ขสมก.ทำข้อตกลงคุณธรรมนำร่อง ซื้อรถเมล์ NGV 489 คัน ซึ่งเปิดยื่นซอง 6 มี.ค.นี้ก่อนเคาะราคาอี-ออกชัน 26 มี.ค. เร่งส่งมอบใน พ.ค.นี้ ด้าน “ประจิน” สั่งศึกษาทบทวนแผนจัดหารถเมล์ที่เหลือ 2,694 คัน หวั่นเดินตามแผนเดิม อาจมีปัญหาหลังราคา NGV ปรับขึ้นสวนทางดีเซล พร้อมศึกษาทางเลือกใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่ม สั่งสรุปใน 45 วัน หากปรับเปลี่ยนต้องเสนอ ครม.อนุมัติใหม่
วันนี้ (2 มี.ค.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีลงนามข้อตกลงคุณธรรม 3 ฝ่ายระหว่างองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ผู้สังเกตการณ์ที่ได้รับแต่งตั้งจากองค์การต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) และผู้เข้าร่วมเสนอราคา โครงการจัดซื้อรถโดยสารใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ (NGV) จำนวน 489 คัน โดยมีนายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ร่วม
ซึ่ง พล.อ.อ.ประจินเปิดเผยว่า การจัดซื้อรถเมล์ NGV จำนวน 489 คัน ของ ขสมก.เป็นโครงการแรกที่นำหลักเกณฑ์ วิธีการ และแนวทางในการใช้ระบบข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) ในการจัดซื้อจัดจ้างมาดำเนินการ ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2558 โดย ขสมก.จะกำหนดไว้ในเงื่อนไขขอบเขตงาน (TOR) การประกวดราคาหากผู้เสนอราคาไม่ยอมรับจะไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมประมูลหรือทำผิดข้อตกลงหลังได้งานไปแล้วจะต้องยกเลิกสัญญาหรือถูกขึ้นบัญชีดำ ส่วนข้าราชการที่มีส่วนร่วมในการทำผิดจะต้องถูกลงโทษด้วย ซึ่งจะดูที่เจตนาประกอบด้วย
ทั้งนี้ จากที่ ขสมก.ขายซองซื้อรถเมล์ NGV จำนวน 489 คัน ระหว่างวันที่ 19-27 ก.พ.และมีผู้ซื้อซองทั้งสิ้น 21 รายนั้น จะให้ยื่นเอกสารในวันที่ 6 มี.ค. โดยผู้ที่ยื่นประมูลทั้งหมดจะต้องลงนามในข้อตกลงคุณธรรม 3 ฝ่าย เป็นรายบริษัทก่อน จากนั้นจะตรวจสอบคุณสมบัติเพื่อเข้าสู่กระบวนการเคาะราคาแข่งขันอี-ออกชัน ในวันที่ 26 มี.ค.นี้ คาดว่าจะลงนามสัญญากับผู้ชนะประมูลได้ภายในปลายเดือน มี.ค.-ต้นเดือน เม.ย. และส่งมอบรถภายใน 90 วัน หรือตั้งแต่เดือน พ.ค.ถึงเดือน มิ.ย. โดยจะนำมาวิ่งบริการเสริมใน 20 เส้นทาง
สำหรับรถที่เหลือจำนวน 2,694 คัน พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า จะมีการศึกษาความเหมาะสมใหม่ว่าจะเดินหน้าใช้ก๊าซ NGV ตามแผนเดิม หรือเปลี่ยนไปใช้น้ำมันดีเซล หรือใช้พลังงานไฟฟ้า เป็นต้น เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์เรื่องพลังงานมีการเปลี่ยนแปลง โดย NGV มีแนวโน้มปรับขึ้น ขณะที่น้ำมันดีเซลลดลง โดยมอบหมายให้รองปลัดกระทรวงคมนาคม อธิบดีกรมการขนส่งทางบก และ ขสมก.ร่วมหารือกับผู้เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งเปิดรับฟังความคิดเห็นภาคประชาสังคมด้วย โดยให้ได้ข้อสรุปภายใน 45 วันหลังจากนี้ หากเห็นว่าควรใช้ก๊าซ NGV ตามแผนเดิมให้เดินหน้าต่อ แต่หากเห็นว่าควรปรับเปลี่ยนจากเดิมจะต้องนำแผนเสนอ ครม.พิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ การจัดหารถเมล์ใหม่จะต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับแผนฟื้นฟู ขสมก. ซึ่งจะมีการแก้ปัญหาหนี้สิน การปรับเส้นทางเดินรถใหม่ และการเจรจากับผู้ประกอบการรถร่วมฯ ในการปรับเส้นทางเดินรถให้สอดคล้องเพื่อรองรับการใช้ระบบตั๋วร่วมและการต่อเชื่อมกับระบบขนส่งอื่น ทั้งรถไฟฟ้า รถไฟ เรือ ซึ่งจะเห็นเป็นรูปธรรมใน 2-2.5 ปี
นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า หลักของข้อตกลงคุณธรรมคือให้มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส ซึ่งกรมบัญชีกลางได้วางมาตรฐานไว้เพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อมูลได้ และจะมีบุคคลที่ 3 หรือคณะผู้สังเกตการณ์ฯ ซึ่งแต่งตั้งจากผู้ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย แต่เป็นผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เช่น เทคนิค บัญชี เป็นต้น เพื่อเข้าร่วมสังเกตการณ์ในการประมูลทุกขั้นตอน โดยสามารถให้ข้อคิดเห็นต่างๆ ผ่านไปทาง รมว.คมนาคม เพื่อตรวจสอบตามขั้นตอน แต่จะไม่มีสิทธิ์สั่งหยุดกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ดังนั้นผู้สังเกตการณ์ตามข้อตกลงคุณธรรมจะไม่ได้มุ่งเน้นเพื่อจ้องเรื่องใดเป็นพิเศษหรือทำให้โครงการหยุดชะงัก แต่ให้เป็นความร่วมมือ 3 ฝ่ายเพื่อให้โครงการโปร่งใส และหากมีการทุจริตเกิดขึ้นให้สังคมร่วมประณามผู้ที่เกี่ยวข้อง