อดีต รมว.พาณิชย์อ้าง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดระบายข้าวแบบจีทูจีทุจริต มีวาระซ่อนเร้น หวังให้เป็นเหยื่อเพื่อเชื่อมโยงคดีถอดถอน “ยิ่งลักษณ์” ในคดีจำนำข้าว ให้ สนช.ลงมติถอดถอดอดีตนายกฯ
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ การถึงการชี้มูลความผิดของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เกี่ยวกับการระบายข้าวแบบจีทูจีว่า เรื่องดังกล่าวน่าจะมีวาระซ่อนเร้นโดยไม่ใช่เหตุบังเอิญในช่วงเวลาตามที่นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนในการแถลงเมื่อวานนี้อย่างแน่นอน เนื่องจากการชี้มูลในคดีของตนเองเกิดก่อนที่จะมีการลงมติในคดีถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อออกจากตำแหน่งและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี ในวันที่ 23 มกราคม 2558 ทั้งๆ ที่ ป.ป.ช.ก็ได้ยอมรับในคำวินิจฉัยก่อนหน้านี้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่มีส่วนร่วมในการทุจริตหรือสมยอมให้เกิดการทุจริตด้วย เพียงแต่กล่าวหาว่ามีพฤติการณ์ที่ละเลยไม่ระงับยับยั้งการทุจริตความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวและระบายข้าวของรัฐบาลเท่านั้น
ที่สำคัญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็เพียงแต่เป็นผู้กำหนดนโยบายเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการปฎิบัติ ดังนั้น การชี้มูลเอากับตนเองเวลานี้เพียงเพราะต้องการหาแพะมาดำเนินการเพื่อเชื่อมโยงให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีความผิดให้ได้ เพื่อใช้มูลความผิดกรณีนี้มากดดันหรือชี้นำในการลงมติของ สนช. เพื่อให้เห็นว่าการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวและระบายข้าวของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีการทุจริตดังที่ ป.ป.ช.ได้เคยชี้มูลความผิดไว้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงจำเป็นต้องมีการชี้มูลความผิดก่อนหน้าที่ สนช.จะลงมติคดีถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ก่อนหน้า 2 วันเท่านั้น การที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดกับตนเองในครั้งนี้จึงเป็นเพียงการใช้กรณีตนเป็นเหยื่อทางการเมืองเพื่อถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์
นายบุญทรงยังตั้งข้อสงสัยในการพิจารณาชี้มูลคดีของ ป.ป.ช. เกี่ยวกับคดีนี้อีกด้วยว่า ตัวเลขมูลค่าความเสียหายซึ่ง ป.ป.ช แถลงว่า มูลค่าความเสียหายคาดว่าเกิน 6 แสนล้านบาทขึ้นไปนั้น อยากทราบว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. และคณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. นำตัวเลขดังกล่าวมาจากไหน เนื่องจากเท่าที่ทราบจากเอกสารของกรมการค้าต่างประเทศ การซื้อขายข้าวแบบจีทูจีทั้ง 4 สัญญานั้น ได้มีการชำระเงินค่าข้าวแล้ว และจำนวนเงินดังกล่าวนั้นกรมการค้าต่างประเทศ ก็ได้แจ้งให้คณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช.รับทราบแล้ว ซึ่งก็คือตัวเลขตามที่นายวิชา มหาคุณ แถลงต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2558 คือจากการทำสัญญาซื้อขายจำนวน 4 ฉบับ รวมมูลค่าเป็นเงินจำนวน 70,549 ล้านกว่าบาท โดยเงินจำนวนนี้ก็ได้มีการชำระคืนให้กับ ธ.ก.ส.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายบุญทรงกล่าวว่า ไม่เข้าใจ ป.ป.ช.มีจุดมุ่งหมายอย่างไรกันแน่ในการชี้มูลความผิดของตนเองทั้งๆ ที่ผ่านมาในขั้นตอนการไต่สวน ได้พยายามชี้แจงข้อเท็จจริงให้คณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช.รับทราบมาโดยตลอด แต่จากการชี้มูลความผิดเมื่อวานนี้ กลับไม่พบว่า ป.ป.ช.จะนำข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานที่ตนได้เคยชี้แจงมาพิจารณาให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด
“สำหรับผมแล้วยืนยันพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อความบริสุทธิ์ของตัวเอง แต่ข้อร้องว่าอย่านำเรื่องผมเองมาเป็นประเด็นทางการเมืองในคดีถอดถอนอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”