xs
xsm
sm
md
lg

“ฮิตาชิ” อัดงบตลาดเพิ่ม 15% ดัน 3 สินค้าหลักอินเวอร์เตอร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ฮิตาชิอัดงบการตลาด 15% ของรายได้ ดัน 3 สินค้าหัวหอกด้วยนวัตกรรมอินเวอร์เตอร์พลัส หวังเพิ่มแชร์อีก 1-2% สู่ยอดขายในสิ้นปีแตะ 7,000 ล้านบาท เติบโต 15%

นายมาซาฮิโร่ ซาคาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮิตาชิเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมาฮิตาชิประสบความสำเร็จอย่างมาก ด้วยการขึ้นครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในส่วนแบ่งการตลาดของตู้เย็น ทั้งในหน่วยมูลค่าและจำนวนเครื่อง และเป็นผู้นำในด้านส่วนแบ่งการตลาดของเครื่องซักผ้า ด้วยสัดส่วนที่มากกว่าแบรนด์ญี่ปุ่นอื่นๆ ถึงเท่าตัว รวมทั้งยังมีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา จนทำให้ในปีก่อนปิดรายได้ไปสูงถึง 6,000 ล้านบาท

ส่งผลให้ในปีนี้บริษัทพร้อมใช้งบการตลาด 10-15% ของรายได้ และใช้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนอีก 15% ในการดำเนินการตามแผนการดำเนินธุรกิจใน 3 คอนเซ็ปต์หลัก คือ 1. GORGEOUS DESIGN กับการออกแบบที่เหนือชั้น 2. INVERTER PLUS เทคโนโลยีการประหยัดพลังงานสูงสุดที่นำมาพัฒนาจนครบในสินค้าทุกประเภท และ 3. JAPAN TECHNOLOGY นวัตกรรมที่ได้รับการยอมรับจากญี่ปุ่นพัฒนาเพื่อคนไทย มั่นใจว่าจะส่งผลให้สิ้นปีรายได้เติบโตขึ้นอีก 15% หรือปิดรายได้ที่ 7,000 ล้านบาท มาจากเครื่องซักผ้า 30% ตู้เย็น 45% แอร์ 15% และอื่นๆ 20%

ด้านนายบุญชัย พุทธาโกฐิรัตน์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายและการตลาด กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน หรือกลุ่มเอชเอ ปีนี้น่าจะโตขึ้นอีก 7-8% จากปีก่อนมีมูลค่ารวมที่ 62,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 1. ตลาดตู้เย็น 1.2 หมื่นล้านบาท ฮิตาชิเป็นอันดับหนึ่ง มีแชร์ 22% 2. ตลาดเครื่องซักผ้า 1.2 หมื่นล้านบาท ฮิตาชิเป็นอันดับ 2 มีแชร์ 13% รองจากแอลจีที่เป็นผู้นำ แต่เฉพาะแบรนด์ญี่ปุ่นด้วยกัน ฮิตาชิถือเป็นอันดับ 1 มีแชร์กว่า 50% และ 3. ตลาดแอร์ 2.5 หมื่นล้านบาท อิตาชิมีแชร์ 5% เนื่องจากเพิ่งเข้ามาทำตลาดได้เพียง 5 ปีเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม แผนการทำตลาดในปีนี้จะเน้นชูสินค้านวัตกรรม INVERTER PLUS ในทั้ง 3 กลุ่มสินค้า คือ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และแอร์ เชื่อว่าจะทำให้ทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์มีแชร์เพิ่มขึ้นอีก 1-2% ขณะที่ทั้งปีนี้จะมีสินค้าออกใหม่ทั้งหมด 50 SKU มาพร้อมดีไซน์ที่ทันสมัยเหมาะกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค จับกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน จึงส่งผลให้ฮิตาชิไม่มีนโยบายทำการตลาดทางด้านการแข่งขันราคา


กำลังโหลดความคิดเห็น