โครงการรับจำนำข้าว งวดเข้ามาทุกที ปลายสัปดาห์นี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถึงจุดชี้เป็นชี้ตายในบทสรุปการพิจารณาถอดถอนของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และทำนายกันล่วงหน้าแล้วว่า เธอ “รอดยาก”
ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว กรณีสัญญาซื้อขายรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กับจีน
วาระสุดท้ายอภิมหาโกงของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์คืบคลานเข้ามาแล้ว และการพิจารณาของ สนช.ก็มิอาจเป็นอย่างอื่นได้ นอกจากถอดถอนเช่นเดียวกับอัยการสูงสุด ที่ต้องตัดสินเพียงประการเดียวคือ การส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินลงโทษ
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ต้องรับแรงกดดันใดๆ จากการถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์ หรืออดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรและอดีตประธานวุฒิสภา เจ้าของฉายา “ประธานขี้ข้า”
ไม่ต้องกลัวเสียงเห่าหอนของลูกสมุนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ต้องกังวลกับมวลชนคนเสื้อแดง และไม่ต้องหวั่นไหวว่า การเมืองจะเกิดอาการกระเพื่อม
เพราะอิทธิฤทธิ์ของพ.ต.ท.ทักษิณหมดแล้ว บรรดาลูกสมุนก็ทำได้เพียงแค่ขู่ไปวันๆ เท่านั้น
ถ้าจะถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์ ถ้าจะจับรัฐมนตรีในรัฐบาลพรรคเพื่อไทยและผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวทุกคนติดคุกก็ไม่มีใครว่า ไม่มีประชาชนกลุ่มไหนออกมาโวยวาย นอกจากจะสรรเสริญเยินยอรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์
เพราะโครงการรับจำนำข้าวโกงกันอย่างโจ๋งครึ่ม โกงกันหน้าด้านๆ โกงกันทุกระดับ สร้างความเสียหายถึงประมาณ 7 แสนล้านบาท
แม้รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ติดคุกทั้งคณะ ยังไม่อาจชดเชยความเสียหายได้
และรัฐมนตรีที่รับผิดชอบทุกคน ไล่ตั้งแต่นางสาวยิ่งลักษณ์ลงมา ก็สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องเจอโทษหนักเพราะโครงการรับจำนำข้าว ถูกคัดค้านมาตั้งแต่เริ่ม ถูกทักท้วงถึงความเสียหายมหาศาลที่จะตามมา ถูกตรวจสอบชี้เบาะแสการโกงอย่างต่อเนื่อง
แต่นางสาวยิ่งลักษณ์พูดฉอดๆ ยืนกรานที่จะเดินหน้าโครงการต่อ ไม่แก้ปัญหาการทุจริต ไม่ฟังเสียงติติงจากใคร และเถียงข้างๆ คูๆ ตลอดเสียด้วยซ้ำ
รัฐมนตรีบางคนก็กร่างเสียสิ้นดี ด่ากราดกระบวนการตรวจสอบ ปิดบังอำพรางข้อมูล เมื่อถูกจับโกงได้คาหนังคาเขาก็แกล้งไม่ตอบคำถาม ไม่ชี้แจงข้อมูลเอาดื้อๆ
ใครจะด่าว่าโกง ใครจะตีแผ่ข้อมูลทุจริตอย่างไร ก็อาศัยความเป็นคน “หน้าหนา” เสียอย่าง เดินหน้าโครงการรับจำนำข้าวจนก่อหนี้ที่ต้องชดใช้กันชั่วลูกชั่วหลาน
ถ้าคิดจะเห็นใจคนรัฐมนตรีในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ที่เตรียมตัวเข้าคุก ต้องย้อนภาพไปตอนที่คนพวกนี้มีอำนาจ ต้องย้อนไปตอนที่นางสาวยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ และอีกหลายคนยังเป็นรัฐมนตรีดูแลโครงการรับจำนำข้าว
เพราะตอนนั้นคนพวกนี้เตือนยังไงก็ไม่ฟัง ตอนนี้จึงไม่ควรหลงเหลือความสงสารใดๆ ถ้าคิดจะสงสาร สงสารลูกหลานที่ต้องชดใช้หนี้แทนรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ก่อไว้ดีกว่า
รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ย่อมรู้ตัวดีว่า โครงการจำนำข้าวทุจริตกันขนาดไหน และรัฐมนตรีคนใดบ้างที่โกง ซึ่งต้องเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ เนื่องจากผลกรรรมที่ก่อไว้กับแผ่นดินกำลังตามเล่นงาน โดยไม่มีเวทีที่จะแหกตาชาวบ้านได้อีกแล้ว
ไม่มีอำนาจที่จะบิดเบือนข้อเท็จจริงหรือปิดบังอำพรางพฤตกิรรมชั่วของพวกพ้องตัวเอง
รัฐมนตรีปากเก่งปากดีในรัฐบาลพรรคเพื่อไทยทั้งหลาย รอคิวเข้าคุกกันได้ งานนี้รอดยากแล้ว ไม่เชื่อ นางสาวยิ่งลักษณ์จะถูกเชือดนำร่องให้ดู
ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว กรณีสัญญาซื้อขายรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กับจีน
วาระสุดท้ายอภิมหาโกงของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์คืบคลานเข้ามาแล้ว และการพิจารณาของ สนช.ก็มิอาจเป็นอย่างอื่นได้ นอกจากถอดถอนเช่นเดียวกับอัยการสูงสุด ที่ต้องตัดสินเพียงประการเดียวคือ การส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินลงโทษ
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ต้องรับแรงกดดันใดๆ จากการถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์ หรืออดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรและอดีตประธานวุฒิสภา เจ้าของฉายา “ประธานขี้ข้า”
ไม่ต้องกลัวเสียงเห่าหอนของลูกสมุนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ต้องกังวลกับมวลชนคนเสื้อแดง และไม่ต้องหวั่นไหวว่า การเมืองจะเกิดอาการกระเพื่อม
เพราะอิทธิฤทธิ์ของพ.ต.ท.ทักษิณหมดแล้ว บรรดาลูกสมุนก็ทำได้เพียงแค่ขู่ไปวันๆ เท่านั้น
ถ้าจะถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์ ถ้าจะจับรัฐมนตรีในรัฐบาลพรรคเพื่อไทยและผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวทุกคนติดคุกก็ไม่มีใครว่า ไม่มีประชาชนกลุ่มไหนออกมาโวยวาย นอกจากจะสรรเสริญเยินยอรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์
เพราะโครงการรับจำนำข้าวโกงกันอย่างโจ๋งครึ่ม โกงกันหน้าด้านๆ โกงกันทุกระดับ สร้างความเสียหายถึงประมาณ 7 แสนล้านบาท
แม้รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ติดคุกทั้งคณะ ยังไม่อาจชดเชยความเสียหายได้
และรัฐมนตรีที่รับผิดชอบทุกคน ไล่ตั้งแต่นางสาวยิ่งลักษณ์ลงมา ก็สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องเจอโทษหนักเพราะโครงการรับจำนำข้าว ถูกคัดค้านมาตั้งแต่เริ่ม ถูกทักท้วงถึงความเสียหายมหาศาลที่จะตามมา ถูกตรวจสอบชี้เบาะแสการโกงอย่างต่อเนื่อง
แต่นางสาวยิ่งลักษณ์พูดฉอดๆ ยืนกรานที่จะเดินหน้าโครงการต่อ ไม่แก้ปัญหาการทุจริต ไม่ฟังเสียงติติงจากใคร และเถียงข้างๆ คูๆ ตลอดเสียด้วยซ้ำ
รัฐมนตรีบางคนก็กร่างเสียสิ้นดี ด่ากราดกระบวนการตรวจสอบ ปิดบังอำพรางข้อมูล เมื่อถูกจับโกงได้คาหนังคาเขาก็แกล้งไม่ตอบคำถาม ไม่ชี้แจงข้อมูลเอาดื้อๆ
ใครจะด่าว่าโกง ใครจะตีแผ่ข้อมูลทุจริตอย่างไร ก็อาศัยความเป็นคน “หน้าหนา” เสียอย่าง เดินหน้าโครงการรับจำนำข้าวจนก่อหนี้ที่ต้องชดใช้กันชั่วลูกชั่วหลาน
ถ้าคิดจะเห็นใจคนรัฐมนตรีในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ที่เตรียมตัวเข้าคุก ต้องย้อนภาพไปตอนที่คนพวกนี้มีอำนาจ ต้องย้อนไปตอนที่นางสาวยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ และอีกหลายคนยังเป็นรัฐมนตรีดูแลโครงการรับจำนำข้าว
เพราะตอนนั้นคนพวกนี้เตือนยังไงก็ไม่ฟัง ตอนนี้จึงไม่ควรหลงเหลือความสงสารใดๆ ถ้าคิดจะสงสาร สงสารลูกหลานที่ต้องชดใช้หนี้แทนรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ก่อไว้ดีกว่า
รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ย่อมรู้ตัวดีว่า โครงการจำนำข้าวทุจริตกันขนาดไหน และรัฐมนตรีคนใดบ้างที่โกง ซึ่งต้องเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ เนื่องจากผลกรรรมที่ก่อไว้กับแผ่นดินกำลังตามเล่นงาน โดยไม่มีเวทีที่จะแหกตาชาวบ้านได้อีกแล้ว
ไม่มีอำนาจที่จะบิดเบือนข้อเท็จจริงหรือปิดบังอำพรางพฤตกิรรมชั่วของพวกพ้องตัวเอง
รัฐมนตรีปากเก่งปากดีในรัฐบาลพรรคเพื่อไทยทั้งหลาย รอคิวเข้าคุกกันได้ งานนี้รอดยากแล้ว ไม่เชื่อ นางสาวยิ่งลักษณ์จะถูกเชือดนำร่องให้ดู
