xs
xsm
sm
md
lg

“รีสเพค” ลุยเครื่องดื่มสมุนไพร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“สรกฤต ลัทธิธรรม” กรรมการผู้จัดการ บริษัท รีสเพค วัน เบฟเวอเรจ จำกัด
ศิษย์เก่า “เบียร์ช้าง” ผุดบริษัทลุยตลาดเครื่องดื่มสุขภาพสมุนไพร ปั้นแบรนด์ “เก๊กหล่อ” สูตรจับเลี้ยงรุกตลาด อัดงบตลาด 120 ล้านบาท หวังแจ้งเกิดชิงแชร์ 5% จาก 1.3 หมื่นล้านบาท พร้อมลุยตลาดต่อเนื่อง
นายสรกฤต ลัทธิธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท รีสเพค วัน เบฟเวอเรจ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ดังกล่าวตั้งขึ้นมาด้วยทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ โดยมีผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในตลาดเครื่องดื่ม เช่น ตนเป็นอดีตผู้บริหารฝ่ายการตลาดของ “เบียร์ช้าง” และ นางสาวธัชมาภรณ์ จันทร์จำรัสแสง อดีตทำงานที่เครื่องดื่ม “เซปเป้” เป็นต้น โดยจะเน้นผลิตเครื่องดื่มสมุนไพรและเครื่องดื่มแนวธรรมชาติเพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ วางเป้าหมายภายใน 3 ปีจากนี้จะต้องมีเครื่องดื่มทำตลาดไม่ต่ำกว่า 6-7 ชนิด มีรายได้รวม 1 พันล้านบาท และจะนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน 5 ปี

การรุกตลาดครั้งนี้เนื่องจากเห็นว่าปัจจุบันคนรุ่นใหม่ทั้งไทยและเอเชียต่างให้ความสำคัญต่อสุขภาพมากขึ้น เครื่องดื่มสมุนไพรจึงเข้ามามีบทบาทเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมูลค่าตลาดรวมของเครื่องดื่มที่ปราศจากแอลกอฮอล์มีขนาดใหญ่มากกว่า 1.8 แสนล้านบาท ขณะที่ตลาดเครื่องดื่มสมุนไพรสุขภาพโดยรวมอยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านบาทซึ่งยังมีโอกาสเติบโตอีกมากจากที่ผ่านมาเติบโตกว่า 25%

บริษัทฯ ได้วางตลาดเครื่องดื่มสมุนไพรตัวแรกแล้วคือเครื่องดื่มสมุนไพรสูตรจับเลี้ยงแบรนด์ “เก๊กหล่อ” ขวดเพ็ท ขนาด 330 มิลลิลิตร ราคา 18 บาท พร้อมด้วยการสร้างเซกเมนต์ใหม่เพื่อรุกตลาดคือ “เฮลท์ตี้ พลัส” ที่มีองค์ประกอบหลักคือ สมุนไพรไม่มีชา ไม่มีคาเฟอีน หวานน้อย ภายใต้แนวคิด “ผ่อนคลายลึก จากพลังสมุนไพร” มีวางขายแล้วที่เซเว่นอีเลฟเว่น, แม็คโคร, เทสโก้ โลตัส, แฟมิลี่ มาร์ท, แม็กซ์แวลู และจิฟฟี่ โดยเน้นช่องทางโมเดิร์นเทรด 70% ที่กระจายแล้วกว่า 90% ส่วนช่องทางเทรดิชันนัลเทรดสัดส่วน 30% สามารถกระจายได้แล้วเพียง 10% จากทั่วประเทศกว่า 3 แสนร้านค้า โดยในปี 2558 จะเน้นขยายช่องทางเทรดิชันนัลเทรดมากขึ้น

บริษัทฯ ว่าจ้าง บริษัท ยูโรเปี้ยน ฟู้ด จำกัด เป็นผู้ผลิตสินค้า “เก๊กหล่อ” ส่วนการจัดจำหน่ายคือบริษัท เพนส์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ซึ่งในระยะแรกจะยังไม่มีแผนลงทุนสร้างโรงงานผลิตเอง คงต้องดูระยะยาวก่อนว่าผลตอบรับของตลาดเป็นอย่างไร

กล่มเป้าหมายหลักคือ เพศชาย-หญิงอายุระหว่าง 25-35 ปี และกลุ่มผู้ใหญ่ที่รักสุขภาพ อายุ 36-40 ปี ช่วงแรกการทำตลาดจะเน้นที่ตัวสินค้าและแบรนด์เป็นหลัก รวมทั้งการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำด้วยการทำทั้งบีโลว์เดอะไลน์และอะโบฟเดอะไลน์ด้วยงบตลาดรวม 120 ล้านบาท เช่น การแจกตัวอย่างดื่ม 6 แสนถ้วย การทำหนังโฆษณา การทำกิจกรรม การทำโรดโชว์ทั่วประเทศ เป็นต้น ซึ่งช่วงแรกถึงสิ้นปีหน้าวางเป้าหมายส่วนแบ่งตลาด 5% จากมูลค่า 1.3 หมื่นล้านบาท

นอกจากนั้นยังมองตลาดต่างประเทศด้วย โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV หรือ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม เพราะเป็นตลาดเปิดใหม่และมีการเติบโตดี โดยปีหน้าจะเริ่มทำตลาดลาวกับกัมพูชาก่อนด้วยการแต่งตั้งบริษัทท้องถิ่นเป็นดิสทริบิวเตอร์ให้ ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดจำหน่ายสินค้าหลายแบรนด์ของคนไทยอยู่แล้ว

“ในตลาดเมืองไทยยังไม่มีใครที่เป็นคู่แข่งกับเราโดยตรง ส่วนใหญ่ที่มีอยู่ก็จะเป็นเครื่องดื่มชาผสมสมุนไพร แต่ของเราไม่มีส่วนผสมชาและมีน้ำตาลน้อย โดยเน้นส่วนผสมมาจากสมุนไพรเป็นหลัก ส่วนสินค้าตัวต่อไปคาดว่าไตรมาสแรกปีหน้าจะเปิดตัวได้”


กำลังโหลดความคิดเห็น