“แอร์พอร์ตลิงก์” กลับลำไม่หยุดบริการ ยันได้รับอะไหล่สึกหรอพวกลูกยางและอะไหล่ของโบกี้ภายในกลางเดือน ก.ย.นี้ เตรียมเร่งเปลี่ยนขบวนแรกเสร็จใน 7 ต.ค.มั่นใจความปลอดภัย รายงานบอร์ด ร.ฟ.ท.วันนี้ (16 ก.ย.) ยันมีรถ 6 ขบวนวิ่งสลับให้บริการไปจนถึงสิ้นปี 57 ส่วนซ่อมใหญ่คาดใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 ปีแน่นอน
แหล่งข่าวจากบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ เปิดเผยว่า ปัญหาการซ่อมบำรุงใหญ่ (Overhaul) รถไฟฟ้าทั้ง 9 ขบวนมีความล่าช้าและอาจส่งผลต่อการให้บริการเนื่องจากขบวนรถจะวิ่งครบ 1.32 ล้านกิโลเมตรภายใน 2 เดือนนี้นั้น ขณะนี้มั่นใจว่ารถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์จะไม่หยุดให้บริการ โดยล่าสุดได้รับการยืนยันว่าอะไหล่สึกหรอที่ต้องได้รับการเปลี่ยนในการ Overhaul ก่อนบางส่วน (Partial Overhaul) เช่น อะไหล่ของโบกี้ ระบบลูกยาง ซึ่งอะไหล่จะส่งมอบมาถึงภายในกลางเดือนกันยายนนี้ จากนั้นจะเริ่มทยอยนำรถแต่ละขบวนเข้าซ่อมบำรุง โดยจะใช้เวลาซ่อมบำรุงขบวนละประมาณ 3 สัปดาห์ โดยตารางขบวนแรกจะซ่อมบำรุงแล้วเสร็จและนำออกวิ่งให้บริการได้ในวันที่ 7 ตุลาคม 2557 และตามตารางจะสลับขบวนรถเข้ารับการซ่อมบำรุงครบทั้ง 9 ขบวนภายใน 27 สัปดาห์ และจะมีรถสำหรับให้บริการประมาณ 6 ขบวนไปจนถึงสิ้นปี 2557
ซึ่งจะรายงานความคืบหน้าต่อคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่มีนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ เป็นประธานรับทราบในการประชุมวันพรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ส่วนการซ่อมบำรุงใหญ่จะดำเนินการตามขั้นตอนประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งเวลาในการจัดหาอะไหล่มากหรือน้อยนั้น ขึ้นกับผู้ชนะการประมูลว่าจะมีเครือข่ายในการจัดหาอย่างไร โดยล่าสุดขบวนรถที่มีความพร้อมในการให้บริการกลับมาเป็น 6 ขบวน เป็นรถไฟฟ้าด่วน (Express Line) 2 ขบวน และรถไฟฟ้าธรรมดา (City Line) 4 ขบวน จากเดิมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่มีรถที่มีความพร้อมให้บริการที่ 5 ขบวน
“อะไหล่สึกหรอพวกนี้ได้มีการสั่งซื้อไปตั้งแต่เมื่อ 8-9 เดือนก่อน ซึ่งอะไหล่ส่วนใหญ่จะต้องใช้เวลาในการจัดหาเพราะต้องสั่งผลิตล่วงหน้าแต่จะเข้ามากลางเดือนกันยายนนี้แน่นอน ทำให้มั่นใจว่าการซ่อมบางส่วน (Partial Overhaul) ก่อนที่จะซ่อมใหญ่จะทำได้ตามแผนและขบวนรถจะมีความสมบูรณ์และปลอดภัยตามคู่มือมาตรฐานการซ่อมบำรุง ส่วนการซ่อมใหญ่ที่จะต้องมีชุดแคร่รถไฟฟ้าตามมาตรฐานการซ่อมบำรุง ระบบที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทั้งหมดตามคู่มือนั้นจะดำเนินการตามปกติโดยไม่ต้องหยุดวิ่ง” แหล่งข่าวกล่าว
