ปตท.ชี้ปีนี้นำเข้าแอลเอ็นจีต่ำกว่าเป้า 5 ล้านตันเหลือเพียง 2.5 ล้านตัน/ปี หลังจากความต้องการใช้ไฟฟ้าไม่โต เผยรอดูแผน PDP 2015 ก่อนวางยุทธศาสตร์พัฒนาแอลเอ็นจี เทอร์มินอล เฟส 3-4 ใหม่ แย้มอีก 3 เดือนราคาแอลเอ็นจีที่นำเข้าจากกาตาร์จะต่ำมาก ไม่ถึง 10 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู หรือใกล้เคียงราคาก๊าซในอ่าวไทย หลังราคาน้ำมันดิบวูบต่ำกว่า 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้ปริมาณการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ของ ปตท.จะต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้เดิม 5 ล้านตัน/ปี เหลือเพียงแค่ 2.5 ล้านตัน เนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศแทบไม่เพิ่มขึ้นสืบเนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศโตขึ้นไม่มาก
ขณะนี้ ปตท.อยู่ระหว่างการรอแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ พ.ศ. 2558-2579 (PDP 2015) ใหม่ เพื่อใช้ในการวางกลยุทธ์การพัฒนาสถานีรับจ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว หรือแอลเอ็นจี เทอร์มินอล เฟส 3-4 ต่อไปในอนาคตว่าจะต้องเร่งดำเนินการหรือไม่ อย่างไร ซึ่งหากตามแผน PDP 2553-2573 เดิมต้องเร่งพัฒนาแอลเอ็นจี เทอร์มินอล เฟส 3 อีก 5 ล้านตัน/ปี จากปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างแอลเอ็นจี เทอร์มินอล เฟส 2 จำนวน 5 ล้านตัน/ปีที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2560 ทำให้มีปริมาณรองรับแอลเอ็นจีนำเข้าได้ถึง 10 ล้านตัน
ส่วนการจัดหาก๊าซแอลเอ็นจีเข้ามาเสริมความมั่นคงด้านพลังงานนั้น ขณะนี้ ปตท.ได้มีการลงนามข้อตกลงเบื้องต้น (HOA) ซื้อขายแอลเอ็นจีระยะยาวกับผู้ผลิตแอลเอ็นจีหลายราย คิดเป็นปริมาณ 5-6 ล้านตัน โดยรวมการเจรจาซื้อแอลเอ็นจีในแหล่งก๊าซฯ ที่โมซัมบิก 2.6 ล้านตันที่ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) ถือหุ้นอยู่ 8.5% ด้วย และแหล่งก๊าซฯ ที่สหรัฐฯ ด้วย โดยจะเน้นใช้สูตรราคาไฮบริดลิงก์ และเฮนรี่ ฮับ จากเดิมที่ทำสัญญาซื้อขายแอลเอ็นจีระยะยาว 20 ปีกับ Qatar Liquefied Gas Company Limited (กาตาร์แก๊ส) เป็นสูตรราคาอ้างอิงน้ำมันดิบเพื่อให้บาลานซ์ราคากัน
โดยปีนี้กาตาร์แก๊สจะเริ่มส่งมอบก๊าซแอลเอ็นจีให้กับ ปตท.ตามสัญญาซื้อขายระยะยาวเป็นปีแรกจำนวน 2 ล้านตัน หรือประมาณ 280 ล้าน ลบ.ฟ./วัน หลังจากลงนามร่วมกันเมื่อปี 2555 วันนี้ (8 ม.ค.) กาตาร์แก๊สได้ส่งมอบแอลเอ็นจีเป็นเที่ยวแรกในปริมาณ 90,613.430 ตัน
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ราคาแอลเอ็นจีที่นำเข้าจากกาตาร์แก๊สตามสัญญาระยะยาวล็อตแรกนี้มีราคาใกล้เคียงราคาก๊าซธรรมชาติจากพม่าอยู่ที่ 10 กว่าเหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู ซึ่งลดต่ำลงตามราคาน้ำมันดิบโลกที่ขณะนี้ต่ำกว่า 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เชื่อว่าภายใน 3-4 เดือนข้างหน้านี้ราคาแอลเอ็นจีที่นำเข้าจากกาตาร์แก๊สจะต่ำกว่า 10 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู ใกล้เคียงราคาก๊าซฯ ในอ่าวไทย
ซึ่งเป็นจังหวะที่ดี เนื่องจากปีนี้ปริมาณก๊าซจากแหล่งเยตากุนในพม่าจะลดการส่งก๊าซมาไทยลง 100 ล้าน ลบ.ฟ./วัน ทำให้สามารถนำแอลเอ็นจีไปเสริมในระบบการผลิตไฟฟ้าได้ในราคาที่ไม่สูงมากนัก
“ความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติมาเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าสูงถึง 67% ขณะที่ปริมาณก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยและพม่ามีแนวโน้มลดลง ดังนั้นแอลเอ็นจีจึงเป็นทางออกสำคัญเพื่อรองรับความต้องการใช้พลังงานของประเทศให้เพียงพอ โดย ปตท.ได้นำเข้าก๊าซแอลเอ็นจีมาตั้งแต่ปี 2554 ผ่านการซื้อขายในตลาดจร ซึ่งปริมาณที่นำเข้าได้เพิ่มขึ้นตลอดมา ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 2 ล้านตัน”
ทั้งนี้ ปตท. และบริษัทกาตาร์แก๊สได้ทำการซื้อขายก๊าซแอลเอ็นจีครั้งแรกในปี 2554ในลักษณะสัญญาแบบ Spot เพื่อใช้ทดสอบระบบ ณ สถานีรับ-จ่าย แอลเอ็นจีแห่งแรกของกลุ่ม ปตท. และแห่งแรกในอาเซียน ที่มาบตาพุด จ.ระยอง รวมถึงนำเข้าแอลเอ็นจีเพื่อทดแทนก๊าซธรรมชาติที่ขาดหายไปจากกรณีท่อส่งก๊าซฯ รั่วในทะเล
กาตาร์แก๊ส เป็นผู้ผลิตและขายแอลเอ็นจีใหญ่ที่สุดในโลก มีกำลังการผลิต 77 ล้านตันต่อปี คิดเป็นสัดส่วน 30% ของปริมาณแอลเอ็นจีที่ค้าขายในตลาดโลก มีปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติมากถึง 900 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการใช้ก๊าซฯ มากกว่า 100 ปี
