รองนายกฯ ด้านกฎหมายเผยคืบหน้าฟ้องเรียกค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าว ชี้ถ้ายื่นศาลแพ่งโจทก์คนละฝ่าย บุญทรงกับพาณิชย์ ยิ่งลักษณ์กับคลัง เผยอาจยื่นฟ้องศาลปกครองได้ ลั่นดูทุกกรณี ยึด “นักการเมือง - ข้าราชการประจำ - เอกชน” แย้ม ธ.ก.ส. อาจโดนด้วย คาดวัน - สองวันตั้งคณะกรรมการชุดแรก ดูจำนวนข้าวเสียหาย ย้ำฟ้องภายในปีนี้ เพราะจะหมดอายุความปี 2560
วันนี้ (9 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย กล่าวถึงการฟ้องเรียกค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว ทั้งกรณีละเว้นไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และกรณีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ของ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ และพวก ว่า เรื่องนี้มี 2 กรณี โจทก์ที่จะฟ้องเป็นคนละโจทก์ คดีของนายบุญทรง โจทก์คือกระทรวงพาณิชย์ และคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ คือ กระทรวงการคลัง โดยปกติจะฟ้องศาลแพ่ง แต่ตอนนี้กำลังพิจารณาอยู่เนื่องจากความผิดของฝ่ายหนึ่งจะมีผลกระทบต่ออีกฝ่ายหนึ่ง ตามกฎหมายอาจยื่นฟ้องรวมไปที่ศาลปกครองได้ ซึ่งแบ่งคนไว้ 3 พวกคือ นักการเมือง ข้าราชการประจำ และเอกชน โดยหลักตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐคดีให้ฟ้องที่ศาลปกครอง แต่นั่นเป็นการฟ้องเจ้าหน้าที่ของรัฐ ถ้าฟ้องคนอื่นจะแยกไปคนละศาล แต่ถ้าแยกคนละศาล ศาลก็ต้องมารอกันเอง เพราะมีความเกี่ยวพัน จึงอาจจะยื่นฟ้องไปที่ศาลปกครองเพราะถือว่าเป็นคดีเดียวกัน ขณะนี้กำลังดูอยู่ว่าจะทำได้หรือไม่ ซึ่งดูอยู่ทุกกรณี ต้นเหตุและมูลเหตุ ทั้งการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว การละเว้นไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว และการทุจริตการระบายข้าวแบบจีทูจี ศาลอาจจะรวมทั้งหมดเป็นคดีเดียวกัน หรืออาจจะรวมบางคดีเข้าด้วยกัน เพราะมีเรื่องที่เป็นทั้งข้อหาทางอาญาและแพ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีทุจริตการระบายข้าวแบบจีทูจี ผู้ถูกฟ้องตามรายชื่อที่ถูกชี้มูลความผิดของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า อาจจะมีการเพิ่มเติมหรือตัดทอนบางชื่อก็ได้ แต่ขณะนี้ยึดรายชื่อดังกล่าวไว้ก่อน แบ่งออกเป็น 3 พวก นักการเมือง ข้าราชการประจำ และเอกชน แต่อาจจะมีพวกที่ 4 อีก ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นต้น ส่วนผู้ฟ้องนั้นบางรายจะถูกฟ้องโดยกระทรวงการคลัง บางรายเป็นกระทรวงพาณิชย์เป็นโจทก์ แต่ว่าเวลาพูดรวมๆ จะพูดว่าฟ้องในนามรัฐบาล สุดท้ายส่งให้อัยการสูงสุด (อสส.) ส่งฟ้อง
นายวิษณุ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลังกำลังทำอยู่ ภายใน 1 - 2 วันนี้อาจจะตั้งคณะกรรมการชุดแรกได้คือ คณะกรรมการพิจารณาข้อเท็จจริงและกำหนดจำนวนข้าวเสียหาย ซึ่งไม่เกินสัปดาห์นี้ โดยกฎหมายกำหนดให้ต้องตั้งขึ้นมา ต่อจากนั้นจะส่งเรื่องไปที่คณะกรรมการพิจารณาเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่อยู่ในระเบียบว่าด้วยการเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง มีอธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นประธาน มีอัยการและคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นกรรมการ คาดว่า คณะกรรมการพิจารณาข้อเท็จจริงฯ คงใช้เวลาไม่นาน เพราะได้คุยกันแล้ว หากฟ้องไม่ทันหมดอายุความต้องมีคนรับผิดชอบ คนรับผิดชอบคือ เจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการ โดยจะฟ้องภายในปีนี้ เนื่องจากมีอายุความ 2 ปี สิ้นสุดในเดือน ก.พ. 2560