xs
xsm
sm
md
lg

ทิปโก้แอสฟัลท์ ไตรมาสแรกกำไรกว่า 1.1 พันล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ทิปโก้แอสฟัลท์ อวดผลงานไตรมาสแรกกำไร 1,126 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 345% จากงวดนี้ปีก่อน สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ อานิสงส์รัฐบาลเดินหน้าซ่อม-สร้างถนน กระตุ้นเศรษฐกิจ ดีมานด์ยางมะตอย ทั้งในและต่างประเทศพุ่ง ผู้บริหารมั่นใจแนวโน้มรายได้กำไรปีนี้พุ่ง

ทิปโก้แอสฟัลท์ ไตรมาสแรกโชว์กำไรสุทธิ 1,126 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 345% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว สูงสุดเป็นประวัติการณ์ อานิสงส์รัฐบาลเดินหน้าซ่อม-สร้างถนน กระตุ้นเศรษฐกิจ ดีมานด์ยางมะตอยทั้งในและต่างประเทศพุ่ง ด้านผู้บริหาร “ชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์” มั่นใจแนวโน้มรายได้-กำไร ปี 58 ทำนิวไฮต่อเนื่อง คาดยอดขายยางมะตอยในประเทศโต 10% ทะลุ 2.2 ล้านตัน ตั้งงบลงทุนกว่า 1.5 พันล้านบาท ปรับปรุงเครื่องจักร-ซื้อเรือบรรทุกยางมะตอยเพิ่ม รองรับความต้องการทั้งใน และต่างประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น จากการที่หลายประเทศประกาศเดินหน้าลงทุนระบบลอจิสติกส์

นายชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 1/2558 มีรายได้รวม 8,264 ล้านบาท ลดลง 31% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลมาจากราคาขายในต่างประเทศที่ลดลง แต่ยอดขายยางมะตอยทั้งหมดนั้นลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยบริษัทได้รับอานิสงส์จากการลงทุนในภาครัฐในประเทศ และระดับราคาขายที่ยังคงสูงต่อเนื่อง ส่วนราคาขายในต่างประเทศถึงแม้จะลดลงแต่ก็ยังลดลงน้อยกว่าต้นทุน ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,126 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 345% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์

“แนวโน้มยอดขายยางมะตอยในประเทศปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 10% หรือทะลุ 2.2 ล้านตัน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการที่รัฐบาลได้มีการจัดตั้งงบประมาณปี 2558 สำหรับงานก่อสร้าง และซ่อมแซมถนน มูลค่ากว่า 70,000 ล้านบาท สูงกว่างบประมาณปี 2557 ถึง 27% ซึ่งยังไม่นับรวมการจัดสรรงบเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลอีก 40,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงบประมาณของกรมทางหลวง 25,000 ล้านบาท และกรมทางหลวงชนบท 15,000 ล้านบาท ที่คาดว่าจะมีการเริ่มเบิกจ่ายกันในไตรมาส 2 ปี 58” นายชัยวัฒน์ กล่าว

โดยในส่วนของตลาดต่างประเทศปีนี้บริษัทเตรียมบุกตลาดในภูมิภาคอาเซียน หลังรัฐบาลในหลายประเทศมีการประกาศแผนแม่บทกระตุ้นเศรษฐกิจ (โรดแมป) ผ่านการขยายเส้นทางคมนาคมขนส่ง ซึ่งเป็นแผนระยะยาว ทำให้ความต้องการใช้ยางมะตอยเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม กรณีที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีความผันผวน ทางฝ่ายบริหารมั่นใจว่า ไม่กระทบต่อผลการดำเนินของบริษัทมากนัก เนื่องจากมีการทำการป้องกันความเสี่ยงไว้แล้ว

ขณะนี้ถือได้ว่า TASCO เป็นผู้นำตลาดยางมะตอยในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก เพราะในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ได้มีการลงนามในสัญญากับบริษัท SK Energy จำกัด ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในสิงคโปร์สัดส่วน 50:50 ภายใต้ชื่อ Asia Bitumen Trading Pte Ltd (ABT) เพื่อการดำเนินธุรกิจค้าขายยางมะตอยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยจะสามารถเริ่มดำเนินธุรกิจในไตรมาส 2/58 ซึ่งทาง SK Energy เป็นบริษัทปิโตรเลียมรายใหญ่สุดในเกาหลีใต้ มีกำลังการกลั่นน้ำมันดิบ 1.115 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทั้งยังเป็นผู้ค้ายางมะตอยรายใหญ่ที่สุดของเอเชีย ด้วยกำลังการผลิตมากกว่า 3 ล้านตันต่อปี

ทั้งนี้ บริษัทตั้งงบลงทุนรวม 1,500 ล้านบาท ในปีนี้เพื่อปรับปรุงเครื่องจักรอุปกรณ์ โดยเฉพาะที่โรงกลั่น พร้อมทั้งสั่งซื้อเรือลำใหม่ 1 ลำ ขนาด 10,000 ตัน ซึ่งเป็นหนึ่งในเรือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน เพื่อรองรับแผนขยายตลาดต่างประเทศ โดยปัจจุบัน มีเรือขนส่ง 11 ลำเป็นของบริษัท 7 ลำ ของพันธมิตร 2 ลำ และเช่า 2 ลำ นอกจากนี้ จะซื้อรถขนส่งเพิ่มอีก 20 คัน รวมเป็น 300 คัน เพื่อขยายตลาดในประเทศตามยอดขายที่เติบโตขึ้น

ปัจจุบัน TASCO มีกำลังการผลิตของโรงกลั่นอยู่ที่ 30,000 บาร์เรลต่อวัน หลังเพิ่มกำลังการผลิตเมื่อปีก่อนจากเดิม 25,000 บาร์เรลต่อวัน และบริษัทยังจัดซื้อยางมะตอยจากโรงกลั่นอื่นๆ ในภูมิภาคเพื่อส่งไปขายลูกค้าต่างประเทศอีกด้วย

อย่างไรก็ดี บริษัทมีความมั่นใจในศักยภาพของบริษัทในการผลิตยางมะตอยเพื่อตอบสนองตลาด และให้บริการจัดส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็ว ตรงตามเวลา และสอดคล้องต่อแผนการทำงานของลูกค้า โดยบริษัทมีโรงงานผลิต และคลังเก็บยางมะตอยที่กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาค พร้อมรถบรรทุกขนส่งยางมะตอยกว่า 300 คัน นอกจากนี้ บริษัทมีโรงกลั่นยางมะตอยระดับมาตรฐานโลก ตั้งอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมที่จะนำเข้าด้วยเรือขนส่งยางมะตอยขนาดใหญ่ของบริษัท เพื่อสร้างความมั่นใจในกรณีที่โรงกลั่นในประเทศเกิดวิกฤตไม่สามารถผลิตยางมะตอยได้เพียงพอ


กำลังโหลดความคิดเห็น