รัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ บวกน้ำมันลด ดันดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค ต.ค.พลิกฟื้นตัว หลังหัวทิ่มเมื่อเดือน ก.ย.

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ต.ค.พลิกกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังตกไปเดือนก่อน เหตุมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาลดึงความเชื่อมั่นได้ แถมน้ำมันลด ส่งออกฟื้น เผยคนมีความสุขมากขึ้น ทำดัชนีสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และยังเลิกวิตกเรื่องการเมือง แนะรัฐอัดฉีดเพิ่มเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง

นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ต.ค. 2557 จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 2,252 รายทั่วประเทศว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวมอยู่ที่ 80.1 เพิ่มจาก 79.2 ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในปัจจุบันอยู่ที่ 61.1 เท่ากับเดือน ก.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอนาคตอยู่ที่ 87.2 เพิ่มจาก 85.8 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 69.6 เพิ่มจาก 69.2 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานทำอยู่ที่ 73.8 เพิ่มจาก 72.9 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 97.0 เพิ่มจาก 95.5

ปัจจัยบวกที่ส่งให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้น มาจากรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาส 4 วงเงิน 3.6 แสนล้านบาท เป็นงบช่วยเหลือชาวนา 4 หมื่นล้านบาท และงบลงทุนต่างๆ 3.2 แสนล้านบาท สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2558 จะเติบโตได้ 4.1% จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ระดับราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ขายปลีกในประเทศลดลงประมาณลิตรละ 2 บาท ดีเซลลดลง 0.60 บาท และการส่งออกเดือน ก.ย.ปรับเพิ่มขึ้น 3.2%

ส่วนปัจจัยลบ ได้แก่ สศค.ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2557 ลงเหลือ 1.4% จากเดิม 2% ราคาพืชผลทางการเกษตรทรงตัวอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลงเล็กน้อย ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าลง สะท้อนถึงเงินตราต่างประเทศไหลออกสุทธิ และผู้บริโภคยังมีความกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพราคาแพง และความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

ทั้งนี้ หากแยกตามภูมิภาค ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ในส่วนของกรุงเทพฯ และปริมณฑลกับภาคกลาง เพิ่มสูงที่สุดคือ 1.1 จุด รองลงมาเป็นภาคตะวันออก เพิ่มขึ้น 1 จุด ขณะที่ภาคใต้ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพิ่มประมาณ 0.6-0.7 จุด เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการที่ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ

สำหรับผลการสำรวจภาวการณ์ทางสังคม พบว่า ดัชนีความสุขในการดำเนินชีวิตปัจจุบันเพิ่มจาก 92 เป็น 96.7 ส่วนอีก 3 เดือนข้างหน้าเพิ่มจาก 102.1 เป็น 104.6 ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ความคิดเห็นต่อสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันเพิ่มจาก 91.8 เป็น 95.7 ส่วนอีก 3 เดือนข้างหน้าเพิ่มจาก 102.3 เป็น 103.9 เนื่องจากคนมั่นใจต่อสถานการณ์การเมืองที่ดีขึ้น

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือน ต.ค.ที่กลับมาดีขึ้นอีกครั้งหลังจากลดลงไปในเดือน ก.ย. มาจาก 2 เหตุผลหลัก คือ คนเห็นว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 3.6 แสนล้านบาท จะเป็นตัวช่วยหมุนระบบเศรษฐกิจได้มากขึ้น และคนเริ่มรู้สึกว่ารัฐบาลกดราคาสินค้าไม่ให้ปรับสูงขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันทั้งเบนซินและดีเซลปรับลดลง ส่วนการปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีแอลและเอ็นจีวีไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน

“หากรัฐบาลต้องการกระตุ้นความเชื่อมั่นและผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย จะต้องเร่งอัดฉีดงบประมาณซ่อม สร้าง โดยเร็วในเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งจะทำให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น และส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยศูนย์ฯ ยังคงประมาณการเศรษฐกิจปีนี้ไว้ที่ 1.3-1.5% ส่วนปี 2558 คาดว่าจะโตได้ 4-5%” นายธนวรรธน์กล่าว