“พาณิชย์” ชี้แจงการประมูลข้าวล้านตัน เผย “สยามอินดิก้า” โผล่ร่วมฟังเงื่อนไข

“พาณิชย์” เปิดชี้แจงประมูลข้าวยกคลังเกือบ 1 ล้านตัน แปะราคาขั้นต่ำมูลค่ารวม 1.16 หมื่นล้านบาท ชี้ใครให้ต่ำกว่าราคาขั้นต่ำไม่ขาย เผยสยามอินดิก้า โผล่ร่วมฟังเงื่อนไขประมูลด้วย ด้านเอกชนเชื่อแข่งกันประมูลคึกคักแน่ เหตุราคารับได้

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ ว่า กรมการค้าต่างประเทศ ได้เปิดชี้แจงรายละเอียดการประมูลข้าวสารสต๊อกรัฐบาลแบบยกคลังปริมาณรวม 9.99 แสนตัน แบ่งเป็นข้าวขาว 5% ประมาณ 8.5 แสนตัน และข้าวหอมมะลิ ประมาณ 1.5 แสนตัน ในคลังขององค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) รวม 168 คลัง ใน 36 จังหวัด โดยในการชี้แจงได้มีการปิดประกาศราคาขั้นต่ำของข้าวในแต่ละคลังที่นำมาเปิดประมูลให้ผู้สนใจรับทราบ รวมมูลค่าทั้งหมด 1.16 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ ในการชี้แจงได้ระบุว่ามีการปรับเงื่อนไขการประมูล โดยผู้ที่สนใจสามารถเดินทางไปตรวจสอบสภาพข้าวในแต่ละคลังได้ เพื่อเป็นข้อมูลตัดสินใจในการยื่นเสนอราคาในวันที่ 29 ม.ค.2558 รวมทั้งได้ปรับเงื่อนไขให้รายเล็กรวมตัวกันเพื่อเสนอราคาซื้อข้าวในแต่ละคลังได้ และยังมีเงื่อนไขจูงใจในการปรับลดค่าปรับกรณีที่รับมอบข้าวเกินสัญญา โดยค่าปรับจะไม่เกิน 0.2% ของมูลค่าข้าวที่ทำสัญญาไว้

รายงานข่าวแจ้งว่า การรับฟังการชี้แจงครั้งนี้ มีตัวแทนของบริษัท สยาม อินดิก้า เข้าร่วมรับฟังด้วย ซึ่งจากการสอบถามกรมการค้าต่างประเทศ ระบุว่า ยังไม่มีการขึ้นบัญชีดำ (แบล็กลิสต์) ต่อบริษัทดังกล่าว เพราะต้องรอหนังสืออย่างเป็นทางการจาก ป.ป.ช. กรณีที่ชี้มูลความผิดเรื่องสัญญาข้าวจีทูจี 4 ฉบับ ซึ่งมีชื่อของบริษัท สยาม อินดิก้า ถูกชี้มูลด้วย เมื่อได้หนังสือจะให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบว่ากรณีดังกล่าวต้องขึ้นแบล็กลิสต์หรือไม่ หากขึ้นแบล็กลิสต์บริษัทดังกล่าวก็ไม่สามารถเข้าร่วมประมูลได้

นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า การประกาศราคาขั้นต่ำของมูลค่าข้าวในแต่ละคลัง เป็นราคาเริ่มต้นที่จะใช้ในการประมูลเพื่อให้เอกชนรับทราบและตัดสินใจ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะขายในราคาที่ประกาศออกมา โดยหากเสนอราคาต่ำกว่าก็ไม่อนุมัติขายอยู่แล้ว ส่วนในคลังที่เสนอมารายเดียวในราคาเท่ากับที่ประกาศไว้ ก็จะไม่อนุมัติขายเช่นเดียวกัน เพราะมองว่าข้าวที่นำมาเปิดประมูลต้องมีการแข่งขันเสนอราคา และควรจะเสนอราคาเสนอซื้อสูงกว่าราคาขั้นต่ำที่ประกาศไว้ ส่วนข้าวที่นำมาเปิดประมูลรอบนี้เป็นข้าวที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานแล้ว

“เป็นการประมูลที่มอบที่สุดในรอบหลายๆ ปี เชื่อว่าจะมีผู้สนใจเข้ามาเสนอราคามาก โดยดูได้จากผู้ที่สนใจเข้ามารับฟังการชี้แจงในครั้งนี้ แต่ยังตอบไม่ได้ว่าจะมีคนซื้อหมดหรือไม่” นางดวงพร กล่าว

อย่างไรก็ตาม แม้ข้าวที่เปิดประมูลจะมีจำนวนมาก โดยเฉพาะข้าวขาว 5% แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อราคาข้าวในตลาด เนื่องจากผลผลิตนาปรังฤดูใหม่ยังไม่ออกมา และข้าวยังเป็นข้าวเก่าซึ่งคนละตลาดกับข้าวใหม่

ส่วนกรณีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดสัญญาข้าวรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) 4 สัญญา ซึ่งมีนักการเมือง ข้าราชการ และเอกชนที่เกี่ยวข้องนั้น ในส่วนของการฟ้องร้องดำเนินคดีชดใช้ค่าเสียหายเป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่จะส่งฟ้องอัยการ ส่วนมูลค่าความเสียหายที่จะฟ้องร้องเป็นเท่าไร เป็นหน้าที่ของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งในคณะทำงานคิดกรอบความเสียหายของกระทรวงการคลัง ก็จะมีเจ้าหน้าที่จากกรมฯ อยู่ในคณะทำงานอยู่แล้ว

นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การประมูลข้าวยกคลัง เชื่อว่าจะมีเอกชนสนใจเข้าร่วมซื้อข้าวจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการข้าวถุงในประเทศ เพราะจากการประเมินราคาขั้นต่ำของแต่ละคลังที่รัฐประกาศออกมา เป็นราคาไม่สูงมาก โดยราคาข้าวหอมมะลิ ราคาขั้นต่ำอยู่ที่ 20-21 บาท/กก. ต่ำกว่าราคาข้าวหอมมะลิเก่าในตลาดที่ขาย กก.ละ 31-32 บาท ส่วนข้าวขาว 5% เฉลี่ยราคาขั้นต่ำอยู่ที่ กก.ละ 8-10 บาท ต่ำกว่าราคาตลาดที่ขายอยู่ที่ กก.ละ 13 บาท