“ไบโอคอส” จัดเต็มรับเออีซี ทุ่ม 250-300 ล้านบาทผุด 3 ไลน์ธุรกิจใหม่ “สถาบันฝึกอบรม-รีเทลชอป-คลินิกความงาม” พร้อมขยายผลิตภัณฑ์ใหม่กลุ่มเมกอัพจับกลุ่มวัยรุ่น ขยายสาขาใหม่รวม 8 สาขา หวังดันรายได้สู่ 1.5 พันล้านบาทในปี 59 เพื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยการเติบโตปีนี้อีก 15% จากรายได้ 1 พันล้านบาทในปีก่อน
นายชโลธร สุมิตรเหมาะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไบโอคอส กรุ๊ป จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจด้านสุขภาพและความงาม ภายใต้แบรนด์ สลิมมิ่งพลัส, อะเมทิส, บิวตี้ สตอรี่ และไบโอคอส โปรเฟสชั่นแนล เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทมีแผนใช้งบลงทุนเบื้องต้นอีก 250-300 ล้านบาทสำหรับการขยายสาขา เพิ่มไลน์ธุรกิจใหม่ และเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อรองรับการเปิดตลาดเออีซีในช่วงปลายปีนี้ซึ่งมองว่าจะเป็นโอกาสที่จะทำให้ภาพรวมบริษัทจะมีอัตราการเติบโตได้ถึง 15-20% จากปกติโตปีละ 10%
“แผนรับมือเออีซีจะเน้นตั้งรับมากกว่าออกไปลงทุนในประเทศต่างๆ โดยจะมีการขยายสาขาในจังหวัดชายแดน หัวเมืองใหญ่ เช่น อุบลราชธานี และอุดรธานี เป็นต้น รวมถึงเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาสู่การขยายตลาดไปยังต่างประเทศในอีก 2-3 ปีข้างหน้าด้วย”
ล่าสุดปีนี้บริษัทได้เพิ่มไลน์ธุรกิจใหม่ 3 กลุ่ม คือ 1.“ไบโอคอส บิวตี้ อะคาเดมี” ที่ประชาชื่น เป็นสถาบันฝึกอบรมบุคลากรด้านความสวยความงามแบบครบวงจรทั้งการให้บริการและการจัดการ อยู่ภายใต้กระทรวงศึกษาธิการ เปิดฝึกอบรมเป็นคอร์ส ภายใต้งบลงทุน 10 ล้านบาท คาดว่าจะพร้อมให้บริการได้ภายในไตรมาสหนึ่ง สามารถรองรับผู้เข้าฝึกอบรมกว่า 1 พันคน
2.“รีเทล ชอป” จำนวน 10 สาขา งบลงทุน 80-100 ล้านบาท จากงบลงทุนรวม 250-300 ล้านบาท รองรับการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในเครือและนำเข้าจากต่างประเทศรวมกว่า 3-4 แบรนด์ในปัจจุบัน เริ่มเปิดให้บริการในช่วงไตรมาสสามเป็นต้นไป เน้นในชอปปิ้งมอลล์เป็นหลัก ส่วนในปีต่อไปจะขยายเพิ่มเป็น 50 สาขา หลังจากนั้นจะขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศ
3.“แล็บ เดอะ แบ็งคอก” เป็นคลินิกความงาม ลงทุน 30-50 ล้านบาท ที่เดอะมอลล์ บางแค ให้บริการดูแลผิวพรรณและเลเซอร์ โดยในอนาคตเตรียมศึกษาในการเพิ่มบริการเกี่ยวกับศัลยกรรมความงามด้วยซึ่งอาจจะอยู่ภายใต้ “แล็บ เดอะ แบ็งคอก” หรือเป็นแบรนด์ใหม่
นอกจากนี้ ในกลุ่มการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ปีนี้จะเพิ่มในส่วนของเมกอัพด้วยเพื่อจับกลุ่มวัยรุ่น จากเดิมที่มีกลุ่มสกินแคร์และดูแลร่างกายอยู่แล้ว ถือเป็นการทำตลาดที่ครอบคลุมเกือบทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยในอนาคตยังมีแผนสร้างโรงงานผลิตรองรับตลาดในประเทศและเออีซี สู่การดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรต่อไป
จากปัจจุบันบริษัทมีกลุ่มธุรกิจหลักคือ 1.“ไบโอคอส โปรเฟสชันนอล” นำเข้าผลิตภัณฑ์และวัตุดิบจากต่างประเทศ 2.“สลิมมิ่งพลัส” ให้บริการด้านความงาม จาก 23 สาขา จะขยายเพิ่มอีก 2-3 สาขา 3.“อะเมทิส” สถาบันดูแลความงามระดับไฮเอนด์จาก 1 สาขาจะเพิ่มอีก 1 สาขา 4.”บิวตี้สตอรี” สถาบันดูแลความงามเกี่ยวกับเล็บมือและเล็บเท้าจาก 8 สาขาจะเพิ่มอีก 3-4 สาขา ใช้งบราว 200 ล้านบาทจากงบลงทุนรวมทั้งหมด
“จากแผนการลงทุนในปีนี้เชื่อว่าจะส่งผลให้มีการเติบโตได้อีก 15% จากปีก่อนปิดรายได้ที่ 1 พันล้านบาท เติบโต 10% เป็นไปตามแผนที่วางไว้” นายชโลธร กล่าวในที่สุด