ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ท่าอากาศยานภูเก็ต เดินหน้าพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มเป็นปีละกว่า 11 ล้านคนแล้ว วางแผนเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับกลุ่มผู้โดยสารระดับพรีเมียมให้มากขึ้น จากข้อจำกัดไม่สามารถขยายพื้นที่รองรับได้มากกว่านี้แล้ว
วันนี้ (7 ต.ค.) นายนิรันดร์ ธีรนาทสิน กรรมการ ทอท.รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นางมนฤดี เกตุพันธุ์ ผู้เชี่ยวชาญ 10 รักษาการผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) แถลงข่าวในโอกาสครบรอบ 26 ปี และพร้อมก้าวเข้าสู่ปีที่ 27 ท่าอากาศยานภูเก็ต ณ Terminal X ท่าอากาศภูเก็ต
นายนิรันดร์ กล่าวว่า ท่าอากาศยานภูเก็ตเปิดให้บริการมาครบรอบ 26 ปีแล้ว และกำลังก้าวสู่ปีที่ 27 ทางท่าอากาศยานภูเก็ต ได้พัฒนาศักยภาพด้านบริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกให้พร้อมทุกด้านเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางที่เกี่ยวเนื่องกับการบิน และเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้านการขนส่งทางอากาศ และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน
ในปีงบประมาณ 2557 ท่าอากาศยานภูเก็ต มีการเติบโตของผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีจำนวนผู้โดยสาร 11,275,805 80 คน เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 2.70 มีเที่ยวบิน 74,501 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.13 และมีจำนวนสินค้า 39,644 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.92
สำหรับการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวก และการบริการต่างๆ ของท่าอากาศยานภูเก็ต ในปีงบประมาณ 2557 ท่าอากาศยานภูเก็ต ได้ดำเนินการตามแผนงานพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต โดยมีการปรับปรุงพื้นผิวทางวิ่ง ปรับปรุงระบบไฟฟ้าสนามบิน จัดทำสถานที่จอดรถยนต์สำหรับสุภาพสตรี (Ladies Parking) ปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อคนพิการภายในท่าอากาศยาน เช่น การทำทางลาด พื้นผิวสัมผัสปุ่มนูน พื้นที่จอดรถคนพิการ ติดตั้งแผ่นพื้นต่างสัมผัส จัดทำป้ายสัญลักษณ์คนพิการ และติดตั้งแผนผังอาคารผู้โดยสารเพื่อคนพิการ เป็นต้น รวมทั้งการจัดระเบียบรถแท็กซี่ที่ให้บริการรับส่งผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อความสะดวก และความปลอดภัยของผู้โดยสาร
นายนิรันดร์ กล่าวต่อว่า ทอท.ได้กำหนดวิสัยทัศน์เพื่อก้าวสู่การเป็น “ผู้ดำเนินการและจัดการท่าอากาศยานที่ดีระดับโลก” (AOT Operates The World’s Smartest Airports) พร้อมทั้งได้กำหนดบทบาทเชิงยุทธศาสตร์ของท่าอากาศยานภูเก็ตเป็นประตูสู่อันดามัน (Gateway to the Andaman) เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามบทบาททางยุทธศาสตร์ ทาง ทอท.จึงได้กำหนดให้มีการดำเนินการตามแผนงานโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศที่เพิ่มขึ้นในอนาคตให้ได้มาตรฐานสากล เพื่อเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคต่อไป ซึ่งการก่อสร้างดังกล่าวใช้งบประมาณ 5,700 ล้านบาท จะคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค.2559 ทำให้ท่าอากาศยานภูเก็ต สามารถรองรับผู้โดยสารจาก 6.5 ล้านคนเป็น 12.5 ล้านคนต่อปี ขีดความสามารถของทางวิ่งรองรับได้ 20 เที่ยวต่อชั่วโมง เพิ่มหลุมจอดอากาศยานจาก 15 หลุม เป็น 20 หลุมจอด เพิ่มสะพานเทียบเครื่องบินจากเดิม 7 ชุด เป็น 11 ชุด เพิ่มพื้นที่จอดรถจาก 500 คัน เป็น 1,500 คัน ซึ่งขณะนี้อาคารจอดรถยนต์ดังกล่าวอยู่ระหว่างเตรียมการเปิดใช้อาคารอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้
นายนิรันดร์ กล่าวอีกว่า จากการที่ท่าอากาศยานภูเก็ต มีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัด จึงเป็นอุปสรรคในการขยายขีดความสามารถในการรองรับที่จะต้องมีการตัดภูเขา หรือถมทะเล ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ ดังนั้น จากการประชุมร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เมื่อเร็วๆ นี้ เห็นว่าน่าที่จะพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ตเป็นท่าอากาศยานที่มีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารระดับพรีเมียมให้มากยิ่งขึ้น โดยการเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นสายการบินใหญ่ๆ หรือเส้นทางที่เป็นกลุ่มมหาเศรษฐีจำนวนมากๆ เครื่องบินส่วนตัว ให้บินมายังภูเก็ตเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเรื่องนี้อยู่ระหว่างการศึกษา แต่ทาง ทอท.เชื่อมั่นว่าเมื่อโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ตแล้วเสร็จทั้งหมด ท่าอากาศยานภูเก็ต จะมีความพร้อมในการรองรับผู้โดยสารกลุ่มพรีเมียมมากยิ่งขึ้น
ด้าน นางมนฤดี เกตุพันธุ์ ผู้เชี่ยวชาญ 10 รักษาการผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวถึงการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารในระหว่างการก่อสร้าง ว่า ทางท่าอากาศยานภูเก็ตได้วางแผนในการให้บริการผู้โดยสารที่สะดวกสบายมากที่สุดภายใต้ข้อจำกัดของการก่อสร้าง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไฮซีซันที่กำลังจะมาถึงนี้ ที่จะมีผู้โดยสารเดินทางเข้ามาจำนวนมากในแต่ละวัน