“พาณิชย์” เปิดประมูลข้าวครั้งที่ 4/2557 ปริมาณรวม 4 แสนตัน เปิดให้ยื่นซองเสนอราคาวันที่ 22 ธ.ค.นี้
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า วันนี้ (12 ธ.ค.) คณะทำงานดำเนินการระบายข้าวได้ออกประกาศเรื่องการจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล ครั้งที่ 4/2557 โดยชนิดข้าวที่เปิดประมูล ได้แก่ ข้าวเหนียวขาว 10% ข้าวขาว 25% ข้าวขาว 15% และปลายข้าวเอวันเลิศ รวมปริมาณ 400,100 ตัน
โดยกำหนดให้ยื่นซองเสนอราคาในวันที่ 22 ธ.ค. 2557 เวลา 08-30-11.00 น. ที่ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 3 อาคารปฏิบัติการ 5 ชั้น กรมการค้าต่างประเทศ และจะประกาศรายชื่อผู้มีคุณสมบัติและเปิดซองในวันเดียวกัน เวลา 13.30 น.
ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศจะมีการชี้แจงรายละเอียดการประมูลข้าวล็อตดังกล่าวในวันนี้ (12 ธ.ค.) เวลา 15.30 น.
น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวภายหลังการชี้แจงการประมูลข้าวว่า กรมฯ ได้เปิดประมูลข้าวสารสต๊อกรัฐบาลปริมาณ 400,100 ตัน จากคลังทั้งหมด 84 คลัง แบ่งเป็นปลายข้าวเอวันเลิศ 3.3 แสนตัน ข้าวขาว 15%ปริมาณ 1.2 หมื่นตัน และข้าวเหนียว 10% ปริมาณ 5.2 หมื่นตัน ที่เหลือเป็นข้าวขาว 25% โดยเป็นข้าวที่ได้จากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปี 2554/55 นาปรัง 2555 ข้าวเปลือกฤดูกาล 2555/56 และ 2556/57 กำหนดให้ผู้สนใจยื่นซองเสนอราคาในวันที่ 22 ธ.ค. และจะเปิดซองราคาในวันเดียวกัน โดยข้าวที่นำมาประมูลทั้งหมดเป็นข้าวคุณภาพดีที่ผ่านมากตรวจสอบแล้ว
หลักเกณฑ์ในการพิจารณา จะมีการกำหนดราคาขั้นต่ำ (ฟลอร์ไพรซ์) โดยผู้ที่เสนอราคาผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำจะได้รับการพิจารณาและอนุมัติขายให้กับผู้เสนอราคาสูงสุด แต่หากคลังใดไม่มีผู้เสนอราคาผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำจะอนุญาตให้ผู้ที่เสนอราคาสูงสุดสามารถยื่นราคาใหม่ได้อีก หรือหากคลังใด กองใด มีผู้เสนอราคาสูงสุดเท่ากันหลายราย จะให้เสนอราคาแข่งกันจนกว่าจะมีผู้เสนอราคาสูงสุดจึงจะถือว่าชนะ
“เงื่อนไขหลักการเดียวกับที่เคยประมูลมา 3 ครั้ง แต่ครั้งนี้เน้นประมูลปลายข้าวเอวัน เพราะตลาดมีความต้องการ และเป็นสินค้าที่ผ่านมาตรฐานแล้ว ส่วนการพิจารณาผลต้องเสนอผลสรุปต่อที่ประชุมคณะอนุกรรมการระบายข้าว คาดว่าจะทราบหลังจากเทศกาลปีใหม่”
สำหรับการประมูลข้าวทั้ง 3 รอบที่ผ่านมา สามารถขายข้าวได้ 3.48 แสนตัน มูลค่ารวมทั้งสิ้น 3,600 ล้านบาท โดยมีบางคลังมีปัญหาเรื่องคุณภาพข้าวไม่สามารถรับมอบได้ประมาณ 2-3 ราย ซึ่งหากผู้ประกอบการพบปัญหาดังกล่าวก็สามารถส่งเรื่องร้องเรียนมายังกรมฯ และจะมีคณะทำงานระดับจังหวัด ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาให้ ไม่ต้องยกเลิกสัญญาหรือเปลี่ยนคลัง
ด้านรายละเอียดเงื่อนไขการส่งมอบ ผู้ซื้อจะต้องมาขนย้ายภายใน 3 วันทำการนับจากวันที่ชำระเงิน โดยกำหนดการส่งมอบแบบขั้นบันได คือ ผู้ที่ชนะปริมาณไม่เกิน 1 หมื่นตัน ต้องขนย้ายให้เสร็จสิ้นภายใน 20 วันนับจากวันทำสัญญา ผู้ชนะปริมาณไม่เกิน 2 หมื่นตัน ขนย้ายภายใน 30 วัน ปริมาณ 2-5 หมื่นตัน ภายใน 60 วัน ปริมาณ 5 หมื่นตันถึง 1 แสนตัน ภายใน 90 วัน ปริมาณ 1-1.5 แสนตัน ภายใน 120 วัน
แหล่งข่าวจากวงการส่งออกข้าว กล่าวว่า การประมูลครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นปลายข้าว แต่ขณะนี้ตลาดมีความต้องการข้าวขาวมากกว่า แม้ว่าจะมีผู้เข้าร่วมประมูล แต่คงให้ราคาได้ตันละ 8,000 บาทเท่านั้น ซึ่งไม่ควรไปคิดผลการขาดทุนจากราคาจำนำ เพราะถึงอย่างไรก็ขาดทุนอยู่แล้ว
ทั้งนี้ เห็นว่า รัฐบาลควรเร่งกระบวนการประมูลให้เร็วขึ้น เพราะขณะนี้รัฐบาลใช้เวลาประมูลแต่ละครั้งเกิน 2 สัปดาห์ ซึ่งทำให้เอกชนเสียโอกาสหากจะไปรับคำสั่งซื้อแล้วมารอซื้อข้าวของรัฐ
ทางด้านแหล่งข่าวจากโรงสีข้าว กล่าวว่า ขณะนี้ตลาดส่งออกมียอดส่งออกเพิ่มขึ้น เนื่องจากข้าวเก่าในตลาดมีปริมาณลดลง แต่ผู้ส่งออกกลับไม่ยอมซื้อข้าวจากโรงสี เพราะรอซื้อข้าวราคาถูกของรัฐบาล ทำให้ราคาข้าวในตลาดขณะนี้อยู่ในภาวะทรงตัว ไม่มีการซื้อขาย
