xs
xsm
sm
md
lg

เกาหลีสนลงทุนรถไฟทางคู่มาตรฐาน เสนอเปิดโต๊ะเจรจา 2 ฝ่าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รมว.คมนาคมเกาหลีพบ “ประจิน” ขอข้อมูลลงทุนรถไฟทางคู่ รางมาตรฐาน 1.435 เมตร พร้อมเชิญ รมว.คมนาคม และ ร.ฟ.ท.เยือนเกาหลีเปิดโต๊ะเจรจา หวังทำเอ็มโอยูร่วมลงทุน ด้าน “ปลัดคมนาคม” เร่งสปีดรถไฟฟ้า 3 สาย “ชมพู-ส้ม-เหลือง” ดันเสนอ ครม.ใน ม.ค.นี้ พร้อมสั่ง รฟม.สรุปประมูลเร่งเซ็นสัญญาก่อสร้างสายสีเขียวเหนือใน มี.ค.

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลัง นายเซาะ ซึง-ฮวาน (H.E.Mr.Suh Seoung-hwan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่ดินโครงสร้างพื้นฐานและคมนาคม สาธารณรัฐเกาหลีใต้ วานนี้ (5 ม.ค.) ว่า ทางเกาหลีให้ความสนใจในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ขนาดรางมาตรฐาน (Standard gauge) 1.435 เมตร ซึ่งอยู่ในแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลไทย ซึ่งทางเกาหลีระบุว่ามีประสบการณ์ทั้งความเร็ว 160 กม.ต่อ ชม. และ 300 กม.ต่อ ชม. และพร้อมร่วมมือกับรัฐบาลไทย จึงต้องการขอข้อมูลแผนโครงการจากไทย ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะเร่งส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้ผ่านทางสถานทูตเกาหลีภายใน 2-3 วันนี้ นอกจากนี้ ทางเกาหลีได้เสนอให้มีการเจรจาระดับรัฐมนตรีคมนาคมของสองประเทศ ซึ่งคาดว่าจะได้มีการหารือกันในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 นี้ พร้อมกันนี้ได้เชิญผู้แทนกระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เดินทางไปเยือนเกาหลีใต้ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมอีกด้วย

ทั้งนี้ ไทยและเกาหลีใต้ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระบบราง เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2556 ซึ่งเป็นกรอบความร่วมมือในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานและการถ่ายทอดความรู้ ไม่ได้ตกลงไปถึงรายละเอียดเรื่องการก่อสร้างแต่อย่างใด จึงเป็นเหตุผลที่ทาง รมว.ที่ดินและคมนาคมเกาหลีเชิญประชุมร่วม 2 ฝ่าย โดยหลักการของไทยนั้น โครงการที่มีความสำคัญระดับรัฐบาลจะใช้รูปแบบ G to G ส่วนโครงการรถไฟทางคู่ขนาดราง 1 เมตร (Meter gauge) จะเปิดประกวดราคาเพื่อให้คนไทยเสนอตัวก่อสร้าง สำหรับรถไฟทางคู่ขนาดราง 1.435 เมตรนั้นยังไม่ได้กำหนดหลักชัดเจน แต่มีตัวอย่างรถไฟทางคู่ เส้นทางหนองคาย-โคราช-แก่งคอย-ท่าเรือมาบตาพุด ระยะทางประมาณ 734 กิโลเมตร และช่วงแก่งคอย-กรุงเทพฯ ระยะทางประมาณ 133 กิโลเมตร ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างไทย-จีนแล้ว ขณะที่ทางญี่ปุ่นสนใจเส้นทางรถไฟทางคู่จากทวาย-บ้านพุน้ำร้อน

“เส้นทางที่เหลือจะมีความร่วมมืออย่างไร ขณะนี้ต้องรอระดับนโยบาย ส่วนกระทรวงคมนาคมนั้นพร้อมให้ข้อมูลและรับนโยบายมาดำเนินการต่อ” รมว.คมนาคมกล่าว

ด้านนางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าว่า จะเร่งรัดโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มระยะแรก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี ระยะทาง 20 กิโลเมตร วงเงิน 95,108 ล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 36 กิโลเมตร วงเงิน 56,000 ล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กิโล เมตร วงเงิน 54,000 ล้านบา นำส่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ทั้งหมดภายในเดือนมกราคม 2558 นี้ โดยขณะนี้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ส่งเอกสารรายละเอียดโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี มายังกระทรวงคมนาคมแล้ว ส่วนรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย- มีนบุรี และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรงนั้น คาดว่าอีก 1 สัปดาห์จะส่งมากระทรวงคมนาคมได้

ส่วนการประกวดราคางานโยธารถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ หมอชิต-สะพานใหม่-คูคตนั้น ล่าสุดคณะกรรมการประกวดราคาโครงการฯ ที่มีนายสัจจพงศ์ สนั่นเสียง รองผู้ว่าฯ รฟม. (ปฏิบัติการ) ได้สรุปแล้วว่าผู้เสนอราคาทั้ง 4 สัญญา โดยขั้นตอนจากนี้คือการเชิญผู้รับงานแต่ละสัญญามาเจรจาปรับลดราคา ซึ่ง รฟม.ระบุว่าจะสามารถลงนามในสัญญาพร้อมกันทั้ง 4 สัญญาได้ภายในเดือนเมษายน 2558 ซึ่งได้เร่งให้ลงนามสัญญาในเดือนมีนาคม เนื่องจากเห็นว่าขณะนี้ราคาน้ำมันและเหล็กกำลังปรับตัวลดลง จึงไม่น่าจะต่อรองยาก

นอกจากนี้ ได้กำชับให้ รฟม.เร่งสรุปรูปแบบการหาผู้รับงานเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค ว่าจะใช้วิธีประกวดราคา หรือเจรจากับบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL โดยต้องสรุปให้ได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ รวมทั้งงานเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ที่ให้สรุปรายละเอียดการหารือร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เพื่อรายงาน พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม พิจารณา และอาจต้องมีการนัดหมาย กทม.และ BTS มาประชุมร่วมกับกระทรวงคมนาคมเพื่อสรุปรอบสุดท้ายอีกครั้ง เนื่องจากจะมีประเด็นเรื่องการให้สิทธิ์เดินรถกับ กทม.ว่าจะเป็นรูปแบบใด หากเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ให้ กทม. ทาง กทม.ต้องจ่ายค่าก่อสร้างกลับคืนให้ รฟม.ด้วย ซึ่งยังติดปัญหาว่า กทม.ยังมีเงินไม่พอที่จะจ่ายค่าก่อสร้างจึงต้องมีการประชุมร่วมในระดับกระทรวง
กำลังโหลดความคิดเห็น