กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยยอดจดทะเบียนธุรกิจเดือน ม.ค. 58 พบเพิ่มขึ้น 12% มูลค่ากว่า 18,000 ล้านบาท ขณะที่ยกเลิกธุรกิจกว่า 1,300 ราย ชี้ธุรกิจก่อสร้างอาคารมาแรงสุด ส่วนอสังหาริมทรัพย์รองลงมา
นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึงการจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือนมกราคม 2558 โดยมีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศจำนวน 5,980 ราย เพิ่มขึ้น 2,659 ราย คิดเป็น 80% เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2557 ซึ่งมีจำนวน 3,321 ราย และเพิ่มขึ้น 663 ราย คิดเป็น 12% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2557 ซึ่งมีจำนวน 5,317 ราย สำหรับนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกทั่วประเทศในเดือนมกราคม 2558 มีจำนวน 1,380 ราย
ทั้งนี้มูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ในเดือนมกราคม 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 18,620 ล้านบาท ลดลงจำนวน 12,767 ล้านบาท คิดเป็น 41% เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2557 ซึ่งมีจำนวน 31,387 ล้านบาท และลดลงจำนวน 11,020 ล้านบาท คิดเป็น 37% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2557 ซึ่งมีจำนวน 29,640 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 640 ราย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 365 ราย ธุรกิจทำบัญชีและตรวจสอบบัญชี จำนวน 194 ราย ธุรกิจขายส่งเครื่องจักร จำนวน 157 ราย และธุรกิจติดตั้งไฟฟ้า 122 ราย
ปัจจุบัน ณ วันที่ 31 มกราคม 2558 มีห้างหุ้นส่วนบริษัทจำกัดดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 598,462 ราย มีทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 15.55 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นบริษัทจำกัด 417,596 ราย บริษัทมหาชนจำกัด 1,077 ราย และห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 179,789 ราย
“การจดทะเบียนจัดตั้งในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2558 จะมีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากการจดทะเบียนจัดตั้งในเดือนมกราคม 2558 มีจำนวนสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา (ธ.ค.57) คิดเป็น 80% และสูงกว่าเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค. 57) คิดเป็น 12% ประกอบกับธุรกิจน่าจะได้รับผลดีจากแนวโน้มการเติบโตของ GDP ปี 2558 ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 4-5 จากการบริโภคภาคเอกชน การลงทุน การท่องเที่ยว และการส่งออกที่มีแนวโน้มดีขึ้น รวมทั้งมาตรการของรัฐบาลในการเร่งรัดการเบิกจ่ายและการลงทุนจะเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวต่อไป ซึ่งจะส่งผลดีต่อการจดทะเบียนจัดตั้งโดยรวม” อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากล่าว
อย่างไรก็ตาม กรมพัฒนาธุรกิจการค้ายังคงส่งเสริมให้มีการใช้ e-Commerce เพื่อประกอบธุรกิจและขยายตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยกรมได้ออกเครื่องหมายรับรองการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Registered) เพื่อยืนยันการมีตัวตนของผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าหรือบริการ ซึ่งปัจจุบันนี้มีผู้ยื่นขอจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แล้วจำนวน 11,383 ราย 13,018 เว็บไซต์ ประกอบด้วยนิติบุคคล 3,087 ราย คิดเป็น 27% บุคคลธรรมดา 8,296 ราย คิดเป็น 73% โดยธุรกิจที่ขอจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สูงสุด ได้แก่ ธุรกิจคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต จำนวน 2,404 เว็บไซต์ คิดเป็น 19% ธุรกิจแฟชั่น/เครื่องแต่งกาย/เครื่องประดับ จำนวน 2,061 เว็บไซต์ คิดเป็น 16% และธุรกิจการแพทย์และสุขภาพ จำนวน 1,431 เว็บไซต์ คิดเป็น 11% ตามลำดับ ซึ่งการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้ผู้บริโภคมาใช้บริการ นอกจากผู้ประกอบธุรกิจร้านค้าออนไลน์แล้ว กรมยังได้หารือกับตลาดกลางออนไลน์ให้กำกับดูแลสมาชิกให้มีการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมาย เพราะหากปฏิบัติไม่ถูกต้องจะมีโทษปรับ และอาจต้องพิจารณางดให้บริการเข้าขายสินค้าในตลาดกลางด้วย ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นการขยายตัวของการซื้อขายทางออนไลน์ของไทยให้เติบโตในอัตราก้าวกระโดดเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *