แห่ยื่นสมัครสรรหาผู้ว่าฯ รฟม. 7 ราย “พงศ์ภาณุ” คาดสรุปผลเสนอบอร์ด รฟม.ได้ใน ม.ค.เพื่อให้เริ่มทำงาน ก.พ. 58 ขณะที่ปี 58 มีเม็ดเงินลงทุนรถไฟฟ้าสูงถึง 2 แสนล้าน
นายพงศ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลังและกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าฯ รฟม. เปิดเผยว่า จากที่ได้ประกาศรับสมัครผู้ว่าฯ รฟม. ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน-12 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีผู้มายื่นใบสมัคร 7 ราย คือ 1. นายกฤต ธนิศราพงศ์ 2. นายธีรวิทย์ จารุวัฒน์ 3. นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล 4. นายต่อศักดิ์ โชติมงคล 5. นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล 6. นายอานนท์ ทับเที่ยง และ 7. นายรณชิต แย้มสอาด
โดยขั้นตอนจากนี้คณะกรรมการสรรหาฯ จะตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้น จากนั้นจะเชิญผู้ที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้นมาสัมภาษณ์และแสดงวิสัยทัศน์ เชื่อว่าจะสามารถรายงานผลการสรรหาผู้ว่าฯ รฟม.ต่อคณะกรรมการ (บอร์ด) ที่มี พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ เป็นประธานให้รับทราบได้ภายในเดือนมกราคม 2558 และผู้ว่าฯ รฟม.คนใหม่จะสามารถเริ่มงานได้ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ที่มายื่นใบสมัครส่วนใหญ่เป็นผู้บริหารหรือเคยเป็นผู้บริหารองค์กรขนาดใหญ่มาแล้ว โดยนายกฤต ธนิศราพงศ์ เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ซึ่งเคยมีชื่อสมัครเข้ารับการสรรหาผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) นายธีรวิทย์ จารุวัฒน์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าการ (วิศวกรรม) รฟม.
นายต่อศักดิ์ โชติมงคล อดีตผู้อำนวยการยาสูบ โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล อดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์ พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) นายอานนท์ ทับเที่ยง อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ TOT และนายรณชิต แย้มสอาด ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯ (ฝ่ายบริหาร) และรักษาการผู้ว่าฯ รฟม.
โดยก่อนหน้านี้นายพงศ์ภาณุเคยระบุว่าคุณสมบัติของผู้ที่สามารถสมัครเข้ารับการสรรหาผู้ว่าฯ รฟม. คือ ต้องมีอายุไม่เกิน 58 ปีบริบูรณ์ ไม่เป็นข้าราชการการเมือง จบการศึกษาระดับปริญญาตรี และมีความรู้ความชำนาญด้านการบริหารองค์กร โดยจะต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานที่มีรายได้ไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี และเพิ่มเงื่อนไขว่าจะต้องไม่เป็นผู้รักษาการผู้ว่าการ รฟม. ในวันยื่นใบสมัคร เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่โปร่งใสและเป็นธรรม โดยยืนยันว่าการกำหนดคุณสมบัติเป็นไปอย่างถูกต้อง ไม่ขัดต่อกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รัฐบาลต้องการขับเคลื่อนโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าหลายสายให้สำเร็จเป็นรูปธรรม โดยในปี 2558 จะมีเม็ดเงินลงทุนโครงการรถไฟฟ้าถึง 2 แสนล้านบาท จึงถือเป็นภารกิจหลักของผู้ว่าฯ รฟม.คนใหม่ ที่ต้องผลักดันโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ให้เป็นไปตามแผน