บอร์ด ทอท.คลอดสุวรรณภูมิเฟส 2 โฉมใหม่ ลงทุน 6.16 หมื่นล้าน “ประสงค์” ฟุ้งประหยัดกว่าแผนเดิมแถมได้รันเวย์ที่ 3 ด้วย คุยไม่ต้องกู้เพิ่มใช้เงินสดหมุนเวียนและกำไรมาลงทุน เร่งสรุปรายละเอียดเสนอ “ประจิน” และ ครม.เห็นชอบการปรับแผนใหม่ พร้อมอนุมัติจ่ายโบนัสปี 57 ที่ 6.5 เท่า ยันพนักงานเข้าใจ เหตุกันเงินไว้ลงทุนเพื่ออนาคต เผยผู้โดยสารปี 57 โตลดลง แต่ปี 58 คาดโต 5% เร่งลดรายจ่ายช่วยพยุงกำไร
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด ทอท.วันนี้ (16 ต.ค.) มีมติเห็นชอบแนวทางการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะ 2 (ปีงบประมาณ 2554-2560) ตามแผนงานที่มีการปรับใหม่ ซึ่งมีวงเงินลงทุนรวม 61,600 ล้านบาท จากแผนเดิมที่มีวงเงินลงทุน 62,503.214 ล้านบาท โดยจะดำเนินการก่อสร้าง 4 งานหลักก่อน ประกอบด้วย 1. ทางวิ่ง (รันเวย์) เส้นที่ 3 วงเงิน 1.9 หมื่นล้านบาท (พร้อมค่าชดเชยเสียง) พร้อมสาธารณูปโภคและสถานีดับเพลิงและกู้ภัย เพื่อสนับสนุนรันเวย์ เพื่อรองรับกรณีรันเวย์ที่ 1, 2 เกิดปัญหา ซึ่งปัจจุบันต้องมีการปิดซ่อมบำรุงทุกวันในช่วงเวลา 01.00-04.00 น. 2. ลานจอดอากาศยานระยะไกล จำนวน 28 หลุมจอด (Remote Parking) และก่อสร้างอุโมงค์ลอดใต้รันเวย์1, 2 (APM ) ไปยัง Remote Parking 28 หลุมจอด พร้อมระบบไฟฟ้า ประปา และระบบดับเพลิง วงเงิน 1.1 หมื่นล้านบาท 3. ก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ด้านเหนือใช้งานในลักษณะ Multi Function Terminal และระบบรถไฟฟ้าโมโนเรลและอาคารจอดรถรองรับอาคารด้านเหนือ วงเงิน 2.9 หมื่นล้านบาท 4. งานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค วงเงิน 2.6 พันล้านบาท
โดยงานของเฟส 2 เดิมที่ตัดออกไปคือ การก่อสร้างส่วนขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก สำหรับรองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ พื้นที่ประมาณ 14,580 ตารางเมตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้อาคารผู้โดยสารหลัก วงเงินประมาณ 6,780.190 ล้านบาท และงานออกแบบและก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Midfield Satellite) พร้อมติดตั้งอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการด้านกิจกรรมการบินอย่างครบถ้วน วงเงินประมาณ 27,864.653 ล้านบาท ซึ่งหากดำเนินการตามแผนเฟส 2 เดิม วงเงิน 6.25 หมื่นล้านบาท รวมกับรันเวย์ที่ 3 วงเงิน 1.9 หมื่นล้านบาท และระบบสายพาน อีก 4,000 ล้านบาท จะต้องใช้เงินลงทุนรวมถึง 85,500 ล้านบาทในการขยายขีดความสามารถเฟส 2 เพื่อรองรับผู้โดยสารเพิ่มจาก 45 ล้านคนต่อปีเป็น 60 ล้านคนต่อปี แต่แผนใหม่ที่ปรับ อาคาร Multi Function Terminal จะรองรับผู้โดยสารได้อีก 20 ล้านคน รวมอาคารเดิมรองรับได้เป็น 65 ล้านคนต่อปี และยังลดความเสี่ยงกรณีที่เกิดปัญหาขึ้นในอาคารหลัก ยังมีอาคารผู้โดยสารสำรองที่สามารถบริหารจัดการได้โดยไม่กระทบต่อการให้บริการ
ทั้งนี้ ได้ให้ฝ่ายบริหาร ทอท.เร่งจัดทำรายละเอียดแผนงานการลงทุนในแต่ละปี และนำเสนอที่ประชุมบอร์ดวันที่ 28 ตุลาคมนี้อีกครั้ง เพื่อสรุปเสนอต่อ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป เบื้องต้นคาดว่าไม่มีความจำเป็นต้องกู้เงินมาดำเนินการเหมือนแผนเฟส 2 เดิม เนื่องจากลงทุนเมื่อรวมกับรันเวย์ 3 แล้วประหยัดการลงทุนกว่า 2 หมื่นล้านบาท และสามารถใช้เงินสดหมุนเวียน (Cash Flow) ที่มีประมาณ 44,000 ล้านบาท กับกำไรซึ่งจะกันไว้สำหรับลงทุนอีกปีละไม่ต่ำกว่า 50% ทุกปีต่อจากนี้ จากเดิมที่กันส่วนของกำไรไว้ประมาณ 20% เท่านั้น
“ในส่วนของ Multi Function Terminal จะต้องทำการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) ใหม่ แต่เชื่อว่าจะใช้เวลาไม่นานเนื่องจากเป็นการก่อสร้างในพื้นที่สนามบินและใกล้กับจุดเดิมที่จะก่อสร้าง Midfield Satellite ที่ผ่าน EIA แล้ว ซึ่งตามแผนใหม่จะเร่งก่อสร้างรันเวย์ที่ 3 และหลุมจอดให้เสร็จในปี 2560 ส่วน Multi Function Terminal จะเสร็จในปี 2561 ส่วน Midfield Satellite ที่เป็นเฟส 2 เดิมนั้นจะต้องมีการทบทวนการใช้วัสดุตกแต่งที่เหมาะสมและประหยัดงบประมาณลง เพื่อให้เป็นไปตามข้อสังเกตของ คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐ (คตร.) เพราะเมื่อทำ Multi Function Terminal แล้วงานบางอย่างที่อยู่ใน Midfield Satellite อาจไม่จำเป็นต้องทำ และวางแผนปรับ Remote Parking เป็นหลุมจอดประชิดอาคาร” นายประสงค์กล่าว
ทำความเข้าใจพนักงานจ่ายโบนัส 6.5 เดือนเพื่อกันเงินลงทุนเพิ่ม
นายประสงค์กล่าวว่า บอร์ด ทอท.มีมติอนุมัติจ่ายเงินรางวัลประจำปีพนักงานที่ 6.5 เท่า ซึ่งได้ทำความเข้าใจกับพนักงานว่า บริษัทฯ จำเป็นต้องกันกำไรบางส่วนไว้สำหรับลงทุนก่อสร้างขยายขีดความสามารถขององค์กร เพื่อสร้างความมั่นคงและสร้างรายได้ในระยะยาว ซึ่งพนักงานเข้าใจดี โดยในการลงทุนจะมองกระแสการเงิน รายได้ รายจ่าย ที่เหมาะสม ซึ่งในปี 2558 คาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นและรายได้จะเติบโตมากกว่าปี 2557 ประมาณ 5% ส่วนปี 2557 (ตุลาคม 2556-กันยายน 2557) ปริมาณการจราจรทางอากาศของท่าอากาศยาน 6 แห่ง มีเที่ยวบินรวม 609,937 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 9.03% โดยเที่ยวบินภายในประเทศเพิ่มขึ้น 17.18% เที่ยวบินระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 2.75% มีผู้โดยสารรวม 87.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.67% โดยผู้โดยสารภายในประเทศเพิ่มขึ้น 14.4% ผู้โดยสารระหว่างประเทศ ลดลง 5.66% โดยที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 1.71% ผู้โดยสาร 46.49 ล้านคน ลดลง 8.65% ท่าอากาศยานดอนเมืองมีเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 19% ผู้โดยสาร 19.3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 24.33% โดยตั้งเป้าว่าปี 2558 ดอนเมืองจะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 30%
เปิดรับสมัครเอ็มดี ทอท. คาดได้ตัว ธ.ค. 57
ส่วนการสรรหาผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.คนใหม่นั้น นายประสงค์กล่าวว่า ตั้งเป้าให้สรุปผลการสรรหาภายในเดือนธันวาคมนี้ แต่ตามกระบวนการเมื่อสรุปผลสรรหาแล้วต้องเสนอ ครม.เห็นชอบอีก คาดว่ากว่าจะเริ่มงานได้อาจจะเป็นเดือนมีนาคม 2558 โดยขณะนี้คณะกรรมการสรรหาที่มี่นายราฆพ ศรีศุภอรรถ เป็นประธาน ได้มีการประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ระหว่างวันที่ 16 ตุลาคม-6 พฤศจิกายน 2557 โดยกำหนดประกาศรายชื่อผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามประกาศในวันที่ 9 ธันวาคม 2557
พร้อมกันนี้ บอร์ดเห็นชอบแต่งตั้งคณะพิจารณาการใช้ประโยชน์เขตปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรณภูมิ โดยมี นาวาอากาศตรี ประจักษ์ สัจจโสภณ เป็นประธาน เพื่อ ศึกษาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางขนส่งสินค้าทางอากาศของภูมิภาคเอเชีย ศึกษาปัญหาและอุปสรรคและเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหา การดำเนินการของเขตปลอดอากรและคลังสินค้าเพื่อพัฒนาพื้นที่เขตปลอดอากรและคลังสินค้า และสร้างรายได้เพิ่ม