โรงแรม-ธุรกิจท่องเที่ยวไม่หวั่นข่าวแง่ลบกระทบธุรกิจ

กลุ่มสายงานการท่องเที่ยวและโรงแรมเชื่อมั่นข่าวแง่ลบไม่มีผลต่อการท่องเที่ยวไทย แนะบุคลากรรุ่นใหม่ต้องเก่งรอบด้าน

ตลอดทั้งปี 2557 ที่ผ่านมา หากให้ลำดับเหตุการณ์พร้อมสรุปข้อมูล “ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรม” จะเห็นได้ชัดว่ามีความผันผวนขึ้นลงราวกับอยู่ใน “คลื่นลูกใหญ่ของมรสุมเศรษฐกิจ” ทั้งจากความไม่เสถียรของการเมืองก็ดี หรือข่าวในด้านลบของการท่องเที่ยวที่ส่งผลให้ธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมของไทยมีการชะลอตัวไม่มากก็น้อย ทำให้เกิดการหดตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวจากยุโรปซึ่งยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อภาพรวมการท่องเที่ยวของไทยในปี 2558 รวมถึงภาวะเศรษฐกิจโลกและความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องเฝ้าติดตาม

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของภาคธุรกิจโรงแรมและธุรกิจบริษัทนำเที่ยวยังได้รับผลกระทบอย่างมากจากการลดลงของนักท่องเที่ยวบางประเทศ แต่ในทางตรงข้าม กลับมีอัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยวจีนและความคึกคักในตลาดแรงงานทั้งในไทย-อาเซียนที่ต้องการแรงงานในด้านนี้เพิ่มมากขึ้น

*** คาดปี 58 นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 14.77% ***
จากผลสรุปการศึกษา หรือสำรวจของ “แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย” จาก นางสาวสุธิดา กาญจนกันติกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด “แมนพาวเวอร์กรุ๊ป” ให้ความเห็นอย่างน่าสนใจว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวไทยโดยรวมในปี 2557 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 24.71 ล้านคน ลดลงจากปี 2556 ร้อยละ 6.93 และคาดการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติในไตรมาสที่ 1/58 จะมีประมาณ 7.55 ล้านคน โดยคาดว่าในปี 2558 หากไม่มีเหตุการณ์ที่กระทบต่อการท่องเที่ยว เชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางทั้งสิ้น 28.36 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ร้อยละ 14.77 มีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 1.29 ล้านล้านบาท และรายได้ในประเทศจำนวน 8 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ กลุ่มสายงานด้านการท่องเที่ยวและโรงแรมยังคงเป็นสายงานที่มีความต้องการสูงถึงร้อยละ 15 จากยอดรวมของสายงานทั้งหมด และยังมีแนวโน้มความต้องการของตลาดแรงงานที่เพิ่มขึ้นตามสภาวะการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะเมื่อมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC อัตราความต้องการก็มีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นไปอีก

*** เชื่อมั่น “การบริการคนไทย” ***
จากการให้สัมภาษณ์ของ นายอนุนารถ พัฒนประสิทธิ์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมสวูเทล สุขุมวิท กรุงเทพฯ (ในเครือมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ) ให้ความเห็นว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมามีปัญหาในเรื่องของวิกฤตเศรษฐกิจและวิกฤตการณ์ทางการเงิน ทำให้เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัวในหลายๆ ภาคส่วนซึ่งมีผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว อัตราการเข้าพักลดลงอย่างเห็นได้ชัดจากตัวเลขที่รายงานจากศูนย์การธุรกิจการท่องเที่ยว โรงแรมในพื้นที่กรุงเทพฯ ถูกยกเลิกไปอย่างต่ำ 50 กว่าโรงแรม แต่ไม่ได้อยู่ในระดับที่รับมือไม่ได้ เพราะเชื่อว่าการบริการของคนไทยดีที่สุด กอปรกับนิสัยคนไทยในงานด้านการบริการ ตราบใดที่ประเทศไทยมีทรัพยากรและสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามที่ต้องบำรุงรักษาให้คงไว้ ประเทศไทยยังคงก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างสวยงาม

“ถึงแม้ในช่วงที่ผ่านมาจะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็ตาม แต่เมื่อคิดเป็นร้อยละ เหตุการณ์ไม่ดีมีอัตราส่วนอยู่เพียงร้อยละ 10 ของอัตราส่วนการท่องเที่ยวของประเทศไทย ในส่วนของจังหวัดอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องผู้คนยังคงดำเนินชีวิตปกติ ในจุดนี้เชื่อว่าการสื่อสารและข้อมูลบางอย่างที่เผยแพร่ไปอย่างรวดเร็วนั้นส่งผลกระทบมาก สิ่งที่ต้องแก้ไขคือการทำความเข้าใจและศึกษาข้อมูลอย่างแท้จริง”

อีกทั้งในปีนี้มีการเปิด AEC ซึ่งมีการเตรียมความพร้อมและดำเนินการมาแล้วกว่า 10 ปี หลังจากนี้เป็นต้นไปความคึกคักในงานด้านธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมจะเพิ่มขึ้น คาดว่าการโยกย้ายของผู้บริหารมีอัตราที่สูงกว่าระดับล่างลงมา มีสิทธิ์ว่าชาวต่างชาติจะย้ายเข้ามาทำงานในประเทศไทยมากขึ้น เนื่องจากความได้เปรียบด้านภาษา สิ่งนี้เป็นสิ่งที่น่ากังวลและหวังว่าจะมีการช่วยกันผลักดันให้บุคลากรไทยมีการพัฒนาภาษาในการสื่อสารกับชาวต่างชาติให้มากขึ้น

*** “ภาษา-ความรู้รอบตัว” : สิ่งจำเป็นสำหรับบุคลากรรุ่นใหม่ ***
สำหรับมุมมองงานด้านธุรกิจและโรงแรมจาก นางสาวพิมลพรรณ คุณประโยชน์ ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล โรงแรม วี โฮเต็ล กรุงเทพฯ ให้ความเห็นว่า ความกังวลในการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) นั้น อันดับ 1 คือเรื่องภาษา อยากให้เด็กรุ่นใหม่มีการเตรียมตัวให้พร้อม ในปัจจุบันภาษาที่ 2 ไม่เพียงพอ ต้องมีทักษะภาษา 3 ภาษา แรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในไทยเพิ่มมากขึ้น บางประเทศมีทักษะภาษาที่แข็งแรงมากกว่าคนไทย ในขณะที่อัตราค่าแรงต่ำกว่า

อันดับที่ 2 คือ ความรู้รอบด้าน หรือ Multi Skill เพราะไม่มีองค์กรไหนที่จ้างคนหนึ่งคนและให้ทำงานอย่างเดียว ข้อดีคือเป็นการพัฒนาฝีมือในหลายๆ ด้านเพื่อความเติบโตในไลน์อาชีพนั้นๆ เพราะในปัจจุบันนี้โลกมีการหมุนไปอย่างรวดเร็ว การอัปเดตข่าวสารข้อมูลก็เป็นสิ่งที่สำคัญต่อสายงานด้านธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เช่น เกิดเหตุการณ์ชุมนุมใกล้บริเวณลุมพินีต้องมีการอธิบายให้นักท่องเที่ยวเข้าใจ และไม่เข้าใกล้พื้นที่นั้น ซึ่งควรทำเป็นทั้งเอกสาร จดหมาย หรืออีเมล แจ้งให้ทราบว่าจุดที่โรงแรมตั้งอยู่ปลอดภัย ต้องใช้วิธีให้ข้อมูลนักท่องเที่ยวให้เกิดความสบายใจ แรงงานสายธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมจึงต้องมีความรวดเร็วในการกระจายข้อมูลให้แก่นักท่องเที่ยวซึ่งเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน