xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.สผ.ปรับแผนลงทุน รับมือน้ำมันวูบ-ลั่นชิงสัมปทานรอบ 21

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปตท.สผ.ลั่นพร้อมชิงแปลงสัมปทานปิโตรเลียมรอบ 21 เน้นแปลงที่ใกล้เแหล่งปิโตรเลียมในปัจจุบันที่พัฒนาอยู่หลังทำการศึกษามาระยะหนึ่ง ขณะเดียวกันก็ปรับแผนการลงทุนใหม่รับมือราคาน้ำมันดิบวูบ โดยประเมินปีหน้าราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย 85 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หวั่นฉุดกำไรทรุด หวังปริมาณการขายในปี 58 โตขึ้น 10% ช่วยพยุง

นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) เปิดเผยว่า บริษัทฯ สนใจยื่นประมูลสัมปทานปิโตรเลียมรอบ 21 ในแปลงที่ใกล้เคียงแหล่งปิโตรเลียมเดิมของ ปตท.สผ.ทั้งบนบกและในทะเล เพราะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมหากมีการประเมินผลเจาะสำรวจแล้วพบว่ามีศักยภาพที่จะพัฒนาได้ ซึ่งบริษัทได้ทำการศึกษาแหล่งสัมปทานที่จะเปิดสัมปทานรอบ 21 มาระยะหนึ่งแล้ว

ส่วนระบบสัมปทาน หลักเกณฑ์ไทยแลนด์ ทรี พลัสนั้น ก็มีความเหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ เพราะหากผลิตปิโตรเลียมได้มากก็ต้องเสียค่าภาคหลวงมาก แต่ถ้าผลิตปิโตรเลียมได้น้อยก็เสียค่าภาคหลวงน้อย โดยยอมรับว่าแหล่งปิโตรเลียมขนาดใหญ่มีการพัฒนาไปแล้ว ส่วนแปลงที่จะเปิดให้สัมปทานใหม่นั้นเป็นแปลงที่ภาคเอกชนเคยสำรวจแล้วไม่พบ หรือไม่คุ้มที่จะพัฒนาเชิงพาณิชย์ก็คืนให้กับรัฐ

ส่วนสัมปทานแหล่งปิโตรเลียมบงกชที่จะหมดอายุลงในอีก 7-8 ปีข้างหน้านั้น รัฐยังมีเวลาที่จะพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรในช่วง 1-2 ปีนี้ที่ต้องมีความชัดเจนออกมา มิฉะนั้นจะมีปัญหาในการลงทุนพัฒนาแหล่งบงกชเพิ่มเติม ซึ่งจะมีผลทำให้ปริมาณการผลิตก๊าซฯ ลดลงได้ ส่วนเงื่อนไขจะเป็นอย่างไรไม่ทราบ เชื่อว่ากระทรวงพลังงานคงหารือกับภาครัฐอยู่ โดยบริษัทพร้อมเสนอตัวเองเป็นผู้ดำเนินการในแหล่งดังกล่าวต่อไป

นายเทวินทร์กล่าวต่อไปว่า จากราคาน้ำมันดิบดูไบที่อ่อนตัวลงมาถึง 20% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา จากที่เคยอยู่ระดับ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลงมาอยู่ที่ 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล มีผลทำให้ราคาขายเฉลี่ยของบริษัทลดลงเหลือ 65.15 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในไตรมาส 3/2557 แม้ว่าจะมีการทำประกันความเสี่ยง (เฮดจิ้ง) กระทบต่อกำไรสุทธิลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ทั้งนี้ หากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบดูไบในปี 2558 ยังอยู่ที่ระดับต่ำเช่นนี้ จะทำให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิลดลงกว่าเดิม แต่ทั้งนี้ยังมีปัจจัยบวกจากปริมาณการขายปิโตรเลียมที่เพิ่มขึ้นจากโครงการซอติกา ประเทศพม่าที่จะมีการผลิตเต็มปี และโครงการเบอร์ซาบา ที่แอลจีเรีย จะผลิตน้ำมันดิบ 2 หมื่นบาร์เรล/วัน คาดว่าจะรับรู้ในปลายปีนี้ ทำให้บริษัทฯ มั่นใจปริมาณการขายปิโตรเลียมในปี 2558 เติบโตขึ้น 10%จากปีนี้ที่มีปริมาณการขายโตขึ้นเพียง 8% ต่ำกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ เป็นผลสืบเนื่องจากโครงการมอนทารา ผลิตได้ต่ำกว่าที่ตั้งเป้าไว้ และโครงการซอติกามีปัญหาการวางท่อก๊าซฯ บนบก ทำให้ต้องเลื่อนการผลิตออกไป 3-4 เดือน

“ปตท.สผ.ประเมินราคาน้ำมันดิบดูไบในปีหน้าอยู่ที่ 85 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ต่ำกว่าปีนี้ที่ประเมินไว้ที่ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ดังนั้น บริษัทจะพยายามรักษาต้นทุนให้ต่ำที่สุด สถานการณ์ราคาน้ำมันเช่นนี้ถือเป็นการท้าทายอุตสาหกรรมสำรวจและผลิตปิโตรเลียม เนื่องจากมาร์จิ้นจะถูกบีบให้แคบลง เพราะต้นทุนสูงขึ้นแต่ราคาขายต่ำลง และยังมีค่าเสื่อมเพิ่มขึ้นจากโครงการมอนทารา”

จากราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงนี้เอง ทำให้บริษัทฯ ทบทวนแผนการลงทุนในปีหน้าใหม่ โดยจะชะลอการลงทุนโครงการที่ยังไม่มีความจำเป็นออกไปก่อนเพื่อลดค่าใช้จ่าย แต่ถ้าโครงการใดมีความจำเป็นก็คงลงทุนไปตามแผนงาน อาทิ โครงการออยล์แซนด์ที่จะทำการเจาะหลุมประเมินแต่ไม่เร่งรีบ เพราะต้นทุนสูงและยังติดปัญหาการนำผลิตภัณฑ์ออกมาจำหน่ายด้วย ขณะเดียวกันก็มองหาโอกาสที่จะเข้าซื้อกิจการในแหล่งปิโตรเลียมต่างประเทศด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น