xs
xsm
sm
md
lg

แชร์ลูกโซ่ปรับวิธีโกงใหม่ หลอกชาวบ้านเปิดบริษัท “พาณิชย์” โดดช่วย หวั่นถูกหลอกตบทรัพย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“พาณิชย์” จับตาธุรกิจลูกโซ่รูปแบบใหม่ หลอกชาวบ้านเปิดบริษัท พบที่ อ.ลี้ 120 ราย ยังไม่ทราบหลอกแบบไหน แต่น่าสงสัยให้เปิดบริษัทรับเหมา อาจหลอกให้ลงทุนโครงการเมกะโปรเจกต์ของรัฐ ประสานผู้ว่าฯ นายอำเภอ ช่วยชี้แจง พร้อมแนะให้จดเลิกก่อนบานปลาย พร้อมคุมเข้มจดตั้งบริษัทขายตรงรายใหม่ ส่วนรายเก่าขอรายชื่อ สคบ.ตรวจ หากพบผิดปกติแจ้งดีเอสไอร่วมสอบต่อ เผยยอดบริษัทตั้งใหม่ ก.ย.สูงสุดรอบปี คาดทั้งปีทะลุ 6 หมื่นรายแน่

น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ที่ อ.ลี้ จ.ลำพูน หลังพบว่ามีการจดทะเบียนเพิ่มมากขึ้นอย่างผิดปกติ โดยมีกลุ่มบุคคลจำนวน 4 ราย ลงไปชักจูงให้ชาวบ้านมาทำการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด เพื่อลงทุนทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ล่าสุดมีผู้มายื่นจดทะเบียนแล้ว 120 ราย ซึ่งกรมฯ กำลังตรวจสอบอยู่ว่าเป็นการจัดตั้งขึ้นมาเพื่อทำธุรกิจแชร์ลูกโซ่ หรือเป็นการหลอกลวงเพื่อวัตถุประสงค์อย่างอื่น

“ตอนนี้มีกลุ่มบุคคลเข้าไปชักจูงชาวบ้านให้มาจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัดในพื้นที่ อ.ลี้ และพื้นที่ใกล้เคียงเป็นจำนวนมากผิดปกติ ทั้งๆ ที่ชาวบ้านไม่รู้ว่าจะจดไปเพื่ออะไร ซึ่งกรมฯ กำลังเฝ้าระวังว่าอาจจะเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่ หรือการทำธุรกิจหลอกลวง เพื่อให้ชาวบ้านเอาเงินมาลงทุนในภายหลัง เพราะทำเหมือนว่าชาวบ้านเป็นเจ้าของธุรกิจจากการที่ได้จดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจเอง แต่จริงๆ ไม่น่าจะใช่” น.ส.ผ่องพรรณกล่าว

ทั้งนี้ เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าขบวนการดังกล่าวทำไปเพื่อวัตถุประสงค์อะไร แต่มีแนวโน้มที่จะเป็นการหลอกหลวงให้เข้ามาลงทุน โดยให้เข้ามาลงทุนในลักษณะเครือข่าย เช่น อ้างว่าถ้าลงทุนมากก็จะได้รับส่วนแบ่งมาก เพราะตอนนี้รัฐบาลมีโครงการเมกะโปรเจ็กต์มาก ก็น่าเป็นห่วง หากมีการหลอกลวงให้มาลงทุน ซึ่งกรมฯ ได้ประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และให้จังหวัดแจ้งไปยังอำเภอให้ช่วยสอดส่องดูแล และแจ้งชาวบ้านว่าหากไม่ประสงค์ที่จะประกอบธุรกิจ ขอให้แจ้งยกเลิกการจดทะเบียนธุรกิจ เพราะไม่เช่นนั้นต่อไปจะมาภาระในการทำบัญชี และส่งงบเงินการตามกฎหมาย หากไม่ทำก็จะมีความผิด

น.ส.ผ่องพรรณกล่าวว่า การจดตั้งธุรกิจขายตรงรายใหม่ กรมฯ จะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบการขอจดทะเบียน โดยให้ใช้บัตรประชาชนตัวจริงของผู้ถือหุ้นทุกคน มีสถานที่ตั้งชัดเจน และในการยื่นจดจัดตั้งธุรกิจก็จะอนุญาตให้จดตั้งใหม่ได้ตามขั้นตอนปกติ แต่หากทำธุรกิจขายตรงก็จะต้องมีการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ก่อนถึงจะรับจดทะเบียนในการทำธุรกิจขายตรงให้

นอกจากนี้ ในส่วนของธุรกิจขายตรงรายเดิมที่จัดตั้งมาก่อนหน้านี้ กรมฯ ได้ประสานงานกับ สคบ. เพื่อขอรายชื่อบริษัทที่มีการร้องเรียนจากประชาชน โดยจะเข้าไปทำการตรวจสอบงบการเงินว่ามีการส่งงบการเงินหรือไม่ ตรวจสอบรายชื่อกรรมการว่ามีความเกี่ยวพันเกี่ยวเนื่องไปยังบริษัทอื่นๆ หรือไม่ เพื่อจับตาการทำธุรกิจ และหากได้ข้อมูลแล้ว ก็จะส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบยังบริษัท และหากพบผิดปกติ ก็จะประสานให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้ามาร่วมตรวจสอบต่อไป

น.ส.ผ่องพรรณกล่าวว่า ในเดือน ก.ย. 2557 มีผู้ประกอบการยื่นจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 6,079 ราย เพิ่มขึ้น 875 ราย หรือเพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 457 ราย หรือเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับเดือน ก.ย. 2556 ซึ่งเป็นการจดทะเบียนตั้งใหม่เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบปี 2557 ส่วนการจดทะเบียนเลิก มีจำนวน 1,643 ราย เพิ่มขึ้น 407 ราย หรือเพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบกับเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 193 ราย หรือเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับเดือน ก.ย. 2556

สำหรับแนวโน้มการจดทะเบียนตั้งใหม่ในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าจะยังขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะคนเริ่มมั่นใจในการทำธุรกิจ ประกอบกับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น โดยทั้งปีคาดว่าการจดตั้งใหม่จะทำได้ 6 หมื่นกว่ารายขึ้นไป โดยเฉลี่ยอีก 3 เดือน น่าจะจดตั้งใหม่ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 5 พันราย โดยในช่วง 9 เดือนของปี 2557 (ม.ค.-ก.ย.) มีธุรกิจจดตั้งใหม่แล้ว 46,341 ราย และจดทะเบียนเลิก 10,206 ราย

ส่วนผลการเปิดให้บริการยื่นจดทะเบียนข้ามเขต ตั้งแต่ 2 มิ.ย. 2557 พบว่า ในเดือน ก.ย. 2557 มียื่นขอจดทะเบียนข้ามเขต 824 ราย คิดเป็น 14% จากการจดทะเบียนทั่วประเทศ 6,079 ราย และการให้บริการตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคลผ่านแอปพลิเคชันทางมือถือ มีผู้ใช้บริการรวม 1.63 แสนครั้งนับตั้งแต่เปิดให้บริการวันที่ 16 ม.ค. 2557 และนับเฉพาะเดือน ก.ย. 2557 มีผู้ใช้ระบบ 3.33 หมื่นราย
กำลังโหลดความคิดเห็น