“ประจิน” บุกโรงซ่อมแอร์พอร์ตลิงก์ มั่นใจไม่หยุดวิ่งบริการหลังตรวจแผนซ่อมบำรุง เชื่อมั่นได้ไม่มีปัญหา รถทั้ง 9 ขบวนจะทยอยซ่อมบางส่วนเสร็จใน มี.ค. 58 พร้อมเดินหน้าจัดหารถใหม่ 7 ขบวน และส่วนต่อขยายพญาไท-ดอนเมือง และสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา เพื่อเชื่อม 3 สนามบิน
วันนี้ (20 พ.ย.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ พร้อมรับฟังบรรยายเกี่ยวกับปัญหาอุปสรรคในการให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ ซึ่งมีปัญหาเรื่องการซ่อมบำรุง พร้อมกับนั่งรถแอร์พอร์ตลิงก์จากสถานีมักกะสันไปยังสนามบินสุวรรณภูมิด้วย
โดย พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า รถแอร์พอร์ตลิงก์ 9 ขบวนอยู่ระหว่างรอซ่อมบำรุงใหญ่ (Overhaul) ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา ดังนั้นจึงได้มีการวางแผนการซ่อมบำรุงบางส่วนในระบบที่เกี่ยวกับความปลอดภัย ซึ่งเสร็จแล้ว 3 ขบวน และในเดือนพฤศจิกายนนี้ขบวนที่ 4 จะเสร็จ และเดือนธันวาคมขบวนที่ 5 จะซ่อมเสร็จ โดยจะเป็นขบวนธรรมดา (City Line) ทั้งหมด ส่วนขบวน Express Line จะเริ่มซ่อมในเดือนมกราคมแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2558 พร้อมกันนี้จะเร่งเดินหน้าการจัดหารถเพิ่มอีก 7 ขบวน
ทั้งนี้ จากแผนการซ่อมบำรุงที่มี มั่นใจว่ารถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์จะไม่หยุดให้บริการ และปัจจุบันจำนวนผู้โดยสารมีมากถึง 1.4 ล้านคนต่อเดือน ซึ่งเกินเป้าหมายที่ประมาณ 1-1.2 ล้านคนต่อเดือน นอกจากนี้ พนักงานแอร์พอร์ตลิงก์มีขีดความสามารถที่ทำการซ่อมบางส่วนได้เอง จึงมั่นใจในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย และเชื่อว่าจะเดินรถต่อไปได้ แต่อย่างไรก็ตามได้เตรียมความจำเป็นกรณีที่รถชำรุด แต่ไม่มีผลต่อความปลอดภัย จะซ่อมได้ทันทีโดยใช้เวลาไม่นาน
พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า หลักนโยบายในการเดินรถแอร์พอร์ตลิงก์ จะเน้นบริการที่เชื่อมโยงจากใจกลาง กทม.-สุวรรณภูมิ และเชื่อมต่อไปยังดอนเมืองในอนาคต และเชื่อมไปสนามบินอู่ตะเภา เพื่อให้บริการ 3 สนามบิน คือ สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง-อู่ตะเภา ในอนาคต ได้เรียบร้อย
ปัจจุบันรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์มีผู้โดยสารเฉลี่ย 5.1-5.2 หมื่นคนต่อวัน โดยหลังซ่อมบำรุงบางส่วนได้ระดับหนึ่ง ประมาณเดือนมกราคม 2558 จะมีขบวนรถให้บริการประมาณ 6-7 ขบวน ซึ่งจะทำให้สามารถปรับความถี่ในการเดินรถได้จากปัจจุบัน 20 นาทีต่อขบวน เป็น 10-15 นาทีต่อขบวน ทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกเพิ่มขึ้น โดยรถ 9 ขบวนจะมีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 6-7 หมื่นคน ขณะที่การซ่อมบำรุงใหญ่นั้นอยู่ระหว่างประกวดราคา คาดว่าจะลงนามสัญญาได้ในเดือนเมษายน 2558 และคาดว่าจะเริ่มซ่อมบำรุงได้ประมาณกลางปี 2558 ซึ่งขบวนรถจะวิ่งเฉลี่ยถึง 1.6 ล้าน กม. ซึ่งไม่มีปัญหา เพราะได้มีการซ่อมบำรุงบางส่วนไปแล้วทำให้ยืดระยะวิ่งไปได้มากกว่าเกณฑ์เดิมที่ต้องซ่อมบำรุงใหญ่ที่ระยะ 1.3 ล้าน กม.
วันนี้ (20 พ.ย.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ พร้อมรับฟังบรรยายเกี่ยวกับปัญหาอุปสรรคในการให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ ซึ่งมีปัญหาเรื่องการซ่อมบำรุง พร้อมกับนั่งรถแอร์พอร์ตลิงก์จากสถานีมักกะสันไปยังสนามบินสุวรรณภูมิด้วย
โดย พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า รถแอร์พอร์ตลิงก์ 9 ขบวนอยู่ระหว่างรอซ่อมบำรุงใหญ่ (Overhaul) ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา ดังนั้นจึงได้มีการวางแผนการซ่อมบำรุงบางส่วนในระบบที่เกี่ยวกับความปลอดภัย ซึ่งเสร็จแล้ว 3 ขบวน และในเดือนพฤศจิกายนนี้ขบวนที่ 4 จะเสร็จ และเดือนธันวาคมขบวนที่ 5 จะซ่อมเสร็จ โดยจะเป็นขบวนธรรมดา (City Line) ทั้งหมด ส่วนขบวน Express Line จะเริ่มซ่อมในเดือนมกราคมแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2558 พร้อมกันนี้จะเร่งเดินหน้าการจัดหารถเพิ่มอีก 7 ขบวน
ทั้งนี้ จากแผนการซ่อมบำรุงที่มี มั่นใจว่ารถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์จะไม่หยุดให้บริการ และปัจจุบันจำนวนผู้โดยสารมีมากถึง 1.4 ล้านคนต่อเดือน ซึ่งเกินเป้าหมายที่ประมาณ 1-1.2 ล้านคนต่อเดือน นอกจากนี้ พนักงานแอร์พอร์ตลิงก์มีขีดความสามารถที่ทำการซ่อมบางส่วนได้เอง จึงมั่นใจในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย และเชื่อว่าจะเดินรถต่อไปได้ แต่อย่างไรก็ตามได้เตรียมความจำเป็นกรณีที่รถชำรุด แต่ไม่มีผลต่อความปลอดภัย จะซ่อมได้ทันทีโดยใช้เวลาไม่นาน
พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า หลักนโยบายในการเดินรถแอร์พอร์ตลิงก์ จะเน้นบริการที่เชื่อมโยงจากใจกลาง กทม.-สุวรรณภูมิ และเชื่อมต่อไปยังดอนเมืองในอนาคต และเชื่อมไปสนามบินอู่ตะเภา เพื่อให้บริการ 3 สนามบิน คือ สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง-อู่ตะเภา ในอนาคต ได้เรียบร้อย
ปัจจุบันรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์มีผู้โดยสารเฉลี่ย 5.1-5.2 หมื่นคนต่อวัน โดยหลังซ่อมบำรุงบางส่วนได้ระดับหนึ่ง ประมาณเดือนมกราคม 2558 จะมีขบวนรถให้บริการประมาณ 6-7 ขบวน ซึ่งจะทำให้สามารถปรับความถี่ในการเดินรถได้จากปัจจุบัน 20 นาทีต่อขบวน เป็น 10-15 นาทีต่อขบวน ทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกเพิ่มขึ้น โดยรถ 9 ขบวนจะมีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 6-7 หมื่นคน ขณะที่การซ่อมบำรุงใหญ่นั้นอยู่ระหว่างประกวดราคา คาดว่าจะลงนามสัญญาได้ในเดือนเมษายน 2558 และคาดว่าจะเริ่มซ่อมบำรุงได้ประมาณกลางปี 2558 ซึ่งขบวนรถจะวิ่งเฉลี่ยถึง 1.6 ล้าน กม. ซึ่งไม่มีปัญหา เพราะได้มีการซ่อมบำรุงบางส่วนไปแล้วทำให้ยืดระยะวิ่งไปได้มากกว่าเกณฑ์เดิมที่ต้องซ่อมบำรุงใหญ่ที่ระยะ 1.3 ล้าน กม.