“เทสโก้ โลตัส” เร่งเครื่องพัฒนาช่องทางค้าปลีก

เน้นกลยุทธ์การค้าปลีกผ่านหลากหลายช่องทาง โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์และสื่อดิจิตอลรองรับไลฟ์สไตล์ลูกค้ายุคใหม่ พร้อมเดินหน้าพัฒนาระบบเอื้อประโยชน์ให้ลูกค้าต้องซื้อของได้ทุกที่ทุกเวลาในแบบที่ต้องการ

นายจอห์น คริสตี้ ประธานกรรมการบริหาร “เทสโก้ โลตัส” เปิดเผยว่า ในโอกาสครบรอบ 20 ปีการดำเนินงานในประเทศไทย ปัจจุบัน “เทสโก้ โลตัส” มีร้านค้าเกือบ 1.8 พันสาขาใน 5 รูปแบบ คือ เอ็กซ์ตรา ไฮเปอร์มาร์เกต ดีพาร์ตเมนต์สโตร์ ตลาด และเอ็กซ์เพรส อีกทั้งยังเป็นธุรกิจค้าปลีกรายแรกที่จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคและอาหารสดผ่านทางออนไลน์

การขยายสาขาของ “เทสโก้ โลตัส” ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาถือเป็นช่องทางการกระจายสินค้าที่มีประสิทธิภาพให้ผู้ประกอบการและเกษตรกรไทย โดยนอกจากการเป็นช่องทางทำตลาดในประเทศไทยแล้ว ยังช่วยผลักดันการส่งออกสินค้าไทยผ่านเครือข่ายร้านค้าของ “กลุ่มเทสโก้” ใน 12 ประเทศ ด้วยการนำระบบค้าปลีกระดับโลกมาใช้ นับตั้งแต่การวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าไปจนถึงการควบคุมคุณภาพของสินค้าและระบบการกระจายสินค้าที่ทันสมัย ซึ่งอำนวยประโยชน์ให้ทั้งลูกค้าและคู่ค้าผู้ประกอบการไทย

“เทสโก้ โลตัส” ยังมีส่วนช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยหลายราย โดยบางรายเริ่มจากการผลิตในครัวเรือนจนปัจจุบันกลายเป็นผู้ผลิตสินค้ามาตรฐานส่งออก ขณะเดียวกันคู่ค้าหลายรายก็มียอดขายเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดทุกปี เพราะนอกจาก “เทสโก้ โลตัส” จะเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าให้ผู้ประกอบการเหล่านี้แล้ว ยังได้ร่วมมือกันพัฒนาวิธีการผลิตและพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ทางการตลาด รวมทั้งมีโครงการเสริมความรู้ผู้ประกอบการให้เติบโตอย่างแข็งแรงอีกหลายโครงการด้วย

นายจอห์นกล่าวอีกว่า “เทสโก้ โลตัส” ให้ความสำคัญต่อกลยุทธ์การค้าปลีกผ่านหลากหลายช่องทาง ซึ่งไม่เพียงเป็นเรื่องของการจำหน่ายสินค้าให้ได้มากขึ้นเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของการสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า เพื่อมอบประสบการณ์ชอปปิ้งที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าแต่ละคน และสร้างคุณค่าให้แก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น

“ทุกวันนี้ธุรกิจค้าปลีกกำลังเปลี่ยนแปลงไป เราเริ่มเปลี่ยนจากร้านไฮเปอร์มาร์เกตแบบเดิมๆ ไปสู่ช่องทางอื่นๆ เช่น ชอปออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต หรือทำการตลาดแบบดิจิตอลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เพราะลูกค้าต้องการซื้อของได้ทุกที่ ทุกเวลา ในแบบที่ต้องการ เราจึงกำลังสร้างมาตรฐานที่ดียิ่งขึ้นสำหรับการค้าปลีกสมัยใหม่เพื่อตอบรับความต้องการตามไลฟ์สไตล์ลูกค้ายุคใหม่ที่เปลี่ยนไป”

นายจอห์นกล่าวด้วยว่า เทสโก้ โลตัสจะยังคงยึดแนวทางการดำเนินธุรกิจโดยเน้นการจำหน่ายสินค้าคุณภาพดีราคาถูกเพื่อช่วยลดค่าครองชีพของคนไทย ดังเช่นแคมเปญลดราคา “โรลแบ็ค” ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนนับตั้งแต่เริ่มต้นรวมกว่า 4 พันล้านบาทแล้ว นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดการจ้างงานในท้องถิ่นจำนวนมาก โดยมีการจ้างพนักงานประจำกว่า 5 หมื่นคน และมีการจ้างงานผ่านคู่ค้าอีกกว่า 5 แสนคน