xs
xsm
sm
md
lg

“ฮิตาชิ” ฝ่าเศรษฐกิจปีนี้โกย 6 พันล้าน โหมหนักเครื่องซักผ้าไซส์ใหญ่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายบุญชัย พุทธาโกฐิรัตน์ รองผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขาย ฝ่ายการตลาด และฝ่ายบริการ บริษัท ฮิตาชิเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
ผู้จัดการรายวัน 360 - “ฮิตาชิ” ปลุกกระแสเครื่องซักผ้า ส่งไซส์จัมโบ้ 24 กก.ตีตลาดครัวเรือน ยึดบัลลังก์ไซส์ใหญ่ในปี 59 ด้วยแชร์ 35% ชี้พฤติกรรมผู้บริโภคเร่งรีบ ไม่มีเวลา เทรนด์ไซส์ใหญ่มาแรงพร้อมราคาที่คุ้มค่า เจาะตลาดกลางถึงบนยังสวยงาม ส่งรายได้รวมปีนี้โต 5% แตะ 6,000 ล้านบาท ส่วนปี 59 เชื่อตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าโต 5-10% ลุยเต็มสูบหวังโต 10% สูงสุดในรอบ 3 ปี

นายบุญชัย พุทธาโกฐิรัตน์ รองผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขาย ฝ่ายการตลาด และฝ่ายบริการ บริษัท ฮิตาชิเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า พฤติกรรมผู้บริโภคในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเปลี่ยนแปลงไปมาก โดยมองหาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้นโดยเฉพาะเครื่องซักผ้า จากเวลาที่เร่งรีบและจำนวนสมาชิกในครัวเรือนที่อยู่ในระดับ 3 คนขึ้นไปจะหันมาซักผ้าอาทิตย์ละครั้ง ทำให้เกิดความต้องการเครื่องซักผ้าไซส์ใหญ่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 9-12 กก.ในปีก่อน ปีนี้มาเป็น 15-16 กก. และในปีหน้าเป็น 20 กก.ขึ้นไปในระดับราคาที่จับต้องได้ พร้อมฟังก์ชันที่อำนวยความสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

“ผู้บริโภคเร่งรีบขึ้นจึงมองว่าเครื่องซักผ้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้นที่ช่วยให้การซักผ้าประหยัดพลังงานและเวลาในราคาที่จับต้องได้ โดยเฉพาะไซส์ใหญ่ที่จับตลาดกลางถึงบนยังเป็นกลุ่มที่ยังมียอดขายที่ดีอยู่ ส่วนเครื่องซักผ้าไซส์เล็กเริ่มหายไป โดยขนาด 5-6 กก.เริ่มไม่มีขายแล้ว และจะเห็นตั้งแต่ 9 กก.ขึ้นมาแทน”

ฮิตาชิจึงมีนโยบายในการทำตลาดเครื่องซักผ้าขนาดไซส์ใหญ่มากขึ้น จากเดิมต้นปีที่ผ่านมาเปิดตัวขนาด 15-16 กก.ขึ้นมา ส่งผลให้ปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 35% ในกลุ่มเครื่องซักผ้าขนาด 15 กก.ขึ้นไป และเป็นผู้นำในตลาดนี้ จากปีก่อนมีส่วนแบ่งเพียง 10% ล่าสุดปลายปีนี้พร้อมนำเสนอขนาดไซส์ใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่องอีก 3 ขนาด คือ 18, 20 และ 24 กก. โดยไซส์ขนาด 24 กก. ถือเป็นไซส์ใหญ่ในตลาดไทยในปัจจุบัน เชื่อว่าปีหน้าจะยังคงทำให้ฮิตาชิมีส่วนแบ่งตลาดเครื่องซักผ้าในขนาด 15 กก.ขึ้นไปอยู่ที่ 35% โดยมีขนาด 24 กก. เป็นตัวขับเคลื่อนและช่วยเพิ่มส่วนแบ่งของตลาดเครื่องซักผ้าไซส์ใหญ่ขนาด 15 กก.ขึ้นไป จาก 10% เป็น 15-20% ของตลาดรวมเครื่องซักผ้า 10,000 ล้านบาทได้โต 5-10% จากปัจจุบันแบรนด์ซัมซุง และแอจีอยู่ในอันดับ 1, 2 ของตลาดรวม และฮิตาชิอยู่ในอันดับ 3 ด้วยส่วนแบ่งประมาณ 11-12% และปีหน้าจะเพิ่มเป็น 13-14%

ส่วนภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าสิ้นปีนี้มองว่าจะติดลบ 5-10% และในปีหน้ามีโอกาสกลับมาโตได้ 5-10% จาก 2 ปัจจัยหลัก คือ 1. กลไกของตลาดหลังลดลงมา 2 ปี ปีหน้าจะเกิดการเติบโตจากการรีเพรสสินค้ามากขึ้น 2. การกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐที่จะมีเมกะโปรเจกต์หลายโครงการ ทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนเข้ามาในระบบ 3. พฤติกรรมการซื้อสินค้าในขนาดไซส์ใหญ่เพิ่มขึ้น ในแง่จำนวนอาจจะน้อยลงแต่มูลค่าจะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ในปีหน้ามองว่าการแข่งขันของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าจะยังคงความรุนแรงทั้งในเรื่องนวัตกรรม การใช้งาน ราคา และช่องทางการจัดจำหน่าย รวมถึงการหาพาร์ตเนอร์

นายบุญชัยกล่าวต่อว่า ในส่วนของฮิตาชิในปี 2559 จะให้ความสำคัญเกี่ยวกับกลยุทธ์สินค้าไซส์ใหญ่อย่างต่อเนื่องในทุกหมวดสินค้า โดยจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ไม่ต่ำกว่า 40-50 รายการเช่นเดียวกับในปีนี้ ขณะที่งบการตลาดอาจจะใช้มากขึ้น จากปกติอยู่ที่ 5-8% ของรายได้รวม โดยในปีหน้าเชื่อว่าสินค้าหลักที่จะผลักดันรายได้จะมาจาก 3 สินค้าหลัก คือ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องปรับอากาศ ทั้งนี้เพื่อต้องการให้ยอดขายในปี 2559 (เม.ย. 59 - มี.ค. 60) มีอัตราการเติบโตที่ 10% สูงสุดในรอบ 3 ปีนี้ ขณะที่ปี 58 (เม.ย. 58 - มี.ค. 59) มองว่าบริษัทจะมีรายได้เติบโต 5% คิดเป็นมูลค่าที่ 6,000 ล้านบาท มาจาก 1. ตู้เย็น 50% โต 5% 2. เครื่องซักผ้า 20% โต 5% 3. เครื่องปรับอากาศ 20% โต 10% และ 4. เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กในครัวเรือน 10%



กำลังโหลดความคิดเห็น