ครม.เห็นชอบคมนาคม และ ก.พาณิชย์ทำร่างเอ็มโอยูไทย-จีน 2 ฉบับ คือเรื่องสร้างรถไฟทางคู่รางมาตรฐาน และเรื่องสินค้าเกษตร โดยให้เสนอร่างเอ็มโอยูเห็นชอบในสัปดาห์หน้า “ประจิน” เผย มติเดิมให้ “ม.ร.ว.ปรีดิยาธร” ดำเนินการแต่รองนายกฯ ยังอยู่ต่างประเทศจึงให้คมนาคมและเกษตรจัดทำ นอกจากนี้ ครม.ไฟเขียวออก พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดินสร้างรถไฟทางคู่ 6 เส้นทาง
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (18 พ.ย.) ได้มีมติเห็นชอบหลักการจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามที่ได้มอบหมายให้มีการแยกข้อตกลงเป็น 2 ฉบับ คือ ร่างเอ็มโอยูความร่วมมือไทย-จีน เรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟจากประเทศไทยในกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558-2565 หรือโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ และร่างเอ็มโอยูความร่วมมือไทย-จีน เรื่องการซื้อขายสินค้าเกษตร โดยประสงค์ให้ 2 ฝ่าย คือ ไทย-จีน ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้เพื่อให้นำร่างเอ็มโอยูที่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกันเสนอ ครม.เห็นชอบในการประชุม ครม.วันที่ 25 พฤศจิกายน ต่อไป
“เป็นเรื่องเดิมที่ก่อนหน้านี้ ครม.ได้เคยเห็นชอบไปแล้ว โดยมอบหมายให้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ไปดำเนินการจัดทำร่างเอ็มโอยู 2 ฉบับและนำเสนอ ครม. แต่เนื่องจากรองนายกฯ ยังอยู่ระหว่างเยือนต่างประเทศหลายวัน และเป็นช่วงที่นายกฯ เพิ่งกลับจากจีน จึงเป็นจังหวะที่ควรจะเดินหน้า ครม.จึงเห็นชอบให้ไปจัดทำร่างเอ็มโอยู ฉบับโครงสร้างพื้นฐาน และฉบับสินค้าเกษตร ซึ่งตัดมติเดิมที่มอบให้รองนายกฯ เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งทั้งไทย-จีนมีคณะทำงานอย่างไม่เป็นทางการเจรจาร่วมกันแล้ว ซึ่งในส่วนของรถไฟที่กระทรวงคมนาคมรับผิดชอบ พร้อมจะนำเสนอ ครม.ขอความเห็นชอบร่างเอ็มโอยูได้ในวันที่ 25 พฤศจิกายนแน่นอน และพร้อมที่จะเสนอต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องทันที” พล.อ.อ.ประจินกล่าว
โดยร่างเอ็มโอยูความร่วมมือด้านรถไฟนั้นมาจากหลักยุทธศาสตร์เส้นทางสายไหมของจีน ยุทธศาสตร์การเชื่อมเครือข่ายของไทยที่เส้นทางจะมาเชื่อมต่อกัน และความสัมพันธ์ไทย-จีน และเอ็มโอยูที่รัฐบาลไทย-จีนเคยมีต่อกัน เห็นควรให้จีนมาร่วมดำเนินการรถไฟทางคู่ขนาดรางมาตรฐาน 1.435 เมตร (Standard Gauge) แบ่งเป็นช่วงหนองคาย-แก่งคอย-มาบตาพุด ระยะทาง 734 กม. และช่วงแก่งคอย-บ้านภาชี-บางซื่อ ระยะทาง 133 กม. โดยจะให้มีคณะทำงาน โดยรถไฟจะมอบหมายให้ รมว.คมนาคมเจรจารายละเอียด ส่วนสินค้าเกษตร จะมอบให้ รมว.พาณิชย์เจรจารายละเอียด ส่วนกรณีที่จีนจะซื้อข้าวจากไทยนั้นเป็นเอ็มโอยูอีกฉบับที่ไม่เกี่ยวกับเอ็มโอยูการก่อสร้างทางรถไฟ
ด้านนางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.ยังได้มีมติอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.ฎ.กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างทางคู่ 5 เส้นทาง ประกอบด้วย 1. เส้นทางรถไฟสายเหนือ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ จำนวน 4 ฉบับ เพื่อสร้างทางและสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ 2. เส้นทางชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น รวม 4 ฉบับ เพื่อสร้างทางและสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ ตามโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ
3. สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ รวม 15 ฉบับ 4. สายใต้ ช่วงนครปฐม-หัวหิน รวม 19 ฉบับ และ 5. สายใต้ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร รวม 8ฉบับ นอกจากนี้ยังได้อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.ฎ.กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในตำบลจันทึก จังหวัดนครราชสีมา เพื่อสร้างทางสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟและทางรถไฟทางคู่