ชาวนาอุบลฯ ครวญราคาข้าวเปลือกทรุด ลั่นปีหน้าลดพื้นที่ปลูก

อุบลราชธานี - ชาวนาสุดระทม หลังราคาข้าวเปลือกปี 2557/2558 ดิ่งเหว เฉลี่ยรับซื้อ 10,500-13,000 บาทต่อตัน เหตุข้าวทะลักออกสู่ตลาดจำนวนมาก ทั้งมีความชื้นสูง ขณะที่ผู้ส่งออกข้าวยังไร้ออเดอร์รายใหญ่ ทำราคารับซื้อข้าวดิ่ง

วันนี้ (5 พ.ย.) ชาวนาใน อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เริ่มเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกนาปีฤดูการผลิตปี 2557/2558 เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายหลังการเก็บเกี่ยว ทำให้มีผลผลิตข้าวเปลือกนาปีในพื้นที่ออกสู่ตลาดจำนวนมากในช่วงนี้

นายแดง มนเทียนอาสน์ ชาวนาบ้านก่อ ต.แสนสุข อ.วารินชำราบ กล่าวว่า ราคาข้าวเปลือกขณะนี้ตกต่ำกว่าทุกปี โรงสีรับซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิตันละ 10,500-13,000 บาท ตามเปอร์เซ็นต์ความชื้นเฉลี่ย 20-28% หากต้องการขายให้ได้ราคาต้องตากข้าว 4-5 วัน เพราะราคารับซื้อขณะนี้ชาวนาแทบไม่เหลือกำไร เนื่องจากต้นทุนปีนี้สูงขึ้น ทั้งปุ๋ย ค่าแรง หากชาวนาจะอยู่ได้ข้าวเปลือกหอมมะลิต้องได้ราคาเฉลี่ยตันละ 15,000 บาท

“หากราคารับซื้อข้าวเปลือกยังตกต่ำต่อไป ฤดูนาปีคงต้องลดพื้นที่ปลูกข้าว โดยจะเหลือไว้กินในครัวเรือน ไม่หวังนำไปขาย เพราะทำมากเท่าใดก็ยิ่งขาดทุนมาก”

ขณะที่นายเสริม ไชยณรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เรียกประชุมผู้ประกอบการโรงสีข้าวกว่า 30 แห่ง เพราะช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมกราคม ชาวนาจะนำผลผลิตออกมาจำหน่ายจำนวนมาก ทำให้ราคารับซื้อข้าวเปลือกผันผวน คณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงให้ความสำคัญและกำหนดนโยบายช่วยเหลือเกษตรกร โดยให้จังหวัดเข้มงวดกำกับดูแลการซื้อขายข้าวเปลือกอย่างใกล้ชิด ให้ผู้ประกอบการโรงสีข้าว และผู้ค้าข้าวในจังหวัดกำหนดราคาข้าวเปลือกไปในทิศทางเดียวกัน

สำหรับ จ.อุบลราชธานี มีพื้นที่เพาะปลูกข้าวปีผลิต 2557/2558 จำนวน 4,197,215 ไร่ แยกเป็นข้าวหอมมะลิ 3,010,445 ไร่ ข้าวเหนียว 1,187,215 ไร่ ให้ผลผลิตรวมประมาณ 1,855,756 ตัน แบ่งเป็นข้าวหอมมะลิ 1,284,986ตัน ข้าวเหนียว 570,770 ตัน และมีเกษตรกรลงทะเบียนรับเงินชดเชยการผลิตไร่ละ 1,000 บาท จำนวน 220,000 ราย

นายบู๊เฮียง รุ่งรัชกานนท์ ผู้ประกอบการโรงสีข้าวจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวถึงปัญหาที่ทำให้ข้าวราคาตกลงว่า ประการแรกยังไม่มีคำสั่งซื้อข้าวมาจากประเทศจีน ที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ของไทย ทำให้กลุ่มผู้ส่งออกข้าวไทยไม่มีตลาดระบายข้าวมากนัก ประกอบกับชาวนาเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตพร้อมกัน ทำให้ข้าวเปลือกจำนวนมากออกสู่ตลาดพร้อมๆ กัน จึงกดราคาต่ำลง

ขณะที่ผู้ประกอบการโรงสีข้าวรายหนึ่งระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ราคาข้าวเปลือกตกมาก เพราะโรงสีมีโรงอบไล่ความชื้นข้าวจำกัด แต่ชาวนาส่วนใหญ่ใช้รถเก็บเกี่ยวเสร็จก็นำมาขายให้โรงสีทันที ทำให้โรงสีรับภาระตรงนี้ไม่ไหว นอกจากนี้ตามโรงสีหลายแห่งมีข้าวจากโครงการรับจำนำของรัฐบาลเก่าเหลือค้างอยู่มาก จึงยังไม่กล้ารับซื้อข้าวใหม่ปีนี้เข้ามามากด้วย