหายหลายหมื่นล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” ใช้อำนาจประธาน นบข. สั่ง “พาณิชย์” ตั้งกรรมการตรวจสอบการขายข้าวในสต๊อกของรัฐบาลชุดที่ผ่านมาทั้งหมด “ชุติมา” เตรียมสอบย้อนหลังตั้งแต่ปี 51 ลั่นหากพบไม่ถูกต้อง ไม่โปร่งใส ส่อทุจริต ดำเนินการตามกฎหมายแน่นอน เผยทั้งเพื่อไทย-ประชาธิปัตย์มีหนาว หลังพบมีมูลทำรัฐเสียหายหลายหมื่นล้าน ด้าน อคส.เปิดประมูลโละทิ้งข้าวเสื่อมคุณภาพ 5.3 หมื่นตัน

นางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุดเพื่อตรวจสอบการขายข้าวในสต๊อกของรัฐบาลชุดที่ผ่านๆ มาว่ามีความถูกต้อง เหมาะสม และโปร่งใสหรือไม่ อย่างไร ซึ่งหากตรวจสอบแล้วพบว่าอาจเข้าข่ายทุจริต หรือไม่โปร่งใส ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

“นบข.เห็นว่าการขายข้าวในสต๊อกของรัฐบาลชุดที่ผ่านมามีปัญหาหลายอย่าง เช่น ผู้ซื้อรับมอบข้าวไม่ได้ หรือเมื่อขายไปแล้วไม่ได้นำไปส่งออกจริง ซึ่งได้สร้างปัญหามาจนถึงทุกวันนี้ จึงได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น คาดว่าจะตรวจตั้งแต่การขายข้าวในสต๊อกรัฐบาลตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา”

ทั้งนี้ คาดว่าการตรวจสอบดังกล่าวอาจใช้เวลานาน เพราะการขายของแต่ละรัฐบาลมีเงื่อนไขแตกต่างกัน จึงต้องศึกษารายละเอียดเงื่อนไขการขายของแต่ละรัฐบาลให้ได้ก่อน เช่น บางรัฐบาลมีกรอบการขายข้าวในสต๊อกหลายแบบ เช่น เปิดประมูลเป็นการทั่วไป การเปิดประมูลในตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (เอเฟต) การขายตรงให้ผู้ส่งออกที่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ ขณะที่บางรัฐบาลจะเปิดประมูลเป็นการทั่วไป ไม่เปิดประมูลในเอเฟต และไม่ขายตรงให้ผู้ส่งออก เป็นต้น หรือบางรัฐบาลกำหนดให้ผู้ลงนามอนุมัติขายเป็น รมว.พาณิชย์ แต่บางรัฐบาลผู้ลงนามเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าว (กนข.) เป็นต้น

สำหรับกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อยู่ระหว่างการตรวจสอบการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ของรัฐบาลที่ผ่านมาว่าถูกต้อง มีการทุจริตหรือไม่ และได้มีการชี้มูลความผิดไปแล้วนั้น กระทรวงพาณิชย์ในยุคที่ตนเป็นปลัดกระทรวงได้ให้ความร่วมมือจัดส่งข้อมูลต่างๆ ไปให้ ป.ป.ช.ตามที่ขอมาทั้งหมด หลังจากที่ก่อนหน้านี้มักถูกกล่าวหาว่าเป็นแดนสนธยา ไม่ค่อยให้ความร่วมมือจัดส่งข้อมูลการค้าข้าวไปให้ตามที่ร้องขอ

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า การตรวจสอบการขายข้าวตั้งแต่ปี 2551 ทำให้ทั้งพรรคเพื่อไทยและประชาธิปัตย์จะถูกตรวจสอบหมด เพราะระหว่าง 7 ปีที่ผ่านมา ได้ผลัดกันเข้ามาบริหารประเทศ และมีการใช้วิธีการขายข้าวในสต๊อกรัฐบาลในรูปแบบต่างๆ และมักจะมีข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตเกิดขึ้นมาโดยตลอด

ทั้งนี้ ในปี 2551 มีนายไชยา สะสมทรัพย์ เป็น รมว.พาณิชย์ ในครั้งนั้นมีปัญหาการขายข้าวในราคาต่ำกว่าท้องตลาดถึง 2 ครั้ง ทำให้รัฐขาดทุนไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท โดยครั้งแรกขายในราคาต้นทุนที่รับจำนำ แทนที่จะขายในราคาตลาด ซึ่งมีราคาสูง ทำให้รัฐขาดทุนประมาณ 2 หมื่นล้าน และครั้งที่ 2 ข้าวที่มีต้นทุนจำนำสูง แต่ขายในราคาตลาด ซึ่งขณะนั้นมีราคาต่ำ ทำให้รัฐขาดทุนอีก 1 หมื่นล้านบาท และเฉพาะครั้งที่ 2 เป็นการขายที่เร่งรีบ เพราะผลการต่อรองยังไม่แล้วเสร็จก็เซ็นขายก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินยุบพรรคพลังประชาชนเพียง 1 วัน

จากนั้นนางพรทิวา นาคาศัย ได้เข้ามาเป็น รมว.พาณิชย์ และการขายข้าวในยุคนี้มีระยะเวลาประมาณ 3 ปี พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาลในสมัยนั้นได้ยึดอำนาจการขายมาไว้ที่ กนข. ทำให้การขายข้าวต้องผ่านการพิจารณาจากรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีข้อมูลว่ามีการขายข้าววิธีพิเศษโดยตุกติกขายให้ผู้ส่งออกที่มีคำสั่งซื้อ และขายให้ต่ำกว่าราคาตลาดมาก ทำให้รัฐได้เงินคืนมาเพียง 5.3 หมื่นล้านบาท ทั้งๆ ที่ควรจะได้ 6.3 หมื่นล้านบาท หรือรัฐขาดทุนไปกว่า 1 หมื่นล้านบาท และยังมีการขายวิธีพิเศษให้เอกชน 8 ราย จำนวน 11 ครั้ง ช่วงเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2553 กำหนดเงื่อนไขให้ส่งออกภายในปี 2554 แต่สุดท้ายไม่มีการส่งออกรวม 9.22 แสนตัน คิดเป็น 26.66% ของปริมาณข้าวที่ขายไป และยังเอื้อประโยชน์ด้วยการคืนเงินค้ำประกันให้ด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นได้เข้าสู่ยุคการบริหารของพรรคเพื่อไทย เริ่มจากนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็น รมว.พาณิชย์ ในปี 2554 ต่อด้วยนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เป็น รมว.พาณิชย์ ปี 2555-56 และนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล เป็น รมว.พาณิชย์ ปี 2556-57 จนกระทั่งมีปัญหาการทุจริตการขายข้าวรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) เกิดขึ้นตามที่ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลไปแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น