ASTVผู้จัดการรายวัน-“พงษ์ภาณุ”เผยกำหนดเงื่อนไขสรรหาผู้ว่าฯ รฟม.คนใหม่ ห้ามรักษาการผู้ว่าฯ ลงสมัครรับการสรรหาฯ ถูกต้องไม่ขัดกฎหมาย ชี้เพื่อความเป็นธรรมและโปร่งใส ไม่มีการกีดกันใคร เหตุรักษาการฯ มีโอกาสให้คุณและให้โทษ อาจทำให้สรรหาไม่เป็นธรรมได้ ยันเร่งสรรหา คาดผู้ว่าฯรฟม.คนใหม่ เริ่มทำงานไม่เกิน 1 ก.พ.58 เพื่อเร่งสานงานที่คั่งค้าง
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลังและกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าฯ รฟม. เปิดเผยว่า จากที่ได้ประกาศรับสมัครผู้ว่าฯรฟม. ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน -12 ธันวาคม 2557 นั้นตามกรอบขั้นตอนหลังจากนั้นคณะกรรมการสรรหาฯ จะทำการตรวจสอบคุณสมบัติและให้ผู้สมัครแสดงวิสัยทัศน์ ก่อนสรุปผลการสรรหาฯ และนำเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. ต่อไป โดยคาดว่า กระบวนการการสรรหาฯ จะแล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม 2558 เพื่อให้ผู้ว่าฯ รฟม.คนใหม่เข้าเริ่มทำงานได้ไม่เกิน 1 กุมภาพันธ์ 2558
ทั้งนี้ ในส่วนของเงื่อนไขคุณสมบัติผู้ที่สามารถสมัครเข้ารับการสรรหาผู้ว่าฯรฟม. ได้นั้น อาทิ ต้องมีอายุไม่เกิน 58 ปีบริบูรณ์ ไม่เป็นข้าราชการการเมือง จบการศึกษาระดับปริญญาตรี และมีความรู้ความชำนาญด้านการบริหารองค์กร โดยจะต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานที่มีรายได้ไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี รวมทั้งจะต้องไม่เป็นผู้รักษาการผู้ว่าฯ รฟม.
นายพงษ์ภาณุ กล่าวว่า การกำหนดว่าผู้สมัครจะต้องไม่เป็นรักษาการผู้ว่าฯรฟม.นั้น เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่โปร่งใสและเป็นธรรม ไม่ใช่การกีดกันใคร แต่คณะกรรมการสรรหาฯ ต้องการให้กระบวนการสรรหาโปร่งใส ไม่เอื้อประโยชน์ให้รายใดรายหนึ่ง เนื่องจากผู้ที่ดำรงตำแหน่งรักษาการผู้ว่าฯรฟม. จะมีโอกาสให้คุณและให้โทษ ซึ่งอาจทำให้การสรรหาเกิดความไม่เท่าเทียม และยืนยันว่าการกำหนดคุณสมบัตินี้เป็นไปอย่างถูกต้อง ไม่ขัดต่อกฎหมาย ส่วนการคุณสมบัติผู้สมัครให้เปิดกว้างมากที่สุด เพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งคนในและคนนอก องค์กรสามารถสมัครได้
“นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล อดีต ผู้ว่าฯรฟม.มีผู้ว่าฯ ลาออกจากตำแหน่งตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการบริหารต่างๆ ของรฟม.เป็นอย่างมาก ในขณะที่รัฐบาลต้องการขับเคลื่อนโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ ให้สำเร็จเป็นรูปธรรม ดังนั้นภารกิจหลักของผู้ว่า รฟม. คนใหม่ คือการผลักดันโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว โดยในปี 2558 จะมีเม็ดเงินลงทุนโครงการสูงถึง 2 แสนล้านบาท ประกอบด้วย การเร่งรัดงานเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ กับหัวลำโพง-บางแค และสายสีเขียวใต้ แบริ่ง-สมุทรปราการ”นายพงษ์ภาณุ กล่าว
ปัจจุบัน นายรณชิต แย้มสอาด รองผู้ว่าฯ รฟม.ด้านบริหาร ทำหน้าที่รักษาการผู้ว่าฯ รฟม. ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าฯ ที่ระบุว่ากรณีที่ไม่มีผู้ว่าฯ ลาออก หรือไม่มีผู้ว่าฯ ตัวจริง ให้แต่งตั้งรองผู้ว่าฯ รฟม.ที่มีอาวุโสสูงสุดรักษาการผู้ว่าฯ
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลังและกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าฯ รฟม. เปิดเผยว่า จากที่ได้ประกาศรับสมัครผู้ว่าฯรฟม. ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน -12 ธันวาคม 2557 นั้นตามกรอบขั้นตอนหลังจากนั้นคณะกรรมการสรรหาฯ จะทำการตรวจสอบคุณสมบัติและให้ผู้สมัครแสดงวิสัยทัศน์ ก่อนสรุปผลการสรรหาฯ และนำเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. ต่อไป โดยคาดว่า กระบวนการการสรรหาฯ จะแล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม 2558 เพื่อให้ผู้ว่าฯ รฟม.คนใหม่เข้าเริ่มทำงานได้ไม่เกิน 1 กุมภาพันธ์ 2558
ทั้งนี้ ในส่วนของเงื่อนไขคุณสมบัติผู้ที่สามารถสมัครเข้ารับการสรรหาผู้ว่าฯรฟม. ได้นั้น อาทิ ต้องมีอายุไม่เกิน 58 ปีบริบูรณ์ ไม่เป็นข้าราชการการเมือง จบการศึกษาระดับปริญญาตรี และมีความรู้ความชำนาญด้านการบริหารองค์กร โดยจะต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานที่มีรายได้ไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี รวมทั้งจะต้องไม่เป็นผู้รักษาการผู้ว่าฯ รฟม.
นายพงษ์ภาณุ กล่าวว่า การกำหนดว่าผู้สมัครจะต้องไม่เป็นรักษาการผู้ว่าฯรฟม.นั้น เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่โปร่งใสและเป็นธรรม ไม่ใช่การกีดกันใคร แต่คณะกรรมการสรรหาฯ ต้องการให้กระบวนการสรรหาโปร่งใส ไม่เอื้อประโยชน์ให้รายใดรายหนึ่ง เนื่องจากผู้ที่ดำรงตำแหน่งรักษาการผู้ว่าฯรฟม. จะมีโอกาสให้คุณและให้โทษ ซึ่งอาจทำให้การสรรหาเกิดความไม่เท่าเทียม และยืนยันว่าการกำหนดคุณสมบัตินี้เป็นไปอย่างถูกต้อง ไม่ขัดต่อกฎหมาย ส่วนการคุณสมบัติผู้สมัครให้เปิดกว้างมากที่สุด เพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งคนในและคนนอก องค์กรสามารถสมัครได้
“นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล อดีต ผู้ว่าฯรฟม.มีผู้ว่าฯ ลาออกจากตำแหน่งตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการบริหารต่างๆ ของรฟม.เป็นอย่างมาก ในขณะที่รัฐบาลต้องการขับเคลื่อนโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ ให้สำเร็จเป็นรูปธรรม ดังนั้นภารกิจหลักของผู้ว่า รฟม. คนใหม่ คือการผลักดันโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว โดยในปี 2558 จะมีเม็ดเงินลงทุนโครงการสูงถึง 2 แสนล้านบาท ประกอบด้วย การเร่งรัดงานเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ กับหัวลำโพง-บางแค และสายสีเขียวใต้ แบริ่ง-สมุทรปราการ”นายพงษ์ภาณุ กล่าว
ปัจจุบัน นายรณชิต แย้มสอาด รองผู้ว่าฯ รฟม.ด้านบริหาร ทำหน้าที่รักษาการผู้ว่าฯ รฟม. ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าฯ ที่ระบุว่ากรณีที่ไม่มีผู้ว่าฯ ลาออก หรือไม่มีผู้ว่าฯ ตัวจริง ให้แต่งตั้งรองผู้ว่าฯ รฟม.ที่มีอาวุโสสูงสุดรักษาการผู้ว่าฯ