ธุรกิจตั้งใหม่ ก.พ.จำนวน 5,631 ราย เพิ่ม 16% ส่วนเลิกกิจการมีถึง 1,113 ราย พุ่ง 73% เหตุคุมเข้มธุรกิจค้าสลากฯ ทำเลิกกิจการเยอะ
น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือน ก.พ. 2558 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศจำนวน 5,631 ราย เพิ่มขึ้น 16% เทียบกับ ก.พ. 2557 โดยมีทุนจดทะเบียน 1.48 หมื่นล้านบาท ลดลง 20% ส่งผลให้การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ช่วง 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ.) มีจำนวน 1.16 หมื่นราย หรือเพิ่มขึ้น 14%
ส่วนนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกทั่วประเทศในเดือน ก.พ. 2558 มีจำนวน 1,113 ราย เพิ่มขึ้น 73% เทียบกับ ก.พ. 2557 มีทุนจดทะเบียนเลิกกิจการ 1,904 ล้านบาท ลดลง 60% ส่งผลให้ช่วง 2 เดือน ปี 2558 มีธุรกิจจดทะเบียนเลิกกิจการประมาณ 2,493 ราย หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 20%
สาเหตุที่มีการจดทะเบียนเลิกกิจการเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากเป็นผลจากการเข้มงวดการจดทะเบียนธุรกิจค้าสลาก โดยพบว่าช่วงก่อนออกคำสั่งที่กำหนดให้ผู้จะจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจค้าสลากต้องแสดงหลักฐานต้นฉบับยืนยันตัวบุคคล เอกสารสิทธิของสถานที่ตั้งสำนักงาน และหลักฐานแสดงฐานะทางการเงิน มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจค้าสลากเป็นจำนวนมาก โดยช่วงเดือน ม.ค.-ส.ค. 2556 มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจค้าสลากเฉลี่ยเดือนละ 607 ราย และจดทะเบียนเลิกเฉลี่ยเดือนละ 77 ราย หรือคิดเป็นสัดส่วนตั้งใหม่ต่อเลิก 8 ต่อ 1 แต่หลังจากออกคำสั่งครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2556 บังคับเฉพาะผู้ที่จะจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจค้าสลาก ส่งผลให้มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจค้าสลากช่วง ก.ย.-พ.ย. 2556 เฉลี่ยเดือนละ 112 ราย และจดทะเบียนเลิกเฉลี่ยเดือนละ 102 ราย หรือคิดเป็นสัดส่วน 1 ต่อ 1
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นกรมฯ ได้ออกคำสั่งเกี่ยวกับการดูแลธุรกิจค้าสลากครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2556 บังคับให้ผู้ที่จดทะเบียนจัดตั้งหรือเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ให้ประกอบธุรกิจค้าสลาก ส่งผลให้มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจค้าสลากช่วง ธ.ค. 2556–ม.ค. 2558 เฉลี่ยเดือนละ 14 ราย และจดทะเบียนเลิกเฉลี่ยเดือนละ 235 ราย คิดเป็นสัดส่วนตั้งใหม่ต่อเลิก 1 ต่อ 17 และล่าสุดได้ออกคำสั่งครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2558 บังคับผู้ที่จดทะเบียนจัดตั้งหรือเปลี่ยนแปลงทุกประเภทที่เกี่ยวกับธุรกิจค้าสลากต้องแสดงหลักฐานยืนยัน ส่งผลให้เดือน ก.พ. 2558 มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจค้าสลากจำนวน 3 รายเท่านั้น ขณะที่จดทะเบียนเลิกเพิ่มขึ้นจำนวน 446 ราย หรือคิดเป็นสัดส่วนตั้งใหม่ต่อเลิก 1 ต่อ 149
น.ส.ผ่องพรรณกล่าวว่า สำหรับแนวโน้มการจดทะเบียนธุรกิจตั้งใหม่ในปี 2558 เชื่อว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่กรมฯ กำหนดไว้ คือ ทั้งปีมียอดการจัดตั้งใหม่จำนวน 6-6.5 หมื่นราย เพราะหากดูแนวโน้มต่อเดือนที่มีการจดทะเบียนธุรกิจประมาณ 5,000 รายขึ้นไปก็จะได้ตามเป้าหมายนี้ สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังฟื้นตัวจากมาตรการของรัฐบาลในการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ และการลงทุน แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจในด้านต่างๆ ได้แก่ ราคาน้ำมัน ราคาสินค้าเกษตร การบริโภคภาคเอกชน การลงทุน การท่องเที่ยว และการส่งออกที่มีสัญญาณดีขึ้น แต่ยังคงเปราะบางตามภาวะเศรษฐกิจโลก และอาจจะส่งผลต่อการจดทะเบียนจัดตั้งโดยรวมได้