ผู้ประกอบการค้าข้าวเข้าร่วมฟังการชี้แจงการประมูลข้าวรอบ 2 คึกคัก “พาณิชย์” คาดมีผู้ยื่นประมูลมากขึ้นแน่ หลังปรับเงื่อนไขใหม่เพื่อให้เกิดความคล่องตัว ยันเข้าร่วมประมูลข้าวฟิลิปปินส์แน่ แม้ต้องสู้กับเวียดนาม ส่วนข้าวอินโดนีเซีย 1.75 แสนตัน พร้อมส่งมอบหมดภายใน พ.ย.นี้
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า วันนี้ (9 ก.ย.) กรมการค้าต่างประเทศได้เปิดชี้แจงเงื่อนไขการจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกรัฐ ครั้งที่ 2/2557 ปริมาณรวม 139,675 ตัน โดยมีผู้ประกอบการค้าข้าวเป็นจำนวนมาก เข้าร่วมฟังการชี้แจง และดูตัวอย่างข้าวจากคลังที่เปิดประมูลจำนวน 31 คลัง จาก 21 จังหวัด
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า เงื่อนไขการระบายข้าวในครั้งนี้ส่วนใหญ่ยังคงเดิม แต่ได้ปรับปรุงเงื่อนไขบางส่วนเพื่อให้เกิดความคล่องตัวต่อผู้ยื่นประมูล ทั้งการนำเรื่องการปรับปรุงคุณภาพข้าว การขนส่ง และสภาพข้าวมาพิจารณา เพื่อกำหนดราคาขายขั้นต่ำ (Floor Price) และยังได้ปรับเงื่อนไขเพื่อเอื้อต่อผู้ร่วมประมูลรายย่อย เช่น ให้ยื่นหลักประกัน เป็นหนังสือค้ำประกัน ตั๋วเงิน หรือเช็คธนาคาร ที่ออกโดยธนาคารที่ตั้งอยู่ทั่วประเทศ จากเดิมกำหนดแค่ธนาคารในกรุงเทพ เท่านั้น รวมทั้งขยายระยะเวลารับมอบ และขนย้ายเป็น 20 วัน จากเดิม 14 วัน
ส่วนการเปิดประมูลครั้งนี้ ไม่มีข้าวขาว 5% เพราะผลการตรวจสอบคุณภาพข้าวยังไม่ครบถ้วน และมั่นใจว่าจะสามารถขายได้ทั้งหมด เพราะเงื่อนไขประมูลมีความชัดเจน ขณะที่การเปิดประมูลครั้งต่อไปจะประเมินจากหลายปัจจัย ทั้งความต้องการของตลาด และการระบายที่ไม่กระทบต่อราคาข้าวในท้องตลาด
ทั้งนี้ กรมฯ จะเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาในวันที่ 12 ก.ย.2557 ตั้งแต่เวลา 08.30-11.00 น. ในปริมาณรวม 139,675 ตัน แบ่งเป็นข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ข้าวเหนียวขาว 10% ข้าวท่อนหอมมะลิ ปลายข้าวหอมมะลิ ปลายข้าวปทุมธานี ปลายข้าวเหนียวเอวัน และปลายข้าวขาวเอวันเลิศ โครงการนาปี 2554/55 นาปรัง 2555 2555/56 (รอบ 1 และ รอบ 2) และ 2556/57 แบบรายคลัง และหรือรายกอง ในคลังขององค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) และจะทำการเปิดซองวันเดียวกัน ในเวลา 13.30 น. ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 3 อาคารปฏิบัติการ 5 ชั้น กรมการค้าต่างประเทศ ซึ่งจะรู้ผลการประมูลในเบื้องต้น ก่อนเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าว (นบข.) ตามขั้นตอน ซึ่งยังยึดหลักการเดิมที่ผู้เสนอราคาสูงสุดผ่านราคาพื้นฐาน จะถือเป็นผู้ชนะการประมูล
นางดวงพร กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการขายข้าวของรัฐบาล ล่าสุด ได้ส่งหนังสือเพื่อร่วมเสนอราคาขายข้าวให้รัฐบาลฟิลิปปินส์ ปริมาณ 5 แสนตันไปแล้วเมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ได้รับแจ้งในวันถัดมากว่า การประมูลขอเลื่อนออกไปก่อน คาดว่าจะเป็นวันที่ 15 ก.ย.นี้ ซึ่งกรมฯ พร้อมจะเข้าร่วมแข่งขันเสนอราคา แม้จะมีเงื่อนไขต้องส่งมอบสินค้าถึงหน้าโกดัง และยังต้องแข่งขันกับเวียดนามก็ตาม
ส่วนการตกลงขายข้าวให้อินโดนีเซีย ปริมาณ 1.75 แสนตัน เป็นข้าว 5% และข้าว 15% กำหนดเป็นข้าวใหม่นั้น จะใช้ข้าวจากท้องตลาด 1.5 แสนตัน ที่เหลือเป็นข้าวในสต๊อกรัฐที่มีอยู่ที่ตรงตามสภาพที่ผู้ซื้อต้องการ กำหนดส่งมอบให้เสร็จสิ้นภายในเดือน พ.ย.นี้
นายกิตติพงษ์ พายัพวัฒนวงษ์ เจ้าของโรงสีไฟศรีกรุง ลาดกระบัง กล่าวว่า การเปิดประมูลข้าวสต๊อกรัฐบาลในรอบ 2 คาดว่าข้าวที่ได้รับความสนใจจากเอกชน คือ ข้าวหอมมะลิ ที่น่าจะมีการเสนอราคาแข่งขันสูงกว่าการประมูลรอบแรก ส่วนข้าวเหนียว และปลายข้าวหอม คาดว่าราคาเสนอซื้อไม่น่าจะสูงกว่ารอบแรก โดยในส่วนของโรงสีกำลังดูรายละเอียดเพื่อเข้าร่วมการประมูลในรอบ 2 ซึ่งการประมูลในรอบแรกทางโรงสีชนะการประมูลข้าวปริมาณ 3,000 ตัน อยู่ระหว่างการขนสินค้าตามสัญญา แต่บางส่วนติดปัญหาเรื่องคุณภาพข้าวไม่เป็นไปตามตัวอย่าง ซึ่งทางกรมฯ แจ้งว่าจะประสานเซอร์เวเยอร์ให้รับผิดชอบข้าวคุณภาพข้าวดังกล่าว