เผยเทรนด์รักสุขภาพมาแรงหนุนตลาดน้ำแร่ธรรมชาติโตขึ้น 18% สูงกว่าเครื่องดื่มชนิดอื่น โดยเฉพาะน้ำดื่มธรรมดาโตต่ำกว่า 5% “ออร่า” บุกตลาดเต็มที่หลังทำยอดขายโต 40% ลงทุน 200 ล้านบาท เร่งเครื่องจักรผลิตเพิ่ม 140% ทุ่มงบฯ การตลาด 200 ล้านบาท ชูจุดเด่น-สร้างความต่างไม่เหมือนใคร พร้อมกรุยทางเพิ่มช่องจัดจำหน่ายใหม่ผ่านงานสัมมนา-โรงแรมห้าดาว หวังทำยอดขายโตขึ้น 30% ในปี 58 ก่อนผงาดเป็นผู้นำใน 3 ปี
นายเอกพล พงศ์สถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPCO เปิดเผยว่า ในปี 2558 ถือเป็นโอกาสครบรอบ 20 ปีการผลิตน้ำแร่ธรรมชาติ 100% “ออร่า” ภายใต้การจัดจำหน่ายของ บริษัท ทิปโก้ เอฟแอนด์บี จำกัด ซึ่งได้รับการสำรวจจาก “นีลเส็น” ว่า เป็นแบรนด์น้ำแร่ธรรมชาติที่ผู้บริโภคให้การยอมรับว่าเป็นแบรนด์ที่มีคุณค่าสูงสุด (Brand Equity)
ในช่วงที่ผ่านมาน้ำแร่ธรรมชาติ 100% “ออร่า” มียอดจำหน่ายเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงเตรียมแผนขยายกำลังการผลิตให้เพียงพอกับความต้องการมาตั้งแต่เดือน พ.ค.57 โดยนำเข้าเครื่องจักรและเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากประเทศเยอรมนีด้วยมูลค่า 200 ล้านบาท เพิ่มศักยภาพการผลิตมากขึ้นถึง 140% หรือ 2.4 เท่า จาก 1 หมื่นขวดต่อชั่วโมงเป็น 2.4 หมื่นขวดต่อชั่วโมง หรือ 130 ล้านขวดต่อปี
นอกจากนั้นยังมีการเพิ่มขนาดบรรจุภัณฑ์เพื่อขยายฐานกลุ่มผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ทำให้ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 3 ขนาดคือ ขนาดใหม่ 330 มล.เพื่อรองรับผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกด้านการพกพา ขนาดมาตรฐาน 500 มล. และขนาดครอบครัว 1.5 พันมล. โดยในปี 2558 จะเน้นด้านการประชาสัมพันธ์และสร้างความรู้ให้ผู้บริโภคทราบถึงจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ว่าเป็นน้ำแร่ธรรมชาติเพียงแบรนด์เดียวในตลาดที่มีแร่ธาตุ “ซิลิก้า” ทำให้มีแร่ธาตุครบถ้วนถึง 9 ชนิด โดยแหล่งกำเนิดจาก “แหล่งน้ำพุเย็น” บนเทือกเขาสูง 2.7 พันฟุต
ด้าน นายพีรพงษ์ อาชวพงษ์สวัสดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท ทิปโก้ เอฟแอนด์บี จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2557 ตลาดน้ำแร่ธรรมชาติของประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 2.5 พันล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 18% ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับเครื่องดื่มประเภทอื่นๆ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับน้ำดื่มธรรมดาพบว่ามีอัตราเติบโตต่ำกว่าถึง 5% โดยในส่วนของ “ออร่า” มียอดขายเติบโตขึ้นถึง 40% คิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 750 ล้านบาท มีส่วนแบ่ง 30% ของตลาดรวม เป็นรอง “มิเนเร่” ซึ่งมีประมาณ 33% ส่วนอันดับ 3 เป็น “มองต์เฟลอ” 13% อันดับ 4 เป็น “เพียวร่า” 10% ส่วนที่เหลือเป็นอื่นๆ
จากการเติบโตของตลาดน้ำแร่ในปีที่ผ่านมาจึงเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ากลุ่มผู้บริโภคมีความใส่ใจในสุขภาพมากขึ้น ตลาดน้ำแร่จะยังคงเติบโตต่อเนื่อง 15% บริษัทฯ จึงพร้อมรุกตลาดอย่างเต็มที่โดยเน้นเรื่องจุดเด่นที่มีความแตกต่างกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ เป็นหลัก โดยใช้งบประมาณการตลาด 200 ล้านบาท แบ่งเป็น150 ล้านบาทสำหรับการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ Below the Line ประเภทสื่อนอกบ้าน รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน อินเทอร์เน็ต รวมถึงโปรโมชั่น และกิจกรรมการตลาดอื่นๆ โดยเฉพาะการเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันวิ่งมาราธอนตลอดทั้งปี 2558 ประมาณ 150 ล้านบาท ส่วนอีก 50 ล้านบาทเป็นการใช้สื่อ Above the Line โดยเฉพาะโทรทัศน์ซึ่งกำลังจะเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ในเร็วๆ นี้
“บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายว่าในปี 2558 จะสามารถทำยอดขายไม่ต่ำกว่า 900 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตประมาณ 30% โดยคาดว่าภายใน 3 ปีจะสามารถเป็นผู้นำตลาดได้ด้วยส่วนแบ่ง 35% พร้อมเริ่มส่งออกไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนและเอเชียเป็นลำดับต่อไป”
นายพีรพงษ์ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันบริษัทฯ ยังคงเน้นช่องทางจำหน่ายโมเดิร์นเทรดเป็นหลักคือ 90% และ Food Service 10% แต่ในปี 2558 บริษัทฯ มีแผนขยายช่องทางจำหน่าย Food Service มากขึ้นจากปัจจุบันที่เป็นพันธมิตรกับร้าน “แบล็ค แคนยอน” จำนวน 357 สาขาทั่วประเทศ และร้านค้าในเครือ Central Restaurant Group (CRG) รวม 360 แห่ง โดยจะขยายช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ ผ่านงานสัมมนาและโรงแรมระดับห้าดาวทั่วประเทศมากขึ้นเพื่อเป็นการขยายตลาดน้ำแร่ “ออร่า” ขนาด 330 มล. โดยคาดว่าภายใน 3 ปีการจำหน่ายผ่าน Food Service จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 20%