สพฐ. ไม่ปักใจเชื่อผลตรวจสอบเบื้องต้นของ สพป.สมุทรปราการ เขต 1 ระบุ ผอ.ร.ร.มหาภาพฯ บริสุทธิ์ไม่ได้มีการขายตรงกับ นร. และผู้ปกครอง “กมล” เผยได้ข้อมูลวงในแจ้งว่า ผอ.ร.ร. เป็นนักขายตรง ทั้งตั้งข้อสังเกตกรณีเก็บเงิน 550 บาท เพื่อร่วมกิจกรรมนอกพื้นที่อาจไม่สมเหตุสมผล พร้อมส่งหน่วยเฉพาะกิจ สพฐ. ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลที่แท้จริงอีกครั้ง ก่อนสรุปว่าต้องตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือไม่
จากกรณีที่มีการเผยแพร่และแชร์กระทู้ “ประสบการณ์ประชุมผู้ปกครองครั้งแรก เป็นไปได้ถึงขนาดนี้แล้วหรอ” ซึ่งมีผู้ตั้งกระทู้ดังกล่าวไว้ในเว็บบอร์ดชื่อดัง เพื่อบอกเล่าถึงความไม่เหมาะสมของครูอาจารย์ และผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ ที่มีการเชิญผู้ปกครองของนักเรียนชั้น ม.4 มาประชุมเพื่อให้ได้มาเห็นการวางแผนของโรงเรียนให้กับเด็กนักเรียน โดยมีนโยบายคล้ายธุรกิจขายตรง ทั้งกระบวนทางความคิด และนโยบายที่ใช้ (HLP = Happy Life Project) พร้อมทั้งมีแผนการพาเด็กออกนอกสถานที่ โดยอ้างว่าไปทัศนศึกษาในวันที่ 17 - 18 ต.ค. นี้ ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี พร้อมกับมีการขายบัตรในการร่วมเข้าประชุมอบรมรายละ 550 บาท ทำให้บรรดาผู้ปกครองเกิดความไม่พอใจและเกิดเสียงวิจารณ์กันอย่างหนักในสังคมออนไลน์
วันนี้ (7 ต.ค.) นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่า ทาง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) สมุทรปราการ เขต 1 ได้รายงานผลการสอบเบื้องต้นมายัง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยระบุว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมหาภาพกระจาดทองอุปถัมภ์ ซึ่งเปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นการประชุมผู้ปกครองนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และได้สรุปผลมาว่า นายพงษ์ศักดิ์ ธีระวรรณสาร ผอ.โรงเรียน ไม่มีความผิด เนื่องจาก นายพงษ์ศักดิ์ ชี้แจงว่า ทางโรงเรียนได้เปิดห้องเรียนพิเศษศิลป์ธุรกิจ จำนวน 1 ห้องเรียน มีนักเรียน 30 คน และในหลักสูตรดังกล่าวจะมีการเรียนวิชาขายตรง ส่วนกรณีที่ให้นักเรียนไปร่วมในการประชุมที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานีนั้น ก็เป็นส่วนหนึ่งของการดูงานนอกสถานที่ และได้มีการประชุมชี้แจงผู้ปกครองไปก่อนหน้าแล้วจึงไม่ถือว่ามีความผิด เพราะไม่พบความผิดปกติ
อย่างไรก็ตาม สพฐ. ได้ตรวจสอบข่าววงในพบว่า กรณีดังกล่าวน่าจะมีความผิดปกติเพราะมีข้อมูลว่า ผอ.โรงเรียน เป็นนักขายตรง อีกทั้งกรณีดังกล่าวยังดูเป็นการทำกิจกรรมโดยเฉพาะเจาะจงกับบริษัทขายตรงแห่งหนึ่งเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ซึ่งความจริงแล้วหากเป็นการเปิดสอนวิชาขายตรงจริงๆ ก็ไม่ควรระบุหรือเจาะจงเฉพาะชื่อบริษัท อีกทั้งยังมีการเก็บค่าใช้จ่ายรายละ 550 บาท ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นค่าสมัครสมาชิก ทั้งนี้ ถ้าเป็นการไปดูงานจะต้องไม่มีการเก็บค่าใช้จ่าย หรือถ้าจะขอเก็บเพียง 100 บาท เพื่อเป็นค่าเดินทางก็ยังพอรับฟังได้ แต่การเก็บถึง 550 บาทไม่สมเหตุสมผล
“ทีมงานของ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ส่งข้อมูลมาให้ สพฐ. ที่ได้มาจากกระทู้จากเว็บบอร์ดชื่อดัง ซึ่งมีประชาชนส่งมาให้ยัง รมช.ศึกษาธิการ อีกต่อหนึ่ง เพราะฉะนั้น สพฐ. จึงได้ส่งศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน (ฉก.ชน.) ไปตรวจสอบข้อมูลใหม่ ถ้าผลการตรวจสอบออกมาพบความผิดปกติก็จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ถ้าไม่พบความผิดปกติก็ต้องถือว่า ผอ.โรงเรียน มีความบริสุทธิ์ โดยคาดว่าการตรวจสอบของ ฉก.ชน. จะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในวันนี้” นายกมล กล่าว
ด้าน พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ขอเวลาตรวจสอบเรื่องนี้ก่อน เพราะเพิ่งทราบเรื่องจากสื่อมวลชนวันนี้ (7 ต.ค.) ทั้งนี้ หากผบว่า การจัดพานักเรียนไปร่วมประชุมที่เมืองทองธานี้นั้น ผอ.โรงเรียนฯ ดำเนินการโดยหวังผลประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ก็ถือว่ามีความผิด ต้องพิจารณาลงโทษไปตามระเบียบ
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
จากกรณีที่มีการเผยแพร่และแชร์กระทู้ “ประสบการณ์ประชุมผู้ปกครองครั้งแรก เป็นไปได้ถึงขนาดนี้แล้วหรอ” ซึ่งมีผู้ตั้งกระทู้ดังกล่าวไว้ในเว็บบอร์ดชื่อดัง เพื่อบอกเล่าถึงความไม่เหมาะสมของครูอาจารย์ และผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ ที่มีการเชิญผู้ปกครองของนักเรียนชั้น ม.4 มาประชุมเพื่อให้ได้มาเห็นการวางแผนของโรงเรียนให้กับเด็กนักเรียน โดยมีนโยบายคล้ายธุรกิจขายตรง ทั้งกระบวนทางความคิด และนโยบายที่ใช้ (HLP = Happy Life Project) พร้อมทั้งมีแผนการพาเด็กออกนอกสถานที่ โดยอ้างว่าไปทัศนศึกษาในวันที่ 17 - 18 ต.ค. นี้ ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี พร้อมกับมีการขายบัตรในการร่วมเข้าประชุมอบรมรายละ 550 บาท ทำให้บรรดาผู้ปกครองเกิดความไม่พอใจและเกิดเสียงวิจารณ์กันอย่างหนักในสังคมออนไลน์
วันนี้ (7 ต.ค.) นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่า ทาง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) สมุทรปราการ เขต 1 ได้รายงานผลการสอบเบื้องต้นมายัง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยระบุว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมหาภาพกระจาดทองอุปถัมภ์ ซึ่งเปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นการประชุมผู้ปกครองนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และได้สรุปผลมาว่า นายพงษ์ศักดิ์ ธีระวรรณสาร ผอ.โรงเรียน ไม่มีความผิด เนื่องจาก นายพงษ์ศักดิ์ ชี้แจงว่า ทางโรงเรียนได้เปิดห้องเรียนพิเศษศิลป์ธุรกิจ จำนวน 1 ห้องเรียน มีนักเรียน 30 คน และในหลักสูตรดังกล่าวจะมีการเรียนวิชาขายตรง ส่วนกรณีที่ให้นักเรียนไปร่วมในการประชุมที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานีนั้น ก็เป็นส่วนหนึ่งของการดูงานนอกสถานที่ และได้มีการประชุมชี้แจงผู้ปกครองไปก่อนหน้าแล้วจึงไม่ถือว่ามีความผิด เพราะไม่พบความผิดปกติ
อย่างไรก็ตาม สพฐ. ได้ตรวจสอบข่าววงในพบว่า กรณีดังกล่าวน่าจะมีความผิดปกติเพราะมีข้อมูลว่า ผอ.โรงเรียน เป็นนักขายตรง อีกทั้งกรณีดังกล่าวยังดูเป็นการทำกิจกรรมโดยเฉพาะเจาะจงกับบริษัทขายตรงแห่งหนึ่งเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ซึ่งความจริงแล้วหากเป็นการเปิดสอนวิชาขายตรงจริงๆ ก็ไม่ควรระบุหรือเจาะจงเฉพาะชื่อบริษัท อีกทั้งยังมีการเก็บค่าใช้จ่ายรายละ 550 บาท ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นค่าสมัครสมาชิก ทั้งนี้ ถ้าเป็นการไปดูงานจะต้องไม่มีการเก็บค่าใช้จ่าย หรือถ้าจะขอเก็บเพียง 100 บาท เพื่อเป็นค่าเดินทางก็ยังพอรับฟังได้ แต่การเก็บถึง 550 บาทไม่สมเหตุสมผล
“ทีมงานของ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ส่งข้อมูลมาให้ สพฐ. ที่ได้มาจากกระทู้จากเว็บบอร์ดชื่อดัง ซึ่งมีประชาชนส่งมาให้ยัง รมช.ศึกษาธิการ อีกต่อหนึ่ง เพราะฉะนั้น สพฐ. จึงได้ส่งศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน (ฉก.ชน.) ไปตรวจสอบข้อมูลใหม่ ถ้าผลการตรวจสอบออกมาพบความผิดปกติก็จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ถ้าไม่พบความผิดปกติก็ต้องถือว่า ผอ.โรงเรียน มีความบริสุทธิ์ โดยคาดว่าการตรวจสอบของ ฉก.ชน. จะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในวันนี้” นายกมล กล่าว
ด้าน พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ขอเวลาตรวจสอบเรื่องนี้ก่อน เพราะเพิ่งทราบเรื่องจากสื่อมวลชนวันนี้ (7 ต.ค.) ทั้งนี้ หากผบว่า การจัดพานักเรียนไปร่วมประชุมที่เมืองทองธานี้นั้น ผอ.โรงเรียนฯ ดำเนินการโดยหวังผลประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ก็ถือว่ามีความผิด ต้องพิจารณาลงโทษไปตามระเบียบ
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
กำลังโหลดรุ่นพี่เทคโนฯสวนนันขอขมาอธิการบดี กรณีหยดน้ำตาเทียนใส่รุ่นน้อง ขณะที่ผลสอบวินัยสั่งลงโทษไม่ร้ายแรง ตักเตือน 23 คน ภาคทัณฑ์ 10 คน ตัดคะแนนความประพฤติอีก 10 คน