กรมการค้าต่างประเทศเตรียมสรุปแผนระบายข้าวครั้งที่ 3/2558 จะระบายต่อหรือไม่ หรือระบายปริมาณเท่าใด หลังข้าวนาปรังกำลังออกสู่ตลาด หวั่นกระทบราคาข้าวเปลือก เผยดีลจีทูจีกับจีน 2 ล้านตันจะช่วยดันราคา หลัง “ฉัตรชัย” จะบินไปเซ็นสัญญา 8-9 พ.ค.นี้
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในวันที่ 23 มี.ค. 2558 คณะทำงานด้านการระบายข้าวจะหารือเป็นการภายในถึงแผนการระบายข้าวครั้งที่ 3/2558 โดยจะพิจารณาว่ามีความเหมาะสมที่จะมีการระบายข้าวอย่างต่อเนื่องหรือไม่ และหากจะระบายควรจะระบายปริมาณเท่าใด โดยต้องพิจารณาถึงสถานการณ์ราคา ปริมาณผลผลิตข้าว เพราะเป็นช่วงที่ข้าวนาปรัง 2558 กำลังออกสู่ตลาด และต้องให้ความสำคัญต่อราคาข้าวเปลือกในตลาดไม่ให้ลดลงจนส่งผลกระทบต่อรายได้ของชาวนา
ทั้งนี้ สถานการณ์ตลาดข้าวยังไม่คึกคัก เนื่องจากผู้ซื้อในต่างประเทศยังมีข้าวในสต๊อกอยู่หลังการนำเข้าข้าวในปริมาณมากก่อนหน้านี้ เช่น อินโดนีเซีย ที่ส่วนหนึ่งซื้อไปจากไทยและมีการส่งมอบแล้วเสร็จเมื่อ ธ.ค. ปีที่ผ่านมา ทำให้ในระยะนี้จะไม่มีคำสั่งซื้อจากอินโดนีเซีย ส่วนฟิลิปปินส์ที่ซื้อข้าวจากไทย 2 แสนตันกำลังอยู่ระหว่างการส่งมอบ เช่นเดียวกับจีนที่กำลังเจรจาส่งมอบข้าวในส่วนสัญญา 1 ล้านตันแรกที่ส่งมอบไปก่อนหน้านี้ 3 แสนตัน และกำลังเจรจาส่งมอบอีก 1-3 แสนตัน
“นอกจากผู้ซื้อมีข้าวในมือจำนวนมากแล้ว ยังมีประเด็นเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา ทำให้ผู้ซื้อต้องพิจารณามากกว่าปกติในการนำเข้าข้าวแต่ละครั้ง ส่งผลให้ภาพรวมราคาตลาดค่อนข้างนิ่งและมีข้าวบางชนิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย”
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าราคาข้าวในประเทศจะปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่ไทยมีข้อตกลงซื้อขายแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) กับจีนอยู่ และยังจะมีการเซ็นสัญญาล็อตใหญ่อีกปริมาณ 2 ล้านตัน ในช่วงที่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จะเดินทางไปจีนในช่วงวันที่ 8-9 พ.ค.นี้ ซึ่งจะช่วยเรื่องราคาได้มาก เมื่อรวมกับออเดอร์ของเอกชนที่มีอยู่ตามปกติเชื่อว่าราคาข้าวจะไม่เลวร้ายจนเกินไป โดยคาดว่าตลาดน่าจะกลับมาคึกคักได้ตั้งแต่ปลาย เม.ย. เพราะจะมีการส่งมอบข้าวและผู้ซื้อจะต้องเริ่มกลับเข้ามานำเข้าอีกครั้ง
นางดวงพรกล่าวว่า ส่วนผลการระบายข้าวครั้งที่ 2/2558 ขณะนี้ได้สรุปและส่งผลให้ น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการระบายข้าวแล้ว หลังจากนั้นจะมีการเสนอประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) เพื่ออนุมัติขายและทำสัญญาต่อไป โดยอนุมัติระบายได้ 7 แสนตัน จากปริมาณที่เปิดระบายทั้งหมด 1 ล้านตัน
นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้ขอให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) สรุปปริมาณมันสำปะหลังในสต๊อกรัฐบาลว่ามีเท่าใด และสภาพเป็นอย่างไร ก่อนจะมาจัดทำแผนการระบาย เช่นเดียวกับสินค้าเกษตรอื่นๆ ที่รัฐบาลมีแผนระบายตามความเหมาะสมของสถานการณ์ตลาด
รายงานข่าวแจ้งว่า ราคาส่งออกข้าวสาร (FOB) สัปดาห์นี้ (18 มี.ค.) ลดลงจากสัปดาห์ก่อน (11 มี.ค.) เฉลี่ยตันละ 10 เหรียญสหรัฐ โดยข้าวหอมมะลิ ตันละ 1,073 เหรียญสหรัฐ ลดลงจากตันละ 1,081 เหรียญสหรัฐ ข้าวขาว 5% ตันละ 403 เหรียญสหรัฐ ลดลงจากตันละ 415 เหรียญสหรัฐ ข้าวขาว 25% ตันละ 386 เหรียญสหรัฐ ลดลงจากตันละ 395 เหรียญสหรัฐ และข้าวนึ่ง 100% ตันละ 409 เหรียญสหรัฐ ลดลงจากตันละ 421 เหรียญสหรัฐ ส่วนราคาข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ณ วันที่ 18 มี.ค. เฉลี่ยตันละ 7,700-7,900 บาท