xs
xsm
sm
md
lg

บอร์ด ทอท.เมินตั้งกองทุนฯ ใช้เงินสด 4.8 หมื่นล้านสร้างรันเวย์และอาคารใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บอร์ด ทอท.เคาะลงทุนรันเวย์สำรองและอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 วงเงินกว่า 4.7 หมื่นล้าน “ประสงค์” เผยเงินสดหมุนเวียนมีเพียงพอใช้ลงทุนได้ถึงปี 62 เล็งตั้งกองทุนอินฟราฯ ลงทุนเฟส 2 ในแผนเดิมซึ่งอยู่ระหว่างปรับลดวงเงิน พร้อมเห็นชอบ “นิตินัย” นั่งเอ็มดีคนใหม่ ชี้แนวทางบริหารพัฒนาสนามบินสอดคล้องนโยบาย หวังเพิ่มรายได้ Non Aero และฟรีโซนดันไทยขึ้นฮับได้จริง



นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากรในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยภายหลังการประชุมวานนี้ (21 ม.ค.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบโครงการลงทุนพัฒนาขยายขีดความสามารถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 2 โครงการนำร่อง คือ โครงการก่อสร้างทางวิ่ง (รันเวย์) สำรองความยาว 2,900 เมตร (บนพื้นที่เดียวกันกับทางวิ่งเส้นที่ 3) วงเงิน 20,243.106 ล้านบาท (รวมสำรองราคา เปลี่ยนแปลงร้อยละ 10 และภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7) ซึ่งการก่อสร้างรันเวย์สำรองเสร็จในปี 2560 จะช่วยป้องกันความเสี่ยงกรณีทางวิ่งที่ 1 และ 2 มีการซ่อมแซม ส่วนวงเงินลงทุนปรับเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีการปรับเพิ่มค่าชดเชยเสียงจากเดิม 7,000 ล้านบาทเป็น 9,400 ล้านบาท เผื่อสำรองไว้สำหรับกรณีการชดเชยเสียงมีปัญหาซึ่งไม่ต้องตั้งงบประมาณชดเชยเพิ่มภายหลัง

โดยขณะนี้ ทอท.อยู่ระหว่างรอการพิจารณาผลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ (EHIA) จากคณะกรรมการผู้ชำนาญการของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้วจะดำเนินการก่อสร้างทางวิ่งให้ใช้งานได้เพิ่มที่ความยาว 3,700 เมตร และให้เป็นทางวิ่งเส้นที่ 3 ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2562

และเห็นชอบโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ด้านทิศเหนือของท่าอากาศยาน (Multi-Function Terminal) วงเงิน 27,684.392 ล้านบาท (รวมสำรองราคาเปลี่ยนแปลงร้อยละ 10 ภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7) ซึ่งประกอบด้วย 6 งาน คือ 1. งานออกแบบและก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ดำเนินงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารพื้นที่ประมาณ 265,000 ตารางเมตร เป็นอาคารสูง 4 ชั้น ให้บริการผู้โดยสารภายในประเทศได้ 12 ล้านคนต่อปี ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 8 ล้านคนต่อปี และพื้นที่สำนักงานสายการบิน พร้อมงานปรับปรุงลานจอดอากาศยาน ปรับปรุงหลุมจอดอากาศยาน และอาคารเทียบเครื่องบิน A หรือ/และ B ให้สามารถรองรับอากาศยาน A380 ได้ 2. งานออกแบบและก่อสร้างอาคารจอดรถยนต์ (ด้านทิศตะวันตกของอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 พื้นที่ 84,000 ตารางเมตร รองรับได้ประมาณ 2,500-3,000 คัน 3. งานออกแบบและก่อสร้างระบบถนนภายในท่าอากาศยาน 4. งานออกแบบและก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคเพิ่มเติม 5. งานออกแบบและก่อสร้างระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ เชื่อมต่อการเดินทางของผู้โดยสารระหว่างอาคารเทียบเครื่องบิน A อาคารผู้โดยสารหลักปัจจุบัน 6. งานจ้างที่ปรึกษาศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม จัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม

นายประสงค์กล่าวว่า ทอท.จะใช้เงินสดหมุนเวียนที่มีในการลงทุนก่อสร้างรันเวย์สำรองและอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 โดยขณะนี้ ทอท.มีเงินสดในมือประมาณ 44,000 ล้านบาท รวมกับกำไรสุทธิประมาณปีละกว่า 10,000 ล้านบาท และยังมีค่าเสื่อมราคาที่จะกลับเข้ามาเป็นรายได้อีกหลายพันล้านบาท ซึ่ง 2 โครงการลงทุนประมาณ 48,000 ล้านบาท จะไม่ส่งผลกระทบต่อสถานะการเงิน โดยคาดว่าจะต้องเริ่มหาเงินลงทุนจากภายนอกช่วงปี 2562-2563 ซึ่งอาจจะเป็นการตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานขึ้นมา โดยจะสอดคล้องกับที่จะต้องลงทุนในการพัฒนาสุวรรณภูมิเฟส 2 เดิมที่อยู่ระหว่างการทบทวนปรับลดเนื้องานที่เกินความจำเป็นเพื่อความคุ้มค่าทางธุรกิจ เช่น งานออกแบบและก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Midfield Satellite) เป็นต้น ซึ่งคาดว่าค่าลงทุนจะลดลงจากเดิมที่ 62,503 ล้านบาทด้วย โดยจะสรุปเสนอบอร์ดในการประชุมเดือนหน้าต่อไป

“ทอท.จะเสนอแผนก่อสร้างรันเวย์สำรองและอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ไปยังกระทรวงคมนาคมได้ภายในสัปดาห์หน้า เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขออนุมัติตามขั้นตอน โดยตั้งงบประมาณลงทุนที่จัดทำเป็นโครงการประจำปี 2559-2563” นายประสงค์กล่าว

สำหรับรันเวย์สำรองและอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 เป็นแผนที่เพิ่มเติมจากเฟส 2 เดิม โดยอาคารหลังที่ 2 มีผลตอบแทนทางการลงทุน (IRR) เกือบ 19% และมีข้อดีในการเช็กอินและโหลดกระเป๋าที่สะดวกมากกว่าอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 โดยเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารเป็น 60 ล้านคนต่อปี ซึ่งคาดว่าในปี 2561 จะมีผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 61.487 ล้านคน และเพิ่มขึ้นเป็น 64.477 ล้านคนในปี 2562 และหากก่อสร้างสุวรรณภูมิเฟส 2 ได้แล้วเสร็จทั้งหมดซึ่งจะมีอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 จะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้ 80 ล้านคนต่อปี สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึงปี 2567

นายประสงค์กล่าวว่า บอร์ดได้เห็นชอบ นายนิตินัย ศิริสมรรถการ เป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.คนใหม่ตามที่คณะกรรมการสรรหา ที่มี นายราฆพ ศรีศุภอรรถ เป็นประธานเสนอ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ โดยได้นำเสนอแนวทางในการบริหาร ทอท.ที่ดี มีทิศทางบริหารสนามบินที่ชัดเจนและสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้เป็นศูนย์กลางการบิน เพิ่มรายได้จากธุรกิจที่ไม่เกี่ยวกับการบิน (Non Aero) และเพิ่มรายได้จากคลังสินค้าปลอดภาษี (ฟรีโซน) โดยหลังจากนี้จะเจรจาผลตอบแทนและเสนอไปยัง สคร. และกระทรวงคมนาคม คาดว่าจะลงนามสัญญาจ้างและเริ่มทำงานได้ในเดือนมีนาคม 2558
กำลังโหลดความคิดเห็น