ASTVผู้จัดการรายวัน-ศรีไทยฯ เผยยอดขายปีนี้ 1.02 -1.03 หมื่นล้านบาท พลาดเป้าเล็กน้อย มั่นใจปีหน้าโกยยอดขายโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% เหตุเศรษฐกิจในประเทศดีขึ้นและรับรู้รายได้จากโรงงานในอินเดีย แย้มต้นปี 58ได้ข้อสรุปดีลซื้อกิจการธุรกิจสายการผลิตบรรจุภัณฑ์และพลาสติกในไทย ดันเป้าหมายปี63 มีรายได้ทะลุ 2 หมื่นล้านบาท
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) (SITHAI) เปิดเผยว่า ในปีนี้ยอดขายบริษัทจะอยู่ที่ 1.02-1.03 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ระดับ 1.04 หมื่นล้านบาท เนื่องจากเศรษฐกิจช่วงต้นปีนี้ไม่ดีทำให้ตลาดเครื่องใช้ครัวเรือนชะลอตัวไปมาก แต่มั่นใจว่าปีหน้าเศรษฐกิจในประเทศจะฟื้นตัวดีขึ้นจากนโยบายรัฐที่เร่งรัดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยปีหน้าบริษัทตั้งเป้าหมายว่าจะมียอดขายโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 10%จากปีนี้ เนื่องจากตลาดบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มในประเทศยังเติบโตดีอยู่ รวมทั้งบริษัทรับรู้รายได้จากโรงงานใหม่เข้ามา อาทิ โรงงานผลิตเมลามีนในอินเดียที่คาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในต้นปี 2558
ทั้งนี้ จากความต้องการบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งผลิตภัณฑ์เมลามีนที่ยังขยายตัวต่อเนื่องในภูมิภาคนี้ ทำให้บริษัทฯมีแผนตั้งโรงงานเพิ่มในต่างประเทศ โดยปี 2558 บริษัทวางงบลงทุนไว้ที่ 1 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในต่างประเทศถึง 600 ล้านบาท ที่เหลือเป็นการลงทุนในประเทศซึ่งเป็นการลงทุนด้านแม่พิมพ์และเครื่องจักร ส่วนการลงทุนในต่างประเทศ ขณะนี้บริษัทได้ดำเนินการเช่าที่ดินตั้งโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์เมลามีนและบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ที่ฮานอย ประเทศเวียดนาม ใช้เงินลงทุน 250-300 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในต้นปีหน้า และแล้วเสร็จในไตรมาส 4/2558 นับเป็นโรงงานแห่งที่ 3 ในเวียดนาม จากปัจจุบันที่มีโรงงานผลิตเมลามีนและโรงงานผลิตพลาสติกในโฮจิมินห์อยู่แล้ว
นอกจากนี้ ยังมีแผนจะลงทุนตั้งโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่จาร์กาต้า ที่ประเทศอินโดนีเซีย จากปัจจุบันมีโรงงานผลิตเมลามีนอยู่แล้วที่อินโดนีเซีย รวมทั้งจะเปิดศรีไทยซุปเปอร์แวร์ เอาท์เล็ต แห่งแรกที่ชลบุรีในเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยเน้นจำหน่ายสินค้าในเครือศรีไทยฯเป็นส่วนใหญ่ในราคาถูกกว่าร้านค้าทั่วไป และพร้อมจะขยายเปิดไป 4 มุมเมืองเมื่อประสบความสำเร็จด้วยดี
จากนโยบายการขยายการลงทุนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องในเวียดนามที่มีศักยภาพดี โดยมีความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์และเมลามีนโตเฉลี่ยปีละ 30-40% และอนาคตอาจจะเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออก ทำให้แนวโน้มการลงทุนในเวียดนามอาจมีมูลค่าสูงกว่าในประเทศไทยใน 10ปีข้างหน้า ทำให้มีความจำเป็นต้องใช้เงินทุนมากขึ้น ดังนั้น บริษัทมีแผนนำบริษัทศรีไทยซุปเปอร์แวร์ (เวียดนาม) จำกัดเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นไทยในกลางปี 2559 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกที่ปรึกษาทางการเงินอยู่ โดยบริษัทดังกล่าว SITHAI ถือหุ้น 100%
นายสนั่น กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันบริษัทไม่มีแผนลงทุนตั้งโรงงานใหม่ในประเทศไทยเพิ่มเติม แต่ได้มีการเจรจาซื้อกิจการ (M&A) ธุรกิจผลิตพลาสติกและบรรจุภัณฑ์ในไทยอยู่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในต้นปี 2558 โดยเงินลงทุนในการซื้อกิจการนี้จะไม่รวมอยู่ในงบการลงทุนปี 2558 แต่อย่างใด การซื้อกิจการดังกล่าวจะทำให้บริษัทบรรลุเป้าหมายยอดขายที่ 2 หมื่นล้านบาทในปี 2563
โดยบริษัทจะแสวงหาโอกาสการซื้อกิจการทั้งในและต่างประเทศเพื่อผลักดันยอดขายเพิ่มขึ้นได้ทันที
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) (SITHAI) เปิดเผยว่า ในปีนี้ยอดขายบริษัทจะอยู่ที่ 1.02-1.03 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ระดับ 1.04 หมื่นล้านบาท เนื่องจากเศรษฐกิจช่วงต้นปีนี้ไม่ดีทำให้ตลาดเครื่องใช้ครัวเรือนชะลอตัวไปมาก แต่มั่นใจว่าปีหน้าเศรษฐกิจในประเทศจะฟื้นตัวดีขึ้นจากนโยบายรัฐที่เร่งรัดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยปีหน้าบริษัทตั้งเป้าหมายว่าจะมียอดขายโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 10%จากปีนี้ เนื่องจากตลาดบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มในประเทศยังเติบโตดีอยู่ รวมทั้งบริษัทรับรู้รายได้จากโรงงานใหม่เข้ามา อาทิ โรงงานผลิตเมลามีนในอินเดียที่คาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในต้นปี 2558
ทั้งนี้ จากความต้องการบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งผลิตภัณฑ์เมลามีนที่ยังขยายตัวต่อเนื่องในภูมิภาคนี้ ทำให้บริษัทฯมีแผนตั้งโรงงานเพิ่มในต่างประเทศ โดยปี 2558 บริษัทวางงบลงทุนไว้ที่ 1 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในต่างประเทศถึง 600 ล้านบาท ที่เหลือเป็นการลงทุนในประเทศซึ่งเป็นการลงทุนด้านแม่พิมพ์และเครื่องจักร ส่วนการลงทุนในต่างประเทศ ขณะนี้บริษัทได้ดำเนินการเช่าที่ดินตั้งโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์เมลามีนและบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ที่ฮานอย ประเทศเวียดนาม ใช้เงินลงทุน 250-300 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในต้นปีหน้า และแล้วเสร็จในไตรมาส 4/2558 นับเป็นโรงงานแห่งที่ 3 ในเวียดนาม จากปัจจุบันที่มีโรงงานผลิตเมลามีนและโรงงานผลิตพลาสติกในโฮจิมินห์อยู่แล้ว
นอกจากนี้ ยังมีแผนจะลงทุนตั้งโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่จาร์กาต้า ที่ประเทศอินโดนีเซีย จากปัจจุบันมีโรงงานผลิตเมลามีนอยู่แล้วที่อินโดนีเซีย รวมทั้งจะเปิดศรีไทยซุปเปอร์แวร์ เอาท์เล็ต แห่งแรกที่ชลบุรีในเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยเน้นจำหน่ายสินค้าในเครือศรีไทยฯเป็นส่วนใหญ่ในราคาถูกกว่าร้านค้าทั่วไป และพร้อมจะขยายเปิดไป 4 มุมเมืองเมื่อประสบความสำเร็จด้วยดี
จากนโยบายการขยายการลงทุนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องในเวียดนามที่มีศักยภาพดี โดยมีความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์และเมลามีนโตเฉลี่ยปีละ 30-40% และอนาคตอาจจะเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออก ทำให้แนวโน้มการลงทุนในเวียดนามอาจมีมูลค่าสูงกว่าในประเทศไทยใน 10ปีข้างหน้า ทำให้มีความจำเป็นต้องใช้เงินทุนมากขึ้น ดังนั้น บริษัทมีแผนนำบริษัทศรีไทยซุปเปอร์แวร์ (เวียดนาม) จำกัดเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นไทยในกลางปี 2559 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกที่ปรึกษาทางการเงินอยู่ โดยบริษัทดังกล่าว SITHAI ถือหุ้น 100%
นายสนั่น กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันบริษัทไม่มีแผนลงทุนตั้งโรงงานใหม่ในประเทศไทยเพิ่มเติม แต่ได้มีการเจรจาซื้อกิจการ (M&A) ธุรกิจผลิตพลาสติกและบรรจุภัณฑ์ในไทยอยู่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในต้นปี 2558 โดยเงินลงทุนในการซื้อกิจการนี้จะไม่รวมอยู่ในงบการลงทุนปี 2558 แต่อย่างใด การซื้อกิจการดังกล่าวจะทำให้บริษัทบรรลุเป้าหมายยอดขายที่ 2 หมื่นล้านบาทในปี 2563
โดยบริษัทจะแสวงหาโอกาสการซื้อกิจการทั้งในและต่างประเทศเพื่อผลักดันยอดขายเพิ่มขึ้นได้ทันที