แอร์พอร์ตลิงก์เร่งซ่อมบางส่วนรถ City Line 2 ขบวนวิ่งได้อีกยาว คาดสิ้น พ.ย.เสร็จอีก 2 ขบวน ทำให้มี 4 ขบวนวิ่งสลับ ยันปลอดภัยแต่อาจมีขัดข้องบ้าง เพราะซ่อมระบบที่จำเป็นระหว่างรอขั้นตอน e-Auction ซ่อม Overhaul ส่วนซื้อรถ 7 ขบวน ร่าง TOR เสร็จแล้วเตรียมประกาศ ขณะที่ช่วงลอยกระทง 5-9 พ.ย. 57 ตรวจเข้ม ผู้ใช้บริการ ห้ามนำวัตถุไวไฟ พลุ ประทัด ผู้มีอาการมึนเมาใช้บริการ จัดเจ้าหน้าที่ เฝ้าระวังโคมลอย โคมควัน เพื่อความปลอดภัย
นายภากรณ์ ตั้งเจตสกาว กรรมการ (บอร์ด) และรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ซีอีโอ) บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดซื้อรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ 7 ขบวน ขบวนละ 4 ตู้ วงเงินรวม 4,855 ล้านบาท ว่า ขณะนี้ร่างเงื่อนไขประกวดราคา (TOR ) ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) เสร็จแล้ว และอยู่ในกระบวนการที่คณะกรรมการประกวดราคาจะนำร่าง TOR ประกาศในเว็บไซต์ เพื่อรับฟังความคิดเห็นตามระเบียบและขั้นตอนของการประกวดราคา e-Auction เช่นเดียวกับการซ่อมบำรุงใหญ่ (Overhaul) รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ รถ 9 ขบวน วงเงิน 385.94 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในกระบวนการเตรียมประกวดราคาเช่นเดียวกัน
โดยปัจจุบันมีรถแอร์พอร์ตลิงก์ให้บริการเฉลี่ยที่ 5-6 ขบวนต่อวัน เนื่องจากมีขบวนรถบางส่วนที่วิ่งครบ 1.32 ล้านกิโลเมตรแล้ว ซึ่งล่าสุดได้ทำการซ่อมบำรุงบางส่วน หรือ Partial Overhaul รถไฟฟ้าธรรมดา (City Line) จำนวน 2 ขบวน รหัส 01, 04 เสร็จแล้ว สามารถวิ่งให้บริการไปได้อีกระยะเพื่อรอการซ่อมบำรุงใหญ่ และจะทยอยซ่อมแบบ Partial Overhaul รถอีก 2 ขบวน เพื่อให้มีรถวิ่งบริการเป็นหลัก 4 ขบวน โดยการซ่อมแบบ Partial Overhaul นั้นจะเน้นระบบที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย เช่น ช่วงล่าง เบรก แคร่ล้อ อะไหล่ของโบกี้ ระบบลูกยาง เป็นต้น
“ต้องยอมรับว่าการให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ยังต้องพยายามบริหารรถที่มีอยู่ให้สามารถวิ่งให้บริการได้ และปลอดภัย ซึ่งรถส่วนใหญ่จะวิ่งครบ 1.32 ล้าน กม. แล้ว การซ่อมบางส่วนเพื่อให้มีรถส่วนหนึ่งวิ่งได้จึงเป็นเรื่องเฉพาะหน้าที่ต้องทำ และปลายเดือน พ.ย.-ต้นเดือน ธ.ค.นี้จะมีรถวิ่งประมาณ 4 ขบวน โดยทั้ง 4 ขบวนนี้จะผ่านการซ่อม Partial Overhaul แล้วมีความปลอดภัย” นายภากรณ์กล่าว
สำหรับช่วงเทศกาลลอยกระทง ระหว่างวันที่ 5-9 พฤศจิกายนนี้ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ได้เพิ่มมาตรการความปลอดภัยเพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความปลอดภัย และความสะดวกสบายในการใช้บริการให้มากที่สุด โดยดำเนินการตรวจสอบบุคคลซึ่งมีอาการมึนเมา และไม่สามารถควบคุมตนเองได้อย่างเข้มงวดในการเข้าใช้ระบบ และประสานกับตำรวจรถไฟเพื่อขอให้จัดกำลังเข้าสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสถานี เพิ่มมาตรการป้องปราม โดยการนำเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ไปประจำยังสถานีที่มีผู้โดยสารจำนวนมาก เน้นให้หัวหน้าพนักงานควบคุมรถไฟฟ้า ให้มีการตรวจความพร้อมของพนักงานควบคุมรถไฟฟ้าทุกคนที่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด ตรวจสอบในสถานที่ที่ติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ให้ควบคุมติดตามการใช้งานและเฝ้าระวังหน้าจอมอนิเตอร์พร้อมทั้งตรวจสอบอุปกรณ์ให้ใช้งานได้ดีอยู่เสมอ โดยกำหนดวัตถุต้องห้ามที่ไม่สามารถนำเข้ามาในระบบ เช่น อาวุธ และของมีคมทุกชนิด พร้อมเฝ้าระวังโคมลอยและโคมควัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการให้บริการได้
