ปตท.สผ.ยืนยันยังผลิตปิโตรเลียมตามปกติแม้ว่าราคาน้ำมันดิบร่วงต่ำ 45 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลั่นหากต่ำกว่านี้ก็ยังรักษาการผลิตก๊าซฯ ไม่ให้กระทบความต้องการใช้ภายในประเทศแน่ ชี้สัญญาณร้าย ปริมาณการผลิตก๊าซฯ จากแหล่งเยตากุนเริ่มลดลง
นางสาวเพ็ญจันทร์ จริเกษม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานการเงินและการบัญชี บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทฯ ยังคงผลิตปิโตรเลียมทุกแหล่งตามปกติแม้ว่าราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่องต่ำ 45 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หากราคาน้ำมันดิบลงต่ำกว่านี้ก็คงต้องรอดูสถานการณ์ไประยะหนึ่งว่าแนวโน้มราคาน้ำมันจะมีทิศทางอย่างไร ก่อนตัดสินใจว่าโครงการปิโตรเลียมต่างๆ อย่างไร แต่ยืนยันว่าจะยังคงรักษาปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติไม่กระทบต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีต้นทุนการผลิตปิโตรเลียมต่อหน่วยถัวเฉลี่ยอยู่ที่ 42 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แบ่งเป็นต้นทุนเงินสดที่ต้องใช้ดำเนินการ 21 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และอีก 21 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลเป็นค่าใช้จ่ายการลงทุนที่จ่ายไปล่วงหน้าแล้ว ดังนั้น หากราคาน้ำมันดิบต่ำระดับ 42 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ก็เท่ากับว่าบริษัทฯ จะไม่มีกำไร แต่ยังสามารถดำเนินการผลิตต่อไปได้ เพียงแต่หยุดการลงทุนโครงการใหม่ๆ ไป ซึ่งขณะนี้บริษัทได้มีการจัดเรียงโครงการที่มีความสำคัญก่อนหลัง และพบว่าโครงการใหม่ก็มีการดีเลย์ไปแล้ว อาทิ โครงการออยล์แซนด์ ที่แคนาดา โดยจะลงทุนตามที่ได้สัญญาไว้กับรัฐบาลตามเงื่อนไขการรับสัมปทานเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้แหล่งเยตากุน ที่พม่ามีสัญญาณว่าปริมาณการผลิตก๊าซฯ จะเริ่มลดลง จะเห็นชัดเจนในปีนี้ ก็คงต้องพิจารณาว่าจะบริหารจัดการอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อปริมาณก๊าซฯ ที่ป้อนเข้าไทย โดยยืนยันว่าปีนี้ปริมาณก๊าซฯ จากพม่าเข้าไทยจะไม่ลดลงเนื่องจากมีแหล่งซอติกาเข้าเสริมแทน
ราคาน้ำมันดิบดูไบ ปิดวันที่ 12 ม.ค. ลดลง 1.79 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล มาที่ 45.24 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและน้ำมันดิบเบรนต์ปรับลดแรงอีก 5% ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปี