xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนาห่วงข้าวเปลือกหอมมะลิราคาตก เตือน “พาณิชย์” รีบแก้ปัญหาก่อนยุ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ชาวนาเตือน “พาณิชย์” รีบเข้ามาแก้ปัญหาก่อนยุ่ง หลังผู้ส่งออกไม่ทำตามข้อตกลงซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิตามราคาที่กำหนด เซ็งรัฐโอ๋แต่ผู้ส่งออก แต่เมินโรงสีกับชาวนา ด้าน “พาณิชย์” ดิ้นดันราคาข้าว เร่งดันส่งออก ตั้งเป้า 3 ล้านตัน เตรียมเจรจาขายแอฟริกา ตะวันออกกลาง 2 ล้านตัน ดึงจีนซื้อข้าวหอมมะลิฤดูใหม่ 3 แสนตัน พร้อมจีบฮ่องกง สิงคโปร์ ซื้อไม่ต่ำกว่า 2 แสนตัน ที่เหลือเน้นตลาดอาเซียน

นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย เปิดเผยถึงกรณีที่ผู้ส่งออกไม่ยอมรับซื้อข้าวสารหอมมะลิจากโรงสีในราคาที่ตกลงกันไว้ และส่งผลให้โรงสีไปกดราคารับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาอีกต่อว่า หากเป็นเช่นนั้นจริงจะส่งผลกระทบต่อราคาข้าวเปลือกหอมมะลิที่ชาวนาจะขายได้ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะต้องเข้ามาดูแล และทำให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามข้อตกลง เพื่อป้องกันผลกระทบต่อชาวนา

ทั้งนี้ ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิในปัจจุบันยังต่ำกว่าเป้าหมายที่ตันละ 1.5 หมื่นบาท โดยราคาอยู่ที่ตันละ 1.2-1.3 หมื่นบาท เพราะเป็นข้าวที่มีความชื้นสูง เนื่องจากฝนตก ซึ่งชาวนายอมรับได้ แต่ในระยะต่อไป ชาวนาคาดหวังว่าราคาข้าวจะปรับตัวสูงขึ้นตามที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าเอาไว้

สำหรับกรณีที่ภาครัฐให้ความสำคัญต่อกลุ่มผู้ส่งออกมากกว่าโรงสีและชาวนานั้น เห็นว่ารัฐควรจะบริหารจัดการและให้ความสำคัญต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้าวทุกภาคส่วน จะช่วยเหลือส่วนใดส่วนหนึ่งเป็นพิเศษไม่ได้ โดยเฉพาะการกำหนดนโยบายต่างๆ เกี่ยวกับข้าว ที่ผ่านมาเห็นว่าจะมีแค่ผู้ส่งออกเท่านั้นที่ได้รับความเอาใจใส่ดูแล แต่โรงสีกับชาวนารัฐไม่ค่อยให้ความสำคัญ

นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่ารัฐได้ตั้งให้ผู้ส่งออกเข้าไปเป็นกรรมการในคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) แต่ไม่มีตัวแทนจากโรงสี และชาวนา เข้าไปเป็นกรรมการด้วย ซึ่งหากเป็นเช่นนี้จริงก็ยิ่งถือว่าเลือกปฏิบัติ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมแผนที่จะผลักดันราคาข้าวเปลือกภายในประเทศให้ปรับตัวสูงขึ้นตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยจะเร่งรัดการส่งออกข้าวไปยังตลาดต่างประเทศ เพื่อระบายผลผลิตที่กำลังออกสู่ตลาด มีเป้าหมายผลักดันส่งออกให้ได้ประมาณ 3 ล้านตัน ทั้งข้าวขาว ข้าวหอมมะลิ ข้าวนึ่ง และปลายข้าว เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือน ต.ค.นี้เป็นต้นไป ซึ่งเชื่อว่าหากทำได้ตามแผนจะช่วยให้ราคาข้าวเปลือกภายในประเทศปรับตัวสูงขึ้น

โดยตามเป้าหมายการผลักดันส่งออก 3 ล้านตัน แยกเป็นการส่งออกข้าวหอมมะลิ ข้าวนึ่ง และปลายข้าว ไปยังตลาดแอฟริกา และตะวันออกกลางเป้า 2 ล้านตัน ตลาดจีน จะเน้นข้าวหอมมะลิฤดูกาลใหม่ เพื่อช่วยดึงราคาภายในประเทศให้สูงขึ้น ตั้งเป้า 3 แสนตัน รวมถึงผลักดันไปยังตลาดฮ่องกง และสิงคโปร์ ที่นิยมข้าวหอมมะลิอีก 2 แสนตัน ส่วนที่เหลือจะเน้นตลาดอาเซียน เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ตั้งเป้า 7 แสนตัน มีทั้งข้าวหอมมะลิ และข้าวขาว

ทั้งนี้ หากสามารถผลักดันส่งออกได้ตามเป้า บวกกับมาตรการดึงราคาข้าวที่กำลังดำเนินการอยู่ ทั้งการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าว 3% ในการเก็บสต๊อกข้าว 6 ล้านตัน การจัดตลาดนัดข้าวเปลือกของกระทรวงพาณิชย์ใน 56 จังหวัด จำนวน 240 ครั้ง และการให้สินเชื่อเพื่อเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉาง จะช่วยให้ราคาเป็นไปตามที่กำหนดไว้ โดยข้าวเปลือกเจ้า 5% จะอยู่ที่ตันละ 8,500 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลิตันละ 15,000 บาท ข้าวเปลือกเหนียวตันละ 13,000 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น