xs
xsm
sm
md
lg

ศรีไทยฯ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 1.1 หมื่นล้าน ดันแบรนด์ “ซุปเปอร์แวร์” เจาะตลาดจีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ิภาพอินเทอร์เนต
ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 1.1 หมื่นล้านบาท โตขึ้น 12% หลังจากรายได้พลาดเป้าในปีที่แล้ว เนื่องจากราคาน้ำมันลดลงแรงทำให้ลูกค้าชะลอการสั่งซื้อ มั่นใจปีนี้ตลาดในประเทศดีขึ้น เผยดันสินค้าแบรนด์ซุปเปอร์แวร์เจาะตลาดจีนเป็นครั้งแรก หลังพบว่าความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์เมลามีนในจีนสูงมาก

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) (SITHAI) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวมอยู่ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท โตขึ้นจากปีก่อน 12% เนื่องจากมีการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศมากขึ้น รับรู้รายได้จากโรงงานในอินเดียและเปิดร้านขายสินค้าจากโรงงาน หรือ Srithai Super Outlet ที่ชลบุรีเข้ามา

“โรงงานผลิตเมลามีนที่อินเดียคาดว่าจะผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในเดือน เม.ย.นี้ ล่าช้ากว่าแผนเดิมเล็กน้อยเนื่องจากการก่อสร้างดีเลย์ ส่วนการเปิดร้านศรีไทย ซุปเปอร์ เอาต์เลตที่ชลบุรีนั้นได้เริ่มเปิดอย่างไม่เป็นทางการ (Soft Opening) เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งเร่งเปิดร้านเอาต์เลตให้ทันก่อนตรุษจีนที่จะถึงนี้ โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้เดือนละ 7 ล้านบาท”

ส่วนผลประกอบการบริษัทฯ ในปี 2557 มีรายได้รวม 9.8 พันล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 1.04 หมื่นล้านบาท เนื่องจากไตรมาส 4/2557 ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลงแรงและเร็วทำให้ลูกค้าชะลอการซื้อสินค้า ขณะที่บริษัทเร่งขายสินค้าสู่ตลาด รวมทั้งกำลังซื้อผู้บริโภคก็ลดลงด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารายได้รวมบริษัทฯ จะต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อยแต่ก็สูงกว่าปีก่อนที่มีรายได้รวม 9.5 พันล้านบาท และรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) อยู่ที่ 19.2% ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

“ปีที่แล้วบริษัทมีรายได้ 9.8 พันล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนธุรกิจเมลามีน 25% ธุรกิจพลาสติก 70% และเทรดดิ้ง 5%”

นายสนั่นกล่าวต่อไปว่า บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนในปีนี้ 1.5 พันล้านบาท แต่ไม่มั่นใจว่าจะใช้งบลงทุนได้หมดหรือไม่ โดยปีนี้จะลงทุนด้านเครื่องจักรและแม่พิมพ์ในไทย ใช้เงินประมาณ 500 ล้านบาท ที่เหลือเป็นการลงทุนในต่างประเทศ โดยจะใช้สร้างโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่ฮานอย นับเป็นโรงงานแห่งที่ 3 ในประเทศเวียดนาม ส่วนโรงงานเมลามีนที่อินเดียจะมีการใช้เงินเพิ่มเติมบ้าง

สำหรับโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่อินโดนีเซียนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรรายใหม่ โดยก่อนหน้านี้ได้ล้มดีลการเจรจาไปแล้ว 2 ราย เนื่องจากบริษัทฯ ต้องการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 51% ในโครงการดังกล่าว ส่วนการซื้อกิจการโรงงานผลิตพลาสติกและบรรจุภัณฑ์ในไทยนั้นก็ยังไม่มีความคืบหน้า หากภายในปีนี้ไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนก็อาจจะตั้งโรงงานใหม่แทน

นายสนั่นกล่าวต่อไปว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์เมลามีนในจีนเติบโตสูงมาก ทำให้บริษัทฯ ตัดสินใจส่งออกผลิตภัณฑ์เมลามีนแบรนด์ซุปเปอร์แวร์จากไทยไปยังจีนเพื่อทำตลาดเป็นครั้งแรกเมื่อปลายปีที่แล้ว และมีแผนจะส่งออกเพิ่มเติม ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทฯ เคยมีโรงงานผลิตเมลามีนในจีนแต่ได้ขายหุ้นดังกล่าวไปหมดแล้ว โดยสินค้าที่ผลิตขายในจีนใช้แบรนด์ แวนด้า

การทำตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์เมลามีนไปที่จีนครั้งนี้ บริษัทฯ ไม่กังวลการถูกลอกเลียนแบบสินค้า เนื่องจากคนจีนกำลังซื้อเพิ่มขึ้นและใช้สินค้าที่มีคุณภาพดีมากขึ้น โดย เม.ย.นี้บริษัทฯ จะไปร่วมงานแสดงสินค้าที่ประเทศจีนเพื่อหวังเจาะตลาดในจีน และตั้งบริษัทเทรดดิ้งขึ้นเพื่อนำสินค้าบริษัทฯ ไปจำหน่าย ขณะเดียวกันก็นำสินค้าจากจีนเข้ามาจำหน่ายที่ร้านศรีไทย ซุปเปอร์ เอาต์เลตด้วย

สำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยปีนี้น่าจะโตได้ 4% โดยครึ่งปีแรกจะโตไม่มากนัก เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลงทำให้ราคาสินค้าลดต่ำลงด้วย ขณะที่กำลังซื้อของภาคการเกษตรน้อยลงเพราะราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ภาครัฐยังไม่เร่งเบิกจ่ายงบประมาณมากนัก ทำให้ภาคเอกชนไม่กล้าลงทุน และการส่งออกโตน้อยมาก แต่ตลาด CLMV (เขมร ลาว พม่า และเวียดนาม) ยังดีอยู่มากโดยเฉพาะการค้าชายแดน ดังนั้นจำเป็นที่ภาครัฐจะต้องเร่งลงทุนโครงการขนาดใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
กำลังโหลดความคิดเห็น