xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนารับเคราะห์ข้าวเปลือกหอมมะลิราคาไม่ขึ้น เหตุผู้ส่งออกฉีกหน้าพาณิชย์เมินซื้อข้าวตามข้อตกลง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“พาณิชย์” เหลวดันราคาข้าวเปลือกหอมมะลิหลังผู้ส่งออกฉีกข้อตกลง กดราคาซื้อข้าวจากโรงสี ทำให้โรงสีซื้อข้าวจากชาวนาได้แค่ตันละ 1.3 หมื่นบาท จากเป้า 1.5-1.6 หมื่นบาท แนะกำหนดราคาแนะนำซื้อให้ชัดทั้งข้าวเปลือกข้าวสาร โวยราคาส่งออกสูงลิ่ว ฟันส่วนต่างเกือบตันละ 200 เหรียญ แต่ดันมากดราคาซื้อในประเทศ แถมได้อีกเด้ง รัฐเอื้อสุดๆ เอาข้าวในสต๊อกประเคนให้หากราคาข้าวหอมมะลิไม่ถึง กก.ละ 29 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการโรงสีได้ร้องเรียนมายังกระทรวงพาณิชย์ว่าผู้ส่งออกข้าวได้กดราคารับซื้อข้าวหอมมะลิจากโรงสี ซึ่งเป็นราคาส่งมอบกลางเดือน ธ.ค. 2557 ในราคาตันละ 2.4 หมื่นบาท หรือกิโลกรัม (กก.) ละ 24 บาท ทำให้โรงสีต้องไปรับซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิจากชาวนาในราคาตันละ 1.3 หมื่นบาท หรือ กก.ละ 13 บาทเท่านั้น ซึ่งไม่เป็นไปตามเป้าหมายตามแนวทางที่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ ได้ขอความร่วมมือผู้ส่งออกและโรงสีให้รับซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิจากชาวนาไม่ต่ำกว่าตันละ 1.5 หมื่นบาท หรือ กก.ละ 15 บาท

ทั้งนี้ หลังจากที่ได้มีการตกลงร่วมกันในการผลักดันราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยได้ทำหนังสือแจ้งไปยังสมาชิกสมาคมฯ ให้เสนอซื้อข้าวสารหอมมะลิจากโรงสีในราคาตันละ 2.9 หมื่นบาท หรือ กก.ละ 29 บาท เพื่อให้โรงสีไปซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิฤดูกาลใหม่ปี 2557/58 จากชาวนาในราคาไม่ต่ำกว่าตันละ 1.5 หมื่นบาท หรือ กก.ละ 15 บาท แต่เมื่อผู้ส่งออกไม่ทำตามข้อตกลง และมากดราคาซื้อข้าวจากโรงสี ทำให้โรงสีไม่สามารถซื้อข้าวจากชาวนาในราคาที่กำหนดได้

“การที่ผู้ส่งออกมากดราคาซื้อข้าวจากโรงสี ทำให้โรงสีไม่มีทางเลือก จึงต้องไปกดราคาซื้อข้าวจากชาวนาอีกต่อหนึ่ง ทำให้ราคาไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ตันละ 1.5 หมื่นบาท เพราะหากโรงสีซื้อในราคาที่กำหนดก็ต้องประสบกับภาวะขาดทุน จึงอยากให้กระทรวงพาณิชย์กำหนดราคาแนะนำในการรับซื้อข้าวให้ชัดทั้งข้าวเปลือกหอมมะลิและข้าวสารหอมมะลิ เพราะถ้าไม่กำหนดราคาขั้นต่ำเอาไว้ หากผู้ส่งออกไม่ทำตาม โรงสีก็ซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาในราคาที่กำหนดไม่ได้”

นอกจากนี้ แม้จะมีการรับจำนำข้าวเปลือกหอมมะลิที่ยุ้งฉาง เพื่อให้ชาวนาเก็บข้าวเปลือกสต๊อกเอาไว้ก่อน แต่ในขณะนี้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ และชาวนามีการเก็บเกี่ยวข้าวแบบใช้รถไถ ทำให้มีผลผลิตออกมาพร้อมกันเป็นจำนวนมาก และข้าวยังมีความชื้นสูง และเก็บไว้ในยุ้งฉางไม่ได้ เพราะอาจเกิดความเสียหายได้ จึงต้องเร่งขาย ราคาก็ยิ่งตกต่ำ

แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการโรงสีกล่าวว่า ราคาที่ผู้ส่งออกรับซื้อข้าวสารหอมมะลิอยู่ที่ 2.4 หมื่นบาท/ตันนั้น ทอนออกมาเป็นราคาเอฟโอบีอยู่ที่ 724 เหรียญสหรัฐ/ตัน แต่ราคาส่งออกข้าวหอมมะลิในตลาดปัจจุบันอยู่ที่ 915 เหรียญสหรัฐ/ตัน ผู้ส่งออกได้กำไรจากส่วนต่างตรงนี้เกือบ 200 เหรียญสหรัฐ/ตัน ซึ่งจริงๆ แล้วน่าจะมาช่วยรับซื้อข้าวในราคาตามที่กำหนดได้ ไม่ใช่อ้างเหตุผลเรื่องตลาดผู้ซื้อชะลอการซื้อข้าว แล้วมากดราคารับซื้อภายในประเทศ

สำหรับรายละเอียดของหนังสือเรื่องข้อเสนอโครงการดูแลราคาข้าวหอมมะลิใหม่ ฤดูกาลนาปี 2557/58 ที่สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยจัดทำให้และแจ้งไปยังสมาชิกนั้น กำหนดให้สมาชิกสมาคมฯ ที่เคยเข้าร่วมโครงการข้าวหอมมะลิใหม่ภาคอีสานและภาคเหนือ เสนอซื้อข้าวหอมมะลิใหม่ฤดูนาปี 2557/58 เพื่อการส่งออกจากโรงสีในราคา 29 บาท/กก. ส่งถึงหน้าโกดังผู้ส่งออก และต้องได้รับการยืนยันจากโรงสีในการรับซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิจากชาวนาไม่ต่ำกว่า 1.5 หมื่นบาท/ตัน ในข้าวความชื้น 15%

อย่างไรก็ตาม หากราคาข้าวสารหอมมะลิต่ำกว่า 29 บาท/กก. จะขอให้รัฐจ่ายชดเชยตามจริงจากสต๊อกที่มีอยู่ ณ วันที่ 30 ธ.ค. 2557 ของแต่ละราย โดยคำนวณจากราคาข้าวสารกรมการค้าภายในเฉลี่ยทุกวันศุกร์ของเดือน พ.ย.-ธ.ค. และส่วนต่างราคาดังกล่าวจะจ่ายชดเชยเป็นข้าวในอัตราต่อไปนี้ คือ ข้าวสารขาว 5% ปี 2556/57 ราคา 11 บาท/กก. ข้าวสารขาว 5% ปีก่อนหน้า 2556/57 ราคา 10.50 บาท/กก. ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ปี 2556/57 ราคา 27 บาท/กก. โดยระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่ 1 พ.ย.-30 ธ.ค. 2557 ซึ่งหลักในการปฏิบัติดังกล่าวผู้ส่งออกและโรงสีต่างต้องสมัครใจเข้าสู่โครงการเพื่อจับคู่ส่งมอบสินค้าซึ่งกันและกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น