xs
xsm
sm
md
lg

จ่อให้ออก2ขรก.เซ่นจีทูจีเก๊ เด้งรองผอ.อคส.เซ่นโกงข้าวถุง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พาณิชย์จ่อให้ออก 2 ข้าราชการ เซ่นจีทูจีเก๊ หลัง ป.ป.ช.ชี้มูลผิดวินัยร้ายแรง เผยสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน นับจากทราบคำสั่ง ส่วนทุจริตข้าวถุง บอร์ด อคส. มีมติให้รอง ผอ. ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมตั้งกรรมการประเมินค่าเสียหาย ก่อนฟ้องทางแพ่ง เตรียมเปิดประมูลข้าวรอบ 2 อีก 1 ล้านตัน ต้น มี.ค.นี้ ไร้ข้าวหอมมะลิ เหตุไม่ผ่านมาตรฐาน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า คณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงพาณิชย์ ได้เตรียมประชุมและคาดว่าจะมีมติให้ 2 ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ คือ นายทิฆัมพร นาทวรทัต รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และนายอัครพงศ์ ทีปวัชระ อดีตผู้อำนวยการสำนักการค้าข้าวต่างประเทศ ออกจากราชการ หลังจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง กรณีการขายข้าวในรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) ของรัฐบาลก่อน

สำหรับการพิจารณาโทษ กระทรวงพาณิชย์ได้ยึดตามพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 และเห็นว่าในเมื่อป.ป.ช.ชี้มูลความผิดมาแล้ว ก็ไม่สามารถดำเนินการอย่างอื่นได้ จึงมีมติออกมาดังกล่าว ซึ่งผู้ที่ถูกให้ออกจากราชการทั้ง 2 ราย สามารถที่จะยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน นับจากวันที่รับทราบคำสั่ง โดยให้ยื่นต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (กพค.)

ทั้งนี้ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดกรณีการขายข้าวจีทูจีของรัฐบาลก่อน รวม 21 ราย ประกอบด้วย นักการเมือง 3 ราย ได้แก่ นายบุญทรง เตริยาภิรมณ์ อดีต รมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ และพันตรี วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขาธิการ รมว.พาณิชย์, ข้าราชการ 3 ราย คือ นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าระหว่างประเทศ นายทิฆัมพร นาทวรทัต รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายอัครพงศ์ ทีปวัชระ อดีตผู้อำนวยการสำนักการค้าข้าวต่างประเทศ ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการกองความร่วมมือการค้าและการลงทุน และเอกชน 15 ราย

ล่าสุด น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวผ่านทางไลน์ ว่า ยังไม่ได้มีการประชุม อกพ.กระทรวงพาณิชย์

มีรายงานข่าวว่า ป.ป.ช. ได้ส่งหนังสือชี้มูลความผิดถึงกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันพุธของสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยโทษตามกฎหมายกรณีผิดวินัยข้าราชการ กำหนดไว้ 5 ข้อ ได้แก่ 1.ภาคทัณฑ์ 2.ตัดเงินเดือน 3.ลดเงินเดือน 4.ปลดออก และ 5.ไล่ออก ซึ่งหากเป็นกรณีผิดวินัยร้ายแรง จะเหลือโทษ 2 ข้อ จาก 5 ข้อ คือ ปลดออก กับไล่ออก

***ให้ออก รองผอ.อคส.เซ่นทุจริตข้าวถุง

นางจินตนา ชัยยวรรณาการ ประธานคณะกรรมการ องค์การคลังสินค้า (อคส.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเอาผิดผู้บริหารระดับสูงของ อคส. กรณีทุจริตโครงการข้าวสารบรรจุถุงว่า บอร์ด อคส. ได้มีมติให้นายสมศักดิ์ วงศ์วัฒนศานต์ รองผู้อำนวยการ อคส. ออกจากราชการไว้ก่อน หลังผลการตรวจสอบพบว่ามีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตจริง ทั้งการเบิกจ่ายข้าวให้กับผู้รับปรับปรุงข้าวถุงเกินปริมาณที่กำหนด การคืนหนังสือค้ำประกัน ทั้งๆ ที่โครงการยังไม่จบ รวมไปถึงการว่าจ้างจัดทำแพกเกจจิ้งที่มีปัญหา

“ขณะนี้ ได้มีการตั้งกรรมการ เพื่อตรวจสอบและประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นจากโครงการดังกล่าวว่ามีจำนวนเท่าไร ซึ่งเมื่อได้ตัวเลขชัดเจนแล้ว ก็จะฟ้องเรียกค่าเสียหายทั้งจากผู้บริหาร อคส. และเอกชน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป”นางจินตนากล่าว

***เร่งคืนหนี้แต่พวกมีปัญหาจำนำดึงไว้ก่อน

นางจินตนากล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการคืนเงินค้ำประกันและค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าเช่าโกดัง ค่าเซอร์เวเยอร์ และค่ารมยา ให้กับเอกชนที่เข้าร่วมโครางการแทรกแซงสินค้าเกษตรของรัฐบาล ล่าสุดได้คืนไปแล้วประมาณ 5.5 พันล้านบาท นับตั้งแต่ต.ค.2557-ก.พ.2558 ยังเหลืออีกประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งอคส. จะเร่งทยอยคืนอย่างต่อเนื่อง โดยคืนให้เฉพาะเอกชนที่ไม่มีปัญหา แต่หากรายใดมีปัญหาในการปฏิบัติงาน ก็จะยังไม่คืน เพราะต้องเคลียร์ปัญหาให้จบก่อน

“การคืนเงินในส่วนของโครงการรับจำนำข้าวน่าจะมีปัญหามากสุด เพราะได้ตรวจสอบพบว่าผู้ประกอบการหลายราย มีการส่งข้าวผิดชนิด ข้าวที่เก็บรักษาเสียหาย และข้าวเสื่อมคุณภาพ ซึ่งรวมๆ แล้วประมาณ 4 ล้านตัน ซึ่งตรงนี้ต้องเคลียร์ปัญหาให้จบก่อน ถึงจะคืนเงินได้ แต่ประเมินแล้ว ข้าวที่มีอยู่ เมื่อเอาไปขายแล้ว อาจไม่พอกับหนี้ที่ อคส. ค้างอยู่ ก็ต้องเรียกเงินคืนจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งโรงสี เจ้าของโกดัง”

ทั้งนี้ ในจำนวนข้าว 4 ล้านตัน แยกเป็นการส่งมอบข้าวผิดชนิด คือ ข้าวหอมมะลิ แต่เอาข้าวชนิดอื่นมาส่งมอบแทน ผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบทั้ง 100% ข้าวเสียหาย จำนวน 6.5 แสนตัน ต้องรับผิดชอบประมาณ 40% และข้าวเสื่อมคุณภาพ อาจต้องรับผิดชอบประมาณ 30-40%

นอกจากนี้ อคส. กำลังรอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่า อคส. มีอำนาจในการลดค่าปรับ กรณีผิดสัญญากับอคส. ซึ่งคิดในอัตราตั้งแต่ 0.1% และ 0.2% ต่อวัน หรือ 37% และ 73% ต่อปี ลงได้หรือไม่ เพราะถือเป็นอัตราโทษปรับที่สูงเกินไป หากทำได้ ก็จะทำให้อคส. เรียกคืนหนี้จากภาคเอกชนได้มากขึ้น และเร็วขึ้น

***พร้อมเปิดประมูลข้าวรอบ 2 อีกล้านตัน

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งอีกว่า ขณะนี้ได้มีการคัดเลือกกองข้าวที่จะนำไปเปิดประมูลครั้งที่ 2/2558 เสร็จแล้ว ปริมาณรวม 1 ล้านตัน เป็นข้าวขาว ปลายข้าว และข้าวเหนียว แต่ไม่มีข้าวหอมมะลิ เพราะข้าวที่มีอยู่ในสต๊อก จากการตรวจสอบพบว่า ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ผิดชนิด และเสื่อมคุณภาพ โดยกรมการค้าต่างประเทศ จะประกาศหลักเกณฑ์ และกำหนดวันประมูลต่อไป คาดว่าน่าจะเปิดประมูลได้ช่วงต้นเดือนมี.ค.นี้ ส่วนข้าวที่เหลือจากการประมูลครั้งก่อน ปริมาณ 4 แสนตัน ยังไม่สรุปว่าจะนำมารวมกับการประมูลครั้งนี้หรือไม่

สำหรับการเรียกร้องค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว ต้องรอให้กระทรวงการคลังเป็นผู้สรุปตัวเลขยอดรวมที่ชัดเจน เพราะเป็นหน่วยงานที่ต้องดำเนินการฟ้องร้องทางกฎหมาย โดยกระทรวงพาณิชย์พร้อมที่จะสนับสนุนข้อมูลที่ต้องการ เนื่องจากต้องมีข้อมูลในเชิงพยานหลักฐาน เพื่อประกอบการฟ้องร้อง ส่วนตัวเลขฟ้องร้องจะเป็นเท่าไร ยังไม่สามารถระบุได้ ต้องรอให้กระทรวงการคลังคำนวณออกมาก่อน.
กำลังโหลดความคิดเห็น